ฟู่
ลมหายใจของหลินสวินเปลี่ยนเป็นหอบถี่
ทุกครั้งที่หายใจก็เจ็บสะท้านถึงภายในเหมือนกับเป็นตะคริวอย่างไรอย่างนั้น ทำให้สีหน้าเขาซีดขาวยิ่งขึ้น
โชคดีอย่างเดียวก็คือ บาดแผลบริเวณหน้าอกฟื้นฟูดีดังเดิมแล้ว
ปึ้ก!
ใต้ชายคาบ้านหลังหนึ่งที่ห่างออกไป เงาร่างของผู้ฝึกปราณคนหนึ่งล้มลงกับพื้น สิ้นใจอย่างเงียบเชียบ
ไม่นานนักบนถนนอีกด้านหนึ่งปรากฏร่างเงาจำนวนหนึ่งกรูออกมา ทว่าพวกเขายังไม่ทันได้ลงมือต่างก็ล้มลงไปนอนกองกับพื้นทีละคน สิ้นชีพอยู่ตรงนั้น
ตั้งแต่ต้นจนบัดนี้ หลินสวินไม่เคยหยุดฝีเท้าเลย ถึงขั้นไม่ได้หันไปมองด้วยซ้ำ
เขารู้ว่าขอเพียงเสี่ยวอิ๋นยังอยู่ ต่อให้บุคคลขอบเขตมกุฎจู่โจมก็ไม่อาจทำอันตรายตนได้
ไม่นาน มุมถนนเปลี่ยวที่ห่างไกลก็ปรากฏบ้านหลังหนึ่ง
นั่นคือที่พักที่หลินสวินเคยซื้อไว้ก่อนหน้านี้
‘นายท่าน สถานการณ์ดูไม่ชอบมาพากลนัก!’ เสียงเตือนสื่อจิตของเสี่ยวอิ๋นดังขึ้น น้ำเสียงเคร่งขรึม
หลินสวินก็สังเกตได้อย่างฉับไวว่าในเวลานี้มีแสงเคลื่อนงดงามเป็นสายๆ พุ่งออกมา ประดุจกระแสน้ำไหลมาจากทั่วทิศ
เห็นชัดว่าพวกเขามาจากขุมอำนาจใหญ่ที่แตกต่างกัน รวมตัวเป็นกลุ่ม ดูเหิมหาญยิ่งนัก
เมื่อมองไปยังที่ห่างไกล ทั่วทุกแห่งล้วนเต็มไปด้วยเงาร่างผู้ฝึกปราณ หนาแน่นดุจฝูงตั๊กแตน ทำให้ผู้คนหวาดผวา
เสียงที่ได้ยินล้วนเป็นเสียงของแสงเคลื่อนทะลวงอากาศ ฟังดูน่าอกสั่นขวัญแขวน
เห็นได้ชัดว่าผู้สืบทอดขุมอำนาจใหญ่แต่ละแห่งที่ปักหลักอยู่ในเมืองต่างรีบเร่งมาทันทีที่ได้รับข่าว หมายจะฉวยโอกาสนี้บุกสังหารหลินสวินในคราวเดียว!
‘เสี่ยวอิ๋น กลับมาเถอะ ต่อจากนี้ไม่ต้องลำบากเจ้าลงมือแล้ว’
นัยน์ตาของหลินสวินเยียบเย็น แฝงด้วยความเรียบเฉยอย่างที่สุด
‘นายท่าน…’
เสี่ยวอิ๋นตะลึงงัน
‘ทำไม เจ้ายังไม่เชื่อใจข้าอีกอย่างนั้นหรือ’
ขณะที่หลินสวินกำลังเอ่ยวาจา การกระทำกลับไม่ได้หยุดลงแม้แต่น้อย ร่างกายพริบไหวมาถึงหน้าบ้านของตน
ทว่าเวลานี้เสี่ยวอิ๋นกลับดื้อดึงนัก สีหน้าเด็ดเดี่ยวเอ่ยว่า ‘นายท่าน แม้สู้จนตัวตายข้าก็ไม่ขอถอยกลับ ขอให้ข้าต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับท่านเถิด!’
หลินสวินอึ้งงันในใจ พลันยิ้มออกมาและไม่กล่าวมากความอีก
ครืน!
ห้วงอากาศร้อนเร่า เปลวเพลิงสีทองโหมซัด เหล่าผู้แข็งแกร่งเผ่าอีกาทองปรากฏกายแล้ว ร่อนลงบนพื้นดิน สายตาจับจ้องหลินสวินเป็นอันดับแรก จ้องมองราวกับกำลังมองดูคนตายอย่างไรอย่างนั้น
“สหายยุทธ์เผ่าอีกาทองทุกท่าน สามารถปล่อยเจ้านี่ให้เขาวิญญาณหมื่นอสูรของพวกเราจัดการได้หรือไม่!”
ขณะเดียวกันหลูชวนแห่งเขาวิญญาณหมื่นอสูรก็พาผู้ฝึกปราณกลุ่มหนึ่งมาด้วย ท่าทีเด็ดเดี่ยวน่าเกรงขาม ปิดล้อมไว้ด้านหนึ่ง
“ไม่ได้ เทพมารหลินนี่จะต้องให้พวกเราชาวสำนักยุทธ์นครนิลเป็นคนจัดการ!”
“ทุกท่าน เทพมารหลินมีความแค้นฝังแน่นกับเผ่าของข้า หากปล่อยให้พวกเราจัดการ เผ่าวิญญาณสมุทรของข้าจะซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่ง”
“เหอะ เจ้านี่เป็นคนสังหารผู้สืบทอดลัทธิบูชาจันทร์ของเราในหุบเขาผลาญสวรรค์ ขอเตือนทุกท่านอย่าได้ยื่นมือเข้ามาสอด เทพมารหลินคนนี้พวกเราจะเป็นคนจัดการเอง!”
เสียงตะโกนร้องดังกึกก้องไปทั่วฟ้าดิน
สิ้นเสียง เหล่าผู้แข็งแกร่งจากแต่ละขุมอำนาจต่างทยอยปรากฏกายออกมายังพื้นที่นี้ พร้อมล้อมปิดตายบ้านพักของหลินสวิน
ท่าทีของพวกเขาดูฮึกเหิม เผยไอสังหารออกมาให้เห็นอย่างหมดสิ้น ทำให้กลางอากาศแห่งนี้คละคลุ้งไปด้วยไอสังหารที่สะกดผู้คนเอาไว้
นัยน์ตาของหลินสวินเยียบเย็น จ้องมองนิ่งๆ กำลังจดจำชื่อของสำนักต่างๆ ที่ปรากฏตัวขึ้นไว้ในใจ
ห่างออกไปไกลยังมีผู้ฝึกปราณมากมายยืนชมอยู่
เมื่อมองเห็นภาพเช่นนี้ ก็อดหนาวสะท้านไปทั้งร่างไม่ได้ สถานการณ์ของเทพมารหลินในขณะนี้กล่าวได้ว่าถูกศัตรูรายล้อม รับการโจมตีจากทั่วทิศ!
เขาที่กำลังบาดเจ็บเจียนตายเรียกได้ว่าภยันตรายมีมากกว่าโชคเป็นแน่!
ทว่าสิ่งที่ทำให้คนใจสั่นที่สุดก็คือท่าทีของขุมอำนาจใหญ่ต่างๆ ที่กำลังโต้เถียงกันอย่างไม่ลดราวาศอก เห็นได้ชัดว่าหลินสวินกลายเป็นเหยื่ออันโอชะในสายตาของพวกเขา ที่ตอนนี้ยังไม่ได้ลงมือ ก็เพราะกำลังแย่งชิงสิทธิ์ครอบครองกันอยู่!
นี่ทำให้หลินสวินดูน่าเศร้าเป็นอย่างมาก
เขาก่อนหน้านี้เหิมหาญขนาดไหน พลานุภาพสะเทือนใต้หล้า กวาดสายตาไปทั่วทิศในแดนเผาเซียน แทบไม่มีผู้ใดอาจหาญต่อกรกับเขา
ทว่าเวลาเคลื่อนคล้อยไปกว่าครึ่งปี ผู้ฝึกปราณส่วนหนึ่งกลายเป็นราชัน กระโดดพ้นห้าระดับใหญ่ เหยียบย่างในยอดเขาที่สูงยิ่งกว่าแล้ว
ส่วนเทพมารหลิน ต่อให้จะเย้ยฟ้าอีกแค่ไหน กระนั้นจะสามารถเป็นคู่ประมือกับผู้แข็งแกร่งระดับราชันได้อย่างไร
ดังคาด เมื่อเขาปรากฏตัวก็ถูกผู้แข็งแกร่งระดับราชันจู่โจมทันทีจนแทบจะเอาชีวิตไม่รอด ต่อให้รอดก็ยังได้รับบาดเจ็บสาหัส
มาบัดนี้ยิ่งตกอยู่ในสถานการณ์อับจนเช่นนี้ ถูกคนดูแคลนว่าเป็นเหยื่อ นี่ไม่ใช่เรื่องน่าเศร้าหรือ
ขณะนี้ไม่รู้มีผู้ที่กำลังชมการต่อสู้มากน้อยเท่าไรทอดถอนใจ พยัคฆ์ลำบากในที่ราบถูกสุนัขรังแก นี่เป็นคำอธิบายเหตุการณ์ที่อยู่เบื้องหน้าได้เป็นอย่างดี
“หยุดพูดจาเหลวไหล เทพมารหลินผู้นี้พวกเราจะสังหารเอง!”
ภายในลาน ผู้แข็งแกร่งเผ่าอีกาทองสีหน้าอึมครึม ไม่ยอมคุมเชิงกับขุมอำนาจอื่น ชิงลงมือโดยตรง
โครม!
เปลวเพลิงสีทองเต็มฟ้าโฉบออกมา เจิดจ้าพร่าตาแผดเผาห้วงอากาศ นี่คือชายชุดทองคนหนึ่ง ทรงพลานุภาพและเผด็จการยิ่ง
“บังอาจ!”
“ถอยไป!”
ขุมอำนาจอื่นๆ ย่อมไม่พอใจ และแทบจะลงมือโจมตีใส่หลินสวินพร้อมกัน
ชั่วขณะเดียวบริเวณนี้ล้วนถูกแสงสมบัติพร่างพรายและวิชามากมายปกคลุม เสมือนใต้หล้าจมสู่ความเศร้าสลด เมฆลมเปลี่ยนสี
น่าหวาดหวั่นเป็นอย่างยิ่ง!
ผู้แข็งแกร่งที่อยู่ไกลออกไปต่างตกใจจนลมหายใจสะดุด ตกตะลึงอย่างยิ่ง
ภายใต้การปิดล้อมเช่นนี้ เทพมารหลินจะหลบหนีได้อย่างไร
ผู้ฝึกปราณไม่น้อยที่นับถือหลินสวินก็ล้วนแต่ทำใจดูต่อไปไม่ไหว ภายในใจเกิดความทุกข์โศกและเวทนาหลินสวิน
ทว่าทันใดนั้นการเปลี่ยนแปลงผิดวิสัยก็บังเกิดขึ้น…
บ้านที่หลินสวินพำนักอยู่ปรากฏระลอกคลื่นต้องห้ามโหมกระหน่ำราวกับผืนสมุทรกว้าง กระบวนค่ายกลสลักวิญญาณไหวกะพริบ ทำให้การจู่โจมและแสงสมบัติเต็มฟ้าห่างไปสิ้น
วู้ม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์