“ออกมาแล้ว!”
นอกหอมกุฎกระสับกระส่ายอยู่ครู่หนึ่ง สายตานับไม่ถ้วนรวมอยู่ที่หลินสวินซึ่งเยื้องย่างออกมาจากในหอทันที
หลังจากรู้ข่าวว่าหลินสวินฝ่าบันไดสวรรค์มหามรรควันนี้ ทั้งเมืองโบราณเผาเซียนก็ครึกโครม ผู้ฝึกปราณไม่รู้เท่าไรล้วนมารวมตัวกัน
ดังนั้นเมื่อหลินสวินเดินออกมา จึงเห็นว่าในบริเวณใกล้เคียงมีเงาร่างของผู้ฝึกปราณหนาแน่นคับคั่งอยู่เต็มไปหมด
น่าตื่นตานัก!
หลินสวินอึ้งไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ ออกจะประหลาดใจ
และในตอนนี้เอง หลินสวินถึงได้รู้ว่าทุกการเคลื่อนไหวของตน กลายเป็นที่จับตามองของผู้ฝึกปราณมากมายอยู่ก่อนแล้ว
สิ่งนี้ คงเรียกว่าเป็นบารมีอย่างหนึ่งคงได้กระมัง
หลินสวินครุ่นคิด
“คุณชายหลิน ขอบังอาจถามท่านสักคำ ผลการฝ่าด่านคราวนี้เป็นอย่างไรขอรับ”
มีคนทำใจดีสู้เสือเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง
เมื่อพูดคำนี้ออกไป พลันทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นหูผึ่ง
หลินสวินยิ้มให้แล้วกล่าวว่า “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ข้าตั้งตาคอยให้มีคนสามารถเบียดตำแหน่งข้าลงไปได้ หากใครทำได้ ข้าหลินสวินจะขอเลี้ยงเหล้า!”
ทั้งที่นั้นอึกทึกครึกโครม!
คำพูดนี้ดูเหมือนพูดเรื่อยเปื่อย แต่พิสูจน์ได้อย่างไม่ต้องสงสัย ว่าเทพมารหลินได้ขึ้นไปถึงขั้นสูงสุดของบันไดสวรรค์มหามรรคแล้ว เขาไม่มีอะไรให้ก้าวข้ามอีก
ก็เปรียบเหมือนอันดับหนึ่ง ทำได้เพียงรอถูกคนอื่นก้าวข้าม!
“ขอแสดงความยินดีกับคุณชายหลิน!”
“นับจากวันนี้ไป ในบรรดาคนรุ่นเดียวกันนับล้านคนในแดนเผาเซียน จะมีคุณชายหลินเป็นผู้นำ!”
ตอนนี้เสียงอวยพรดังขึ้นไม่ขาดสายราวกระแสน้ำ กึกก้องในฟ้าดินบริเวณนี้
และเวลานี้หลินสวินได้ก้าวเดินจากไปแล้ว
ที่ที่เขาผ่าน ไม่ว่าใครก็พากันถอยหนีเปิดทางให้ สีหน้าเจือไปด้วยความชื่นชมและเคารพไม่มากก็น้อย
“เด็กนี่มีบารมีดั่งสุริยัน สาดส่องเมืองนี้เพียงลำพัง ในบรรดาคนรุ่นเดียวกันใครจะแตะต้องได้”
ไกลออกไป พวกลั่วชวนจากสำนักอนธการได้เห็นภาพนี้กับตา ในใจก็สั่นสะท้านเพราะสิ่งนี้ ทว่าสีหน้ากลับดูอึมครึมผิดธรรมดา
ก่อนหน้านี้ตอนหลินสวินขึ้นหอ เคยขัดแย้งกับพวกเขา
ทว่าตอนนี้พวกลั่วชวนได้ดับความคิดที่จะเอาคืนไปสิ้นแล้ว ในใจยิ่งเจ็บแค้นขุมอำนาจใหญ่ในเมืองเหล่านั้น!
หากไม่ใช่เพราะขุมอำนาจใหญ่เหล่านี้จงใจปิดบัง ใส่ไฟให้พวกเขาควบคุมหอมกุฎ จะไปขัดแย้งกับเทพมารหลินได้อย่างไร
“ไป ไปเรียกร้องความยุติธรรมกับไอ้พวกที่ยืมมีดฆ่าคน หน้าเนื้อใจเสือพวกนั้น!”
ลั่วชวนกัดฟัน ในใจคับข้องยากทนได้
ถูกคนอื่นหลอกใช้ ล่วงเกินผู้แข็งแกร่งยิ่งคนหนึ่งโดยไม่ได้ตั้งใจ นี่ทำให้เขาไม่อาจยอมได้
ทว่ายามพวกเขามาถึงอาณาเขตที่ขุมอำนาจใหญ่เหล่านั้นยึดครอง คิดจะทวงความยุติธรรม กลับพบว่าผู้นำของขุมอำนาจใหญ่เหล่านี้ล้วนไม่อยู่!
ไม่นานนักพวกเขาก็สืบข่าวได้ว่า ขุมอำนาจใหญ่เหล่านี้กลับรวมตัวกันไปขอรับผิดกับเทพมารหลินแล้ว ตอนนี้เป็นไปได้สูงยิ่งที่จะรออยู่หน้าตำหนักที่เทพมารหลินพำนักอยู่
นี่ทำให้พวกลั่วชวนนิ่งอึ้งไป เกิดอะไรขึ้น
“ไป ไปดูหน่อย”
ลั่วชวนตัดสินใจทันที นำทุกคนเคลื่อนไหวไปด้วย
……
หน้าตำหนักโบราณ
ขณะนี้มีเงาร่างสิบกว่าร่างรออยู่ตรงนั้นทั้งชายหญิง แต่ละคนประหนึ่งมังกรหงส์กลางหมู่มนุษย์ ท่าทางเหนือธรรมดา แม้ยังเยาว์แต่กลับมีความน่าเกรงขามอย่างยิ่ง!
พวกเขาล้วนเป็นบุคคลระดับผู้นำรุ่นเยาว์ของขุมอำนาจใหญ่ต่างๆ บ้างเป็นยักษ์ใหญ่ยอดมกุฎ บ้างเป็นสัตว์ประหลาดยุคโบราณ!
ในอดีต สุ่มเลือกพวกเขามาสักคนหนึ่ง ต่างสามารถทำให้สะท้านไปทั้งแถบ
แต่ตอนนี้พวกเขากลับรออยู่หน้าตำหนักนั้น เก็บงำความหยิ่งทระนงของตนรอคอยอย่างเงียบเชียบ หว่างคิ้วมีความกังวลฉายขึ้นแล้วหายไปเป็นครั้งคราว
ก่อนหน้านี้ยามหลินสวินเข้าไปในหอมกุฎ ได้เคยพูดไว้ว่าหากไม่ให้คำตอบที่น่าพอใจแก่เขา เขาก็ไม่ถือที่จะไปเยือนถึงที่ทีละแห่ง!
เห็นได้ชัดว่าหลินสวินมองทะลุความคิดยืมมีดฆ่าคน นั่งดูคนอื่นตีกันของพวกเขาแล้ว!
ขุมอำนาจเหล่านี้นั่งไม่ติดที่โดยพลัน
พวกเขาไม่อาจลืมว่าก่อนหน้านี้ การชำระเลือดของหลินสวินครั้งเดียวก็ล้างบางขุมอำนาจอย่างเผ่าอีกาทอง สำนักยุทธ์นครนิล เผ่าวิญญาณสมุทรออกไป ที่ตายก็ตาย ที่หนีก็หนี น่าอนาถจนทนดูไม่ได้
ในสถานการณ์เช่นนี้ หลินสวินดันพูดออกมาว่า ‘จะไปเยือนถึงที่’ จะไม่ทำให้ขุมอำนาจใหญ่เหล่านี้กระวนกระวายได้อย่างไร
พวกเขาไม่อยากถูกขับออกจากเมืองโบราณเผาเซียนแห่งนี้เหมือนขุมอำนาจอย่างพวกเผ่าอีกาทอง!
ดังนั้นยังไม่ทันรอให้หลินสวินเดินออกมาจากหอมกุฎ บุคคลระดับผู้นำของขุมอำนาจใหญ่เหล่านี้ก็รวมตัวกันมา ‘ขอรับผิด’ แล้ว!
ถึงแม้การทำเช่นนี้จะดูขายหน้านัก ไม่สมกับฐานะของพวกเขา เสื่อมเสียเกียรติยศโดยสิ้นเชิง แต่ช่วยไม่ได้ ใครให้คนที่ไปผิดใจด้วยเป็นคนร้ายกาจอย่างเทพมารหลินกัน
ที่จริงแล้วในใจพวกเขาก็กลัดกลุ้มและอัดอั้นนัก
ตั้งแต่เริ่มจนจบพวกเขายังไม่ได้ทำอะไร เพียงสังเกตการณ์อย่างเย็นชา ต้องการดูขุมอำนาจที่มาจากภายนอกเหล่านั้นขัดแย้งกับหลินสวินเสียหน่อยเท่านั้น เหตุใด… ภัยจึงตกมาถึงตัวได้
หรือการไม่เตือนขุมอำนาจจากภายนอกเหล่านั้นถึงความน่ากลัวของเทพมารหลิน ก็เป็นความผิดอย่างหนึ่งหรือ
แน่นอนว่าความอัดอั้นใจนี้พวกเขาทำได้เพียงอดทน
ในเมืองโบราณเผาเซียนแห่งนี้ ยอมล่วงเกินยมราชได้ แต่จะล่วงเกินเทพมารหลินไม่ได้!
ไม่นานนักหลินสวินก็กลับมาแล้ว เมื่อเห็นภาพนี้เข้าตอนแรกก็อึ้งไป จากนั้นถึงกระจ่างใจขึ้นมา มุมปากยกยิ้มเหี้ยมเกรียม
เขาก็ไม่ได้พูดอะไรมากมาย เดินตัดตรงไปยังตำหนักที่ตนพักอยู่
แต่นี่กลับทำให้ชายหญิงสิบกว่าคนนั้นกระวนกระวายขึ้นทันตา พากันเข้าประชิด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์