Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1185

สรุปบท ตอนที่ 1185 คิดไปเองฝ่ายเดียว: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอน ตอนที่ 1185 คิดไปเองฝ่ายเดียว จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 1185 คิดไปเองฝ่ายเดียว คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ไม่นานนักเวินเอ้าไห่ก็ก้าวไปทดสอบ

เพียงแต่ผลการทดสอบกลับทำให้เขาหนักใจ ไม่ติดอันดับ!

นี่ก็หมายความว่า ด้วยพลังต่อสู้ของเขาตอนนี้ยังไม่อาจพาตัวเองขึ้นไปบนหนึ่งร้อยอันดับแรกของกระดานทองคำผู้กล้าได้!

เวินเอ้าไห่กำหมัดทั้งสองข้างไว้แน่นอย่างเงียบเชียบ สูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ความรู้สึกไม่ยินยอมในใจถึงค่อยสงบลง แล้วจึงหันกายออกไปจากศิลาศึกอัคคีทักษิณ

ไกลออกไป พวกอูหลิงเฟิงรออยู่นานแล้ว

“อย่าท้อใจไป การช่วงชิงความเป็นหนึ่งในแดนเก้าบนเพิ่งเริ่มขึ้น การชิงอันดับในช่วงเวลาสั้นๆ ไม่สำคัญอะไร”

อูหลิงเฟิงเอ่ย “ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้แข็งแกร่งที่สามารถเข้าไปอยู่บนกระดานทองคำผู้กล้าได้จริงๆ ในตอนนี้ยังมีน้อยนิด”

“คนพวกนี้ทะลวงพลังมหามรรคที่ตนครอบครองไว้ถึงระดับ ‘ระเบียบมรรค’ เริ่มเสาะหาแสวงหนทางแห่งอมตะแล้ว”

“เวินเอ้าไห่อึ้งไป แล้วพูดว่า “มีเพียงครอบครองพลังระเบียบมรรค จึงจะสามารถเข้าไปอยู่บนกระดานทองคำผู้กล้าได้ใช่หรือไม่”

“นี่ก็คงไม่ใช่หรอก มกุฎราชันที่ล้ำเลิศถึงที่สุดบางส่วน แม้ไม่ได้ครอบครองพลังระเบียบมรรค แต่ก็มีความหวังสูงมากที่จะขึ้นไปอยู่บนนั้นได้”

อูหลิงเฟิงเอ่ย “เท่าที่ข้ารู้ ที่แดนฟ้าพายัพตอนนี้ ชื่อหลิงเซียวผู้นั้นก็ขึ้นไปอยู่ในอันดับที่เก้าสิบสามของกระดานทองคำผู้กล้าในครั้งเดียว โดยไม่ได้ครอบครองพลังระเบียบมรรค”

อันดับที่เก้าสิบสาม!

เวินเอ้าไห่นัยน์ตาหดรัดโดยพลัน

อันดับนี้ดูเหมือนต่ำ แต่อย่าลืมว่าที่แดนเก้าบนในตอนนี้ มีสัตว์ประหลาดยุคโบราณกับปีศาจเย้ยฟ้าที่โดดเด่นตระการตาไม่รู้เท่าไรรวมตัวอยู่

สามารถได้อันดับเช่นนี้มาทั้งที่ไม่ได้ครอบครองพลังระเบียบมรรค ก็เรียกได้ว่าน่าตื่นตะลึงในโลกแล้ว

ที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือ บนตำแหน่งหนึ่งร้อยอันดับแรกของกระดานทองคำผู้กล้ายังมีหลายตำแหน่งว่างอยู่ ไม่ได้ถูกคนจับจอง!

คิดเช่นนี้ในใจเวินเอ้าไห่ก็มั่นคงขึ้นไม่น้อย

“พี่อูเคยขึ้นไปอยู่บนนั้นหรือ” เขาใจไหววูบ สายตามองไปยังอูหลิงเฟิง

อูหลิงเฟิงยิ้มเนิบๆ แล้วพูดว่า “ข้าเพิ่งครอบครอบพลังระเบียบมรรคได้อย่างหนึ่ง ตอนนี้พอจะฝืนขึ้นไปอยู่ในอันดับที่เก้าสิบแปด”

วาจาเรื่อยเฉื่อย แต่ใครก็ฟังออกว่ามีความหยิ่งทระนงเผยออกมาจากถ้อยคำของเขา!

ระดับราชันคนอื่นๆ ที่อยู่ใกล้กันได้ยินดังนี้ต่างเผยความตกตะลึงอย่างอดไม่อยู่ รวมถึงความอิจฉาและหวาดหวั่นที่ยากสังเกตเห็นด้วย

อันดับที่เก้าสิบแปดก็ไม่ง่ายแล้ว

อย่างน้อยในหมู่พวกเขาระดับมกุฎราชันกลุ่มนี้ อูหลิงเฟิงก็ยังเป็นคนแรกที่ทำได้!

ทว่าก็เป็นอย่างที่อูหลิงเฟิงว่าไว้ แดนเก้าบนเพิ่งเปิดออกไม่ถึงหนึ่งเดือน การช่วงชิงอันดับในตอนนี้ไม่ได้สลักสำคัญอะไร

ในช่วงเวลาภายภาคหน้า พร้อมกับที่ศักยภาพของมกุฎราชันแต่ละคนที่เพิ่มพูนขึ้น จึงจะเป็นเวลาประชันอันดับบนกระดานทองคำผู้กล้าที่แท้จริง

“ไปเถอะ คราวนี้ที่ข้าเชิญทุกท่านก็เพื่อศุภโชคเย้ยฟ้าในเขตต้องห้ามแม่น้ำนรกแห่งนั้น หากได้ครอบครองมัน พวกเราก็มีหวังจะทะลวงอันดับสูงยิ่งขึ้นบนกระดานทองคำผู้กล้า!”

แววตาอูหลิงเฟิงเผยความเร่าร้อนออกมา

……

สามวันผ่านไป

เวินเอ้าไห่ออกจากที่พำนักของเผ่าอีกาทองและหวนกลับมา

เขาครึ้มอกครึ้มใจนัก

ด้วยการเรียกหาของอูหลิงเฟิง มีระดับมกุฎราชันเช่นเดียวกับเขาเจ็ดคนตัดสินใจในแนวทางเดียวกัน ว่าจะเข้าร่วมการเสาะหาศุภโชคเย้ยฟ้า

กำหนดเวลาไว้หนึ่งเดือนต่อจากนี้!

‘หนึ่งเดือน ก็เพียงพอจะทำให้ข้าเพิ่มพูนศักยภาพของตัวเองขึ้นระดับหนึ่งแล้ว’

‘ยังมีผลดารารายอีก ถึงเวลาก็จะสุก มีโอสถเทพตัวนี้ ต่อให้ประสบอันตรายถึงชีวิตในเขตต้องห้ามแม่น้ำนรกก็รักษาชีวิตไว้ได้’

ระหว่างที่ครุ่นคิดไปพลาง ไกลออกไปก็มองเห็นโครงเขาดารารายแล้ว

เวินเอ้าไห่พลันนึกขึ้นได้ว่าผ่านไปเดือนหนึ่งแล้ว ช่องทางมายังแดนเก้าบนปิดลงไปนานแล้ว ตอนนี้เทพมารหลินก็คงมาถึงแดนอัคคีทักษิณแล้วกระมัง

คิดถึงตรงนี้ในใจเวินเอ้าไห่ก็มีไอสังหารที่ไม่อาจเก็บกลั้นได้ผุดขึ้นมา

สมัยอยู่ที่แดนเผาเซียน ด้วยการโจมตีของหลินสวิน ทำให้พวกเขาเขาวิญญาณหมื่นอสูรประสบกับความสูญเสียอย่างใหญ่หลวง

หากไม่เป็นเช่นนี้ พวกเขาผู้สืบทอดที่เข้าสู่แดนเก้าบนคราวนี้คงมีมากขึ้นไปอีก

อย่างสัตว์ประหลาดยุคโบราณเหลียงเซวี่ยอิ๋น รวมถึงยักษ์ใหญ่ยอดมกุฎส่วนหนึ่งที่ตายด้วยน้ำมือของหลินสวิน ต่างล้วนมีหวังจะได้บรรลุเป็นระดับมกุฎราชัน!

แต่ตอนนี้ทุกอย่างกลายเป็นเรื่องเพ้อฝันไปแล้ว

หากไม่บังเอิญพบวาสนาเข้า การที่เขาเวินเอ้าไห่จะบรรลุระดับมกุฎราชันก็เป็นเรื่องที่ไม่ต้องคิดเลย เขาวิญญาณหมื่นอสูรซึ่งเป็นหมู่มังกรไร้หัวจะต้องถูกขุมอำนาจอื่นกลืนแน่!

เวินเอ้าไห่รู้ดีว่าไม่เพียงพวกเขาเขาวิญญาณหมื่นอสูรเท่านั้น ขุมอำนาจอย่างเผ่าอีกทอง เผ่าวิญญาณสมุทร สำนักยุทธ์นครนิล ลัทธิบูชาจันทร์ก็ต่างตามล่าหลินสวินอยู่

ขอเพียงหลินสวินปรากฏตัว ย่อมกลายเป็นเป้าที่ทุกคนเพ่งเล็ง!

เขาดารารายเงียบสงบนัก ดูไม่ออกว่าผิดปกติ นี่ทำให้เวินเอ้าไห่ที่เพลิ่งกลับมาลอบถอนหายใจโล่งอก แดนอัคคีทักษิณแห่งนี้ไม่สงบนัก การปะทะหลั่งเลือดเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อเชื่อวัน

ยังดีที่เขาดารารายแห่งนี้ตั้งอยู่ในที่ห่างไกล หาไม่แล้วเกรงว่าจะถูกขุมอำนาจใหญ่อื่นๆ บางกลุ่มจับจ้องไปนานแล้ว

เสียงเคร้งๆ ระลอกหนึ่งแว่วมาจากบนเขา

นี่ทำให้มุมปากของเวินเอ้าไห่ยกยิ้มพอใจขึ้นอย่างอดไม่ได้ ในใจลอบเอ่ยว่า ช่วงที่จากไปนี้ศิษย์พี่ศิษย์น้องทุกคนไม่ได้ลืมเรื่องที่ตนฝากฝังไว้ ต่างกำลังขุดเจาะทองเทพสมประสงค์อย่างแข็งขัน

สิ่งนี้เป็นถึงวัตถุดิบเทพที่หายากหาใดเทียบ สามารถหลอมเป็นยอดศาสตรามรรคราชันชั้นเลิศ เป็นได้กระทั่งวัตถุดิบเสริมในการหลอมสมบัติอริยะ!

เวินเอ้าไห่ไม่คิดมากอีก เดินเข้าไปในค่ายกลใหญ่ประตูเขา

ส่วนบ้านหินบนยอดเขานั่นยิ่งเป็นที่ฝึกตนของเขาเวินเอ้าไห่ เทพมารหลินนั่นจะปรากฏตัวที่นั่นได้อย่างไร

“ไม่ผิด เทพมารหลินอยู่ตรงนั้นล่ะ!”

เมิ่งอิงหวาพุ่งเข้ามา กัดฟันเข่นเขี้ยว พูดด้วยสีหน้าเดือดดาลว่า “เขาไม่เพียงยึดครองที่ฝึกตนของศิษย์พี่ ยังบีบบังคับให้พวกเราขุดแร่ ทองเทพสมประสงค์ที่สกัดได้ในหลายวันนี้ ตอนนี้ล้วนตกอยู่ในมือของเจ้าหมอนี่แล้ว!”

“อะไรนะ”

เวินเอ้าไห่หน้ามืดไปครู่หนึ่ง ความปรีดาในใจมลายหายไปสิ้น ทันใดนั้นก็รู้สึกได้ว่าการคาดเดาทั้งหมดที่ตนเพิ่งคิดไว้ เหมือนจะเข้าใจผิดหมดแล้ว…

ในช่วงที่ตนจากไปนี้ เขาดารารายไม่ได้สงบสุข!

“แล้วก็ ทันทีที่เทพมารหลินมาถึงก็ฆ่าศิษย์พี่ศิษย์น้องของพวกเราไปแปดคน ยึดครองเขาดาราราย ทั้งยังบีบ… บีบบังคับให้พวกเราคุกเข่าสวามิภักดิ์!”

ทุกคนทั้งเศร้าและเดือดดาล เผยความอดสูและความแค้นไม่มีที่สิ้นสุดออกมา

ส่วนเวินเอ้าไห่นั้นรู้สึกเหมือนถูกสายฟ้าฟาด ที่นี่ไม่ใช่แค่ไม่สงบสุข แม้แต่รังยังถูกคนอื่นเข้ายึดครองไปแล้วด้วย!

ความขุ่นเคืองยากบรรยายผุดขึ้นในจิตใจ โกรธจนหน้าเขียวเอ่ยว่า “ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ มีค่ายกลใหญ่ปกป้องภูเขา เขาเป็นบุคคลระดับกระบวนแปรจุติตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ทำไมถึงยังทำได้ขนาดนี้อีก หรือพวกเจ้าไม่กล้าไปขัดขวาง”

รุ่ยม่านหรงพูดด้วยเสียงเจ็บปวด “ศิษย์พี่เวินท่านเข้าใจผิดแล้ว เทพมารหลินผู้นี้กลายเป็นระดับมกุฎราชันไปแล้ว…”

ระดับมกุฎราชัน!

เมื่อคำนี้ดังออกมา เกิดเสียงวิ้งในสมองเวินเอ้าไห่ ทำเอาเขาหน้ามืดไปครู่หนึ่ง นี่… นี่มันเกิดขึ้นได้อย่างไร

ตอนนี้เขาถึงเข้าใจได้ในที่สุด เมื่อกี้ไม่ว่าจะเป็นรุ่ยม่านหรงหรือศิษย์พี่ศิษย์น้องคนอื่นๆ ล้วนไม่ได้มาต้อนรับการกลับมาของเขา แต่เป็นเพราะถูกผู้อื่นข่มเหง และรอให้เขามาช่วยเหลือ!

นี่ อาจจะเรียกได้ว่าคิดไปเองฝ่ายเดียวแล้ว…

อึดอัด อับอาย ตื่นตกใจ คับแค้น… ความรู้สึกต่างๆ ผุดขึ้นในใจเวินเอ้าไห่ราวภูผาถล่มทะเลคำรน ทำให้เขาแทบกระอักเลือด

นี่เพิ่งจากไปไม่กี่วัน ทำไมถึงเปลี่ยนไปหมดทุกอย่างแล้วล่ะ

ดวงตาของเวินเอ้าไห่แดงขึ้นทันทีทันใด ผมทุกเส้นชี้ตั้ง จดจ้องบ้านหินบนยอดเขาหลังนั้น คำรามอย่างทนไม่ได้อีกต่อไปว่า “หลินสวิน ยังไม่รีบไสหัวออกมารับความตายอีก!?”

เสียงดั่งอสนีบาตสะท้านฟ้าดิน ทำเอาห้วงอากาศโดยรอบปั่นป่วนไปทุกกระเบียด

เขาเดือดดาลโดยสมบูรณ์แล้ว แค้นจนคลุ้มคลั่ง

“ร้องโวยวายอะไร ถ้าทำลายโอสถวิญญาณกับหญ้าวิญญาณบนเขาไปเจ้าคงชดใช้ไม่ไหว พวกเจ้าด้วย ยังนิ่งอึ้งหาอะไร รีบไปขุดแร่!”

เงาร่างของหลินสวินเยื้องย่างออกมาจากในบ้านหินช้าๆ สองมือไพล่หลัง ท่าทางเหมือนเป็นเจ้าของเขาลูกนี้ ตำหนิพวกเวินเอ้าไห่

เวินเอ้าไห่อยากจะอาเจียนเป็นเลือดเต็มแก่แล้ว ไอ้หมอนี่…

รังแกกันเกินไปแล้วจริงๆ!

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์