Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1169

เพลิงมรรค แทนมรรควิถีของผู้แข็งแกร่งคนหนึ่ง

มรรควิถี ไม่แบ่งแยกแข็งแกร่งอ่อนแอ มีเพียงแบ่งแยกสูงต่ำ

พูดง่ายๆ ก็คือ เพลิงมรรคสะดุดตาราวดวงอาทิตย์สามพันดวงที่ปรากฎอยู่กลางห้วงฟ้านี้ แม้เป็นตัวแทนมรรควิถีของผู้แข็งแกร่งที่พาตัวเองขึ้นสู่อันดับหนึ่งของบันไดสวรรค์มหามรรคสามพันคนในสามพันแดน

แต่กลับไม่ได้บ่งบอกความแข็งแกร่งอ่อนด้อยของพลังต่อสู้พวกเขาแต่ละคน มีเพียงการเปรียบเทียบระหว่างมรรควิถีของกันและกันเท่านั้น

ทว่าต่อให้เป็นเช่นนี้ การประชันมรรคาก็ยังคงสำคัญ!

เพราะความสูงต่ำของมรรควิถี มีผลต่อความสำเร็จในภายหลัง!

ดังนั้นเมื่อเห็นเพลิงมรรคของอวิ๋นชิ่งไป๋กับเพลิงมรรคที่ปรากฏขึ้นใหม่ล้วนสำแดงอานุภาพทะยานฟ้า ไร้ศัตรูเทียมทาน ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ประหลาดยุคโบราณฝีมือสูงล้ำอย่างธิดาเทพหลิ่นเสวี่ย หรือยักษ์ใหญ่ยอดมกุฎที่มีเพียงหยิบมือในยุคปัจจุบันอย่างเย่หมัวเฮอ ต่างไม่อาจไม่ตกตะลึง ไม่อาจไม่หน้าเปลี่ยนสี!

“หืม?”

แทบจะในเวลาเดียวกัน หลินสวินก็สังเกตเห็นเพลิงมรรคของอวิ๋นชิ่งไป๋

ส่วนอวิ๋นชิ่งไป๋ ก็สังเกตเห็นของเพลิงมรรคของหลินสวินเช่นกัน

ประหนึ่งฟ้าลิขิตท่ามกลางความมืดมิด หลินสวินแน่ใจได้ในพริบตาว่าเพลิงมรรคนั้นต้องเป็นของอวิ๋นชิ่งไป๋!

เพราะกลิ่นอายที่มันแผ่ซ่านออกมา ทำให้เขารู้สึกถึงความโอหัง เย่อหยิ่งและดุดันอย่างล้นเหลือ ทั้งยังมีท่วงทำนองศักดิ์สิทธิ์อันเป็นเอกลักษณ์

ท่วงทำนองเช่นนั้น ล้ำลึกและสุดหยั่งราวเหวลึก สามารถควบคุมการขึ้นสูงและลงต่ำ สามารถกลืนกินแปดภูมิได้!

เป็นเขา!

ประกายน่าหวาดหวั่นแผ่ซ่านในดวงตาของหลินสวิน จิตใจปั่นป่วน บังเกิดคลื่นซัดไร้ที่สิ้นสุด

มารในใจมีอยู่ทุกที่ ผู้ฝึกปราณแทบทุกคนล้วนเป็นเพราะยึดติดกับบางเรื่อง จึงกลายเป็นมีมารในใจ

การสังหารอวิ๋นชิ่งไป๋ก็คือสิ่งที่หลินสวินยึดติด เป็นด่านมารของเขา!

หากอวิ๋นชิ่งไป๋ไม่ตาย มารในใจก็กำจัดได้ยากนัก!

“แดนมกุฎก็คือที่ฝังกระดูกของเจ้า กำจัดมารในใจของข้า ชดใช้หนี้เลือดด้วยเลือด!” หลินสวินพึมพำ ไอสังหารไร้รูปโอบล้อมรอบกาย

ท้ายที่สุด ไอสังหารก็สงบลง

ส่วนจิตใจปั่นป่วนไม่หยุดหย่อนของหลินสวินก็ค่อยๆ สงบลง ราบเรียบไม่ไหวหวั่น

เขารอมานานเกินไปแล้ว สติสัมปชัญญะจะยังได้รับผลกระทบได้อย่างไร

“ดูท่าจะเป็นเขาดังคาด…”

เดิมทีอวิ๋นชิ่งไป๋คิดจะจากไป แต่ตอนนี้กลับยืนนิ่งอยู่เช่นนั้น ดวงตาจดจ้องไปที่เพลิงมรรคของหลินสวิน

ในใจนึกถึงภาพแล้วภาพเล่าสมัยไปยังโลกชั้นล่างในตอนนั้น

“คิดไม่ถึงว่าทารกที่ถูกชิงชีพจรปราณวิญญาณต้นกำเนิดไปคนหนึ่งจะยังประสบความสำเร็จในวันนี้ได้ ช่างน่าประหลาดใจเสียจริง”

อาภรณ์ของอวิ๋นชิ่งไป๋โบกพลิ้ว สีหน้าเรียบเฉยดังเดิม แม้แต่สภาวะจิตยังไม่หวั่นไหวสักนิด

ใช่แล้ว เขาเพียงรู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง แต่ไม่มีความสั่นสะท้านหรือฉงนใจหลังจากรู้ความจริงสักนิด ยิ่งไม่อาจมีความรู้สึกผิดอะไร

“หลินสวิน หลินสวิน… สวิน… เจ้ามายังดินแดนรกร้างโบราณ ที่เสาะหาก็คือข้ากระมัง (*คำว่าสวิน ในชื่อหลินสวิน หมายถึงเสาะหา) และต่อให้ไม่มีความแค้นในหนนั้น ข้าก็จะฆ่าเจ้า”

อวิ๋นชิ่งไป๋เอามือไพล่หลัง เงาร่างราวกระบี่ สง่างามไร้ผู้ใดเทียบเทียมได้

ตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาได้ยินชื่อหลินสวินนี้ กระทั่งตอนนี้ได้รู้ฐานะของหลินสวิน อวิ๋นชิ่งไป๋ก็ไม่ได้สะทกสะท้านแต่อย่างใด

เพราะแม้หลินสวินไม่ใช่เด็กทารกในตอนนั้น เขาก็ตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะกำจัดหลินสวินอยู่ก่อนแล้ว

สาเหตุก็ง่ายดายนัก เพื่อชำระความอัปยศให้กับสำนัก!

นี่ก็คือท่าทีของอวิ๋นชิ่งไป๋

ศัตรูเก่าหรือ

ยังไม่ถึงขั้นนั้น

ทารกที่เดิมทีควรตายไปแล้วคนหนึ่ง ไม่คู่ควรเป็นศัตรูเก่าของตน!

ในห้วงอากาศ เพลิงมรรคสองดวงพุ่งทะลุเมฆา ต่างอยู่สูงล้ำกว่าเพลิงมรรคดวงอื่น ประหนึ่งมังกรพยัคฆ์ชิงความเป็นหนึ่ง ดาบกระบี่ชิงชัย

ล้วนแข็งแกร่งนัก!

แข็งแกร่งจนเหลือเชื่อ!

นี่เป็นข้อสรุปที่ผู้แข็งแกร่งคนอื่นซึ่งเห็นภาพนี้ได้มาอย่างเป็นเอกฉันท์

ทว่าใครกันแน่ที่จะอยู่เหนือขึ้นไป และใครกันที่จะถูกกดหัว

นี่เป็นสิ่งที่ใครก็ไม่อาจตัดสินได้ทันที

กระทั่งว่าถึงตอนนี้นอกจากอวิ๋นชิ่งไป๋ ยังมีน้อยคนนักที่ดูออกว่าเพลิงมรรคซึ่งปรากฏขึ้นใหม่ดวงนั้นเป็นของหลินสวิน

ส่วนในตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นหลินสวินหรืออวิ๋นชิ่งไป๋ ต่างเคลื่อนไหวเช่นเดียวกัน…

ชักสายตากลับมา

หันกาย แล้วจากไป

ตั้งแต่เริ่มจนจบล้วนไม่สนใจห้วงฟ้านั้นอีก

สำหรับหลินสวินแล้ว ไม่ว่าเพลิงมรรคครั้งนี้จะอยู่สูงหรือต่ำ อวิ๋นชิ่งไป๋ก็ต้องตาย

สำหรับอวิ๋นชิ่งไป๋แล้ว ก็เป็นเช่นนี้เช่นกัน!

นี่เป็นท่าทีที่แน่ชัดอยู่ในใจ แม้ไม่เคยพบหน้ากันมาตลอด แต่อาศัยการประชันความสูงต่ำของเพลิงมรรคครั้งนี้ กลับทำให้ทั้งสองล่วงรู้ถึงการมีอยู่ของอีกฝ่ายอย่างรางๆ!

……

ทั้งสองไม่สนใจ ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะไม่สนใจ

อีกทั้งไม่นานนักผลลัพธ์ก็ปรากฏแล้ว!

ตูม!

เพลิงมรรคของอวิ๋นชิ่งไป๋มาถึงจุดสูงสุดของห้วงฟ้า อยู่เหนือสรรพสิ่ง ประหนึ่งนายเหนือหัว

เพียงแต่ไม่ทันที่ทุกคนจะตอบสนอง เพลิงมรรคของหลินสวินกลับลอยสูงขึ้นไปถึงจุดสูงสุด เคียงข้างกับเพลิงมรรคของอวิ๋นชิ่งไป๋!

ชั่วพริบตา ขอเพียงเป็นผู้แข็งแกร่งทุกคนที่เหยียบย่างลงบนขั้นสูงสุดของบันไดสวรรค์มหามรรคและสังเกตเห็นภาพนี้ ต่างแสดงสีหน้าตระหนกทำใจเชื่อได้ยาก

เคียงบ่าเคียงไหล่หรือ

เป็นใครกันถึงสามารถแซงหน้าผู้มาก่อน สูสีกับอวิ๋นชิ่งไป๋ได้

เป็นสัตว์ประหลาดยุคโบราณที่ฝีมือเป็นที่ตื่นตาในนิรันดร์กาลสักคนหนึ่ง หรืออาจจะเป็นปีศาจที่มีท่วงท่าเย้ยฟ้าในยุคปัจจุบันหรือ

ความสงสัยเหล่านี้ย่อมไม่อาจมีคำตอบได้

เพราะไม่นานนักก็มีความเปลี่ยนแปลงใหม่เกิดขึ้นอีก…

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์