บนพื้นชายหนุ่มเฉียบคมตายอนาถ กระดูกล้วนถูกกระแทกแตก ศีรษะแหลกเละ
เหตุการณ์นองเลือดนี้สะเทือนขวัญผู้คนทั่วทั้งลาน
“เป็นคนที่สามสิบเจ็ดแล้ว…”
มีคนถอนใจเบาๆ
ยอดจำนวนนี้ทำให้หลินสวินขมวดคิ้วอีกครั้ง
เขาไม่เอ่ยมากความ ก้าวออกมาจากฝูงชนตรงๆ
ยามศิษย์น้องเฟิงผู้นั้นกำลังหันกลับไป ก็มองเห็นว่ามีอีกคนเดินออกมาพอดี พลันเลิกคิ้วขึ้น ใบหน้าซีดขาวแววเย็นเยียบ “โอ๊ะ คนกระดูกเหล็กโผล่มาอีกคนแล้วหรือ”
ตรงระตูทางเข้าหอมกุฎ ลั่วชวนและเหล่าผู้สืบทอดสำนักอนธการทั้งหมดต่างอึ้งไปบ้าง เหมือนประหลาดใจเป็นอย่างมากว่าเวลานี้ยังมีคนกล้าออกมารนหาที่ตายอีกหรือ
หรือการข่มขู่เมื่อรู่ยังไม่มากพอ
“ศิษย์น้องเฟิง ดูท่าคนมากมายคงนึกว่าเจ้ารังแกง่ายสินะ” ผู้หญิงชุดฟ้ายิ้มงดงามเจือแววกระเซ้า
“ศิษย์น้องเฟิง ไม่สู้ให้ข้าลองไปเล่นสักหน่อย”
มีคนกระดี๊กระด๊าอยากลองดู
แตกต่างจากปฏิกิริยาของผู้สืบทอดสำนักอนธการเหล่านี้ เมื่อเห็นเงาร่างหลินสวินปรากฏออกมา ผู้ฝึกปราณที่อยู่ใกล้ๆ ต่างผงะ ใจสั่นรุนแรง สีหน้าผิดแปลกในทันใด
เทพมารหลิน!
สำหรับผู้ฝึกปราณในเมืองแล้ว ใครเล่าจะไม่รู้ตัวตนของหลินสวิน
ชั่วขณะเดียวผู้ฝึกปราณทั้งหมดต่างปิดปากไม่เอ่ยคำราวกับมีสัญญาณลับ ไม่คิดเอ่ยเตือนคนต่างแดนเหล่านั้นว่าชายหนุ่มที่อยู่เบื้องหน้าคนนี้น่าสะพรึงมากเพียงใด
พวกเขาล้วนกักเก็บความตื่นเต้นไว้ในใจ เตรียมตัวดูเรื่องสนุก!
“เจ้าก็คิดจะท้าประลองกับข้าหรือ”
ในเวลานี้ศิษย์น้องเฟิงสีหน้านิ่งเฉย มองหลินสวินที่เดินเข้ามา นัยน์ตาสาดประกายไอสังหารอย่างไม่มีปิดบัง
“ข้าจะขึ้นหอ เจ้าจะขัดขวางหรือ”
หลินสวินถามย้อนกลับไป ขณะที่กล่าวเขาก็ไม่ได้หยุดฝีเท้าแม้แต่น้อย
ขึ้นหอ!
ได้ยินดังนี้พวกพวกลั่วชวนต่างขมวดคิ้ว เจ้านี่มองสถานการณ์ไม่ออกหรือไร ที่แห่งนี้ถูกพวกเขาปิดล้อมไว้แล้ว เจ้าหมอนี่กลับมีท่าทีเช่นนี้ หมายความว่าไม่เห็นหัวพวกเขาหรือ
“หยุด!”
เมื่อเห็นหลินสวินเดินต่ออย่างเฉยๆเมย ศิษย์น้องเฟิมีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมา นัยน์ตาปะทุไอสังหาร รู้สึกว่าตนถูกหยามเกียรติ
ตูม!
ยามเอ่ยวาจา เขาชูมือขึ้นหมายจะคว้าจับหัวหลินสวิน
นี่เป็นจุดตาย เห็นได้ชัดว่าเมื่อศิษย์น้องเฟิงลงมือ ก็ไม่ได้คิดจะหยุดยั้งหลินสวิน แต่เป็นการเข้าโจมตีสังหารอีกฝ่าย!
คนตายแล้ว ก็เท่ากับว่าขัดขวางได้สำเร็จ
เพียงแต่ผู้คนรอบข้างที่เห็นภาพเหตุการณ์ดังกล่าวต่างมีสีหน้าแปลกชอบกล พวกเขาเคยเห็นคนรนหาที่ตายมาก่อน แต่กลับยังไม่เคยเห็นคนที่รีบร้อนรนหาที่ตายเช่นนี้มาก่อน
ทว่า ไม่มีผู้ใดเอ่ยเตือนเช่นเดิม!
ในใจทุกคนล้วนอัดอั้น แทบอยากหลินสวินเปิดฉากสังหารโดยเร็ว มีหรือจะบอกข่าวแก่ ‘แขกต่างแดน’ เหล่านี้อีก
หืม
ขณะเดียวกันลั่วชวนก็สังเกตได้ว่าบรรยากาศภายในลานออกจะไม่ชอบมาพากล ทว่าเขายังไม่ทันตอบสนอง ก็บังเกิดการเปลี่ยนแปลงน่าตกตะลึงขึ้นในลานแห่งนี้
ปัง!
ทันใดนั้นศิษย์น้องเฟิงเข่าทรุดลงกระแทกกับพื้น หัวเข่าทั้งสองข้างแตกทลาย พื้นดินต่างสะเทือนไปด้วย
จากนั้นลำคอของเขาบิดเบี้ยว พลังชีวิตตัดขาด ก่อนตายยังคงอยู่ในท่าคุกเข่าเช่นนั้น เลือดไหลนองออกมาจากขาทั้งสองเป็นสีแดงฉานบาดตา
ทว่านี่เป็นเพียงพลังที่หลินสวินสะบัดมือออกไปลวกๆ เท่านั้นเอง!
เฮือก
ถึงแม้คาดการณ์ไว้แล้วว่าศิษย์น้องเฟิงไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของหลินสวินได้แน่ แต่กระนั้นเมื่อเห็นภาพเหตุการณ์ดังกล่าว ฝูงชนรอบด้านกลับยังสูดหายใจเย็นดังเดิม
แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!
ไม่เสียทีที่เป็นเทพมารหลิน ความสามารถของศิษย์น้องเฟิงเมื่อสักครู่ ทุกคนล้วนเห็นอยู่ใน เป็นเป็นบุคคลขอบเขตมกุฎอย่างไม่ต้องสงสัย
ทว่าบัดนี้กลับตายอย่างง่ายดายเพียงแค่ฝ่ามือเดียวของหลินสวิน!
หน้าประตูทางเข้าหอมกุฎ พวกลั่วชวนล้วนหน้าเปลี่ยนสี เคร่งขรึมมึนตึง โกรธเกรี้ยวอย่างที่สุด พร้อมกันนั้นก็มีความรู้สึกหนาวเยือกอย่างบอกไม่ถูก
การโจมตีเดียวก็สังหารศิษย์น้องเฟิงได้ นี่ไม่ใช่ว่าใครหน้าไหนจะสามารถทำได้!
ชายหนุ่มผู้นั้นเป็นใครกัน
“หอมกุฎเดิมทีเป็นสถานที่ที่ใครๆ ก็สามารถเข้าไปได้ พวกเจ้ากลับหมายยึดครองอย่างเผด็จการ เห็นว่าเหล่าผู้ฝึกปราณแห่งเมืองโบราณเผาเซียนรังแกกันได้ง่ายดายหรือ”
หลินสวินกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
คำพูดนี้ทำเอาผู้ฝึกปราณในลานซึ้งใจ ฮึกเหิมขึ้นมา
ขุมอำนาจใหญ่ในเมืองต่างรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี ทว่ากลับเลือกยืนดูอยู่ข้างๆ อย่างไม่ดูดำดูดี ไม่มีผู้ใดยอมออกหน้าช่วยผู้ฝึกปราณอิสระอย่างพวกเขา!
ทว่าเทพมารหลินกลับก้าวออกมา!
นี่จะไม่ให้ใครๆ รู้สึกประทับใจได้อย่างไร
มนุษย์ต่างมีหัวจิตหัวใจ เทพมารหลินอาจมีชื่อเสียงเรื่องดุร้ายโหดเหี้ยม วิธีการอำมหิตเย็นชา กระนั้นนับตั้งแต่เข้ามาในเมืองโบราณเผาเซียน กลับไม่เคยรังแกผู้ที่อ่อนแอกว่า!
ต่อให้เป็นคนที่เคยแลกเปลี่ยนซื้อขายกับเขา ก็ไม่เคยเสียเปรียบเรื่องราคาแม้แต่น้อย!
ถึงขั้นที่หลังจากเขาเปิดฉากสังหาร ชำระเลือดกับขุมอำนาจใหญ่หลายแห่ง บรรยากาศทั่วเมืองโบราณเผาเซียนก็เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน
ขุมอำนาจใหญ่เหล่านั้นก็ไม่กล้ากำเริบเสิบสานอีก เปลี่ยนเป็นสำรวมเจียมตน ความเป็นระเบียบภายในเมืองก็เรียบร้อยสงบสุข
ทั้งหมดนี้ผู้ฝึกปราณมากมายล้วนมองเห็น ในส่วนลึกของจิตใจจะไม่ซาบซึ้งต่อหลินสวินได้อย่างไร
มาบัดนี เทพมารหลินก้าวออกมาอีกครั้ง เผชิญหน้ากับแขกต่างแดนเหล่านั้น ใครเล่าจะไม่ซาบซึ้งและฮึกเหิม
เทพมารหลิน!
บางทีอาจทำให้ขุมอำนาจใหญ่เหล่านั้นเจ็บแค้นและหวาดกลัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์