ไม่นานนักเวินเอ้าไห่ก็ก้าวไปทดสอบ
เพียงแต่ผลการทดสอบกลับทำให้เขาหนักใจ ไม่ติดอันดับ!
นี่ก็หมายความว่า ด้วยพลังต่อสู้ของเขาตอนนี้ยังไม่อาจพาตัวเองขึ้นไปบนหนึ่งร้อยอันดับแรกของกระดานทองคำผู้กล้าได้!
เวินเอ้าไห่กำหมัดทั้งสองข้างไว้แน่นอย่างเงียบเชียบ สูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ความรู้สึกไม่ยินยอมในใจถึงค่อยสงบลง แล้วจึงหันกายออกไปจากศิลาศึกอัคคีทักษิณ
ไกลออกไป พวกอูหลิงเฟิงรออยู่นานแล้ว
“อย่าท้อใจไป การช่วงชิงความเป็นหนึ่งในแดนเก้าบนเพิ่งเริ่มขึ้น การชิงอันดับในช่วงเวลาสั้นๆ ไม่สำคัญอะไร”
อูหลิงเฟิงเอ่ย “ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้แข็งแกร่งที่สามารถเข้าไปอยู่บนกระดานทองคำผู้กล้าได้จริงๆ ในตอนนี้ยังมีน้อยนิด”
“คนพวกนี้ทะลวงพลังมหามรรคที่ตนครอบครองไว้ถึงระดับ ‘ระเบียบมรรค’ เริ่มเสาะหาแสวงหนทางแห่งอมตะแล้ว”
“เวินเอ้าไห่อึ้งไป แล้วพูดว่า “มีเพียงครอบครองพลังระเบียบมรรค จึงจะสามารถเข้าไปอยู่บนกระดานทองคำผู้กล้าได้ใช่หรือไม่”
“นี่ก็คงไม่ใช่หรอก มกุฎราชันที่ล้ำเลิศถึงที่สุดบางส่วน แม้ไม่ได้ครอบครองพลังระเบียบมรรค แต่ก็มีความหวังสูงมากที่จะขึ้นไปอยู่บนนั้นได้”
อูหลิงเฟิงเอ่ย “เท่าที่ข้ารู้ ที่แดนฟ้าพายัพตอนนี้ ชื่อหลิงเซียวผู้นั้นก็ขึ้นไปอยู่ในอันดับที่เก้าสิบสามของกระดานทองคำผู้กล้าในครั้งเดียว โดยไม่ได้ครอบครองพลังระเบียบมรรค”
อันดับที่เก้าสิบสาม!
เวินเอ้าไห่นัยน์ตาหดรัดโดยพลัน
อันดับนี้ดูเหมือนต่ำ แต่อย่าลืมว่าที่แดนเก้าบนในตอนนี้ มีสัตว์ประหลาดยุคโบราณกับปีศาจเย้ยฟ้าที่โดดเด่นตระการตาไม่รู้เท่าไรรวมตัวอยู่
สามารถได้อันดับเช่นนี้มาทั้งที่ไม่ได้ครอบครองพลังระเบียบมรรค ก็เรียกได้ว่าน่าตื่นตะลึงในโลกแล้ว
ที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือ บนตำแหน่งหนึ่งร้อยอันดับแรกของกระดานทองคำผู้กล้ายังมีหลายตำแหน่งว่างอยู่ ไม่ได้ถูกคนจับจอง!
คิดเช่นนี้ในใจเวินเอ้าไห่ก็มั่นคงขึ้นไม่น้อย
“พี่อูเคยขึ้นไปอยู่บนนั้นหรือ” เขาใจไหววูบ สายตามองไปยังอูหลิงเฟิง
อูหลิงเฟิงยิ้มเนิบๆ แล้วพูดว่า “ข้าเพิ่งครอบครอบพลังระเบียบมรรคได้อย่างหนึ่ง ตอนนี้พอจะฝืนขึ้นไปอยู่ในอันดับที่เก้าสิบแปด”
วาจาเรื่อยเฉื่อย แต่ใครก็ฟังออกว่ามีความหยิ่งทระนงเผยออกมาจากถ้อยคำของเขา!
ระดับราชันคนอื่นๆ ที่อยู่ใกล้กันได้ยินดังนี้ต่างเผยความตกตะลึงอย่างอดไม่อยู่ รวมถึงความอิจฉาและหวาดหวั่นที่ยากสังเกตเห็นด้วย
อันดับที่เก้าสิบแปดก็ไม่ง่ายแล้ว
อย่างน้อยในหมู่พวกเขาระดับมกุฎราชันกลุ่มนี้ อูหลิงเฟิงก็ยังเป็นคนแรกที่ทำได้!
ทว่าก็เป็นอย่างที่อูหลิงเฟิงว่าไว้ แดนเก้าบนเพิ่งเปิดออกไม่ถึงหนึ่งเดือน การช่วงชิงอันดับในตอนนี้ไม่ได้สลักสำคัญอะไร
ในช่วงเวลาภายภาคหน้า พร้อมกับที่ศักยภาพของมกุฎราชันแต่ละคนที่เพิ่มพูนขึ้น จึงจะเป็นเวลาประชันอันดับบนกระดานทองคำผู้กล้าที่แท้จริง
“ไปเถอะ คราวนี้ที่ข้าเชิญทุกท่านก็เพื่อศุภโชคเย้ยฟ้าในเขตต้องห้ามแม่น้ำนรกแห่งนั้น หากได้ครอบครองมัน พวกเราก็มีหวังจะทะลวงอันดับสูงยิ่งขึ้นบนกระดานทองคำผู้กล้า!”
แววตาอูหลิงเฟิงเผยความเร่าร้อนออกมา
……
สามวันผ่านไป
เวินเอ้าไห่ออกจากที่พำนักของเผ่าอีกาทองและหวนกลับมา
เขาครึ้มอกครึ้มใจนัก
ด้วยการเรียกหาของอูหลิงเฟิง มีระดับมกุฎราชันเช่นเดียวกับเขาเจ็ดคนตัดสินใจในแนวทางเดียวกัน ว่าจะเข้าร่วมการเสาะหาศุภโชคเย้ยฟ้า
กำหนดเวลาไว้หนึ่งเดือนต่อจากนี้!
‘หนึ่งเดือน ก็เพียงพอจะทำให้ข้าเพิ่มพูนศักยภาพของตัวเองขึ้นระดับหนึ่งแล้ว’
‘ยังมีผลดารารายอีก ถึงเวลาก็จะสุก มีโอสถเทพตัวนี้ ต่อให้ประสบอันตรายถึงชีวิตในเขตต้องห้ามแม่น้ำนรกก็รักษาชีวิตไว้ได้’
ระหว่างที่ครุ่นคิดไปพลาง ไกลออกไปก็มองเห็นโครงเขาดารารายแล้ว
เวินเอ้าไห่พลันนึกขึ้นได้ว่าผ่านไปเดือนหนึ่งแล้ว ช่องทางมายังแดนเก้าบนปิดลงไปนานแล้ว ตอนนี้เทพมารหลินก็คงมาถึงแดนอัคคีทักษิณแล้วกระมัง
คิดถึงตรงนี้ในใจเวินเอ้าไห่ก็มีไอสังหารที่ไม่อาจเก็บกลั้นได้ผุดขึ้นมา
สมัยอยู่ที่แดนเผาเซียน ด้วยการโจมตีของหลินสวิน ทำให้พวกเขาเขาวิญญาณหมื่นอสูรประสบกับความสูญเสียอย่างใหญ่หลวง
หากไม่เป็นเช่นนี้ พวกเขาผู้สืบทอดที่เข้าสู่แดนเก้าบนคราวนี้คงมีมากขึ้นไปอีก
อย่างสัตว์ประหลาดยุคโบราณเหลียงเซวี่ยอิ๋น รวมถึงยักษ์ใหญ่ยอดมกุฎส่วนหนึ่งที่ตายด้วยน้ำมือของหลินสวิน ต่างล้วนมีหวังจะได้บรรลุเป็นระดับมกุฎราชัน!
แต่ตอนนี้ทุกอย่างกลายเป็นเรื่องเพ้อฝันไปแล้ว
หากไม่บังเอิญพบวาสนาเข้า การที่เขาเวินเอ้าไห่จะบรรลุระดับมกุฎราชันก็เป็นเรื่องที่ไม่ต้องคิดเลย เขาวิญญาณหมื่นอสูรซึ่งเป็นหมู่มังกรไร้หัวจะต้องถูกขุมอำนาจอื่นกลืนแน่!
เวินเอ้าไห่รู้ดีว่าไม่เพียงพวกเขาเขาวิญญาณหมื่นอสูรเท่านั้น ขุมอำนาจอย่างเผ่าอีกทอง เผ่าวิญญาณสมุทร สำนักยุทธ์นครนิล ลัทธิบูชาจันทร์ก็ต่างตามล่าหลินสวินอยู่
ขอเพียงหลินสวินปรากฏตัว ย่อมกลายเป็นเป้าที่ทุกคนเพ่งเล็ง!
เขาดารารายเงียบสงบนัก ดูไม่ออกว่าผิดปกติ นี่ทำให้เวินเอ้าไห่ที่เพลิ่งกลับมาลอบถอนหายใจโล่งอก แดนอัคคีทักษิณแห่งนี้ไม่สงบนัก การปะทะหลั่งเลือดเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อเชื่อวัน
ยังดีที่เขาดารารายแห่งนี้ตั้งอยู่ในที่ห่างไกล หาไม่แล้วเกรงว่าจะถูกขุมอำนาจใหญ่อื่นๆ บางกลุ่มจับจ้องไปนานแล้ว
เสียงเคร้งๆ ระลอกหนึ่งแว่วมาจากบนเขา
นี่ทำให้มุมปากของเวินเอ้าไห่ยกยิ้มพอใจขึ้นอย่างอดไม่ได้ ในใจลอบเอ่ยว่า ช่วงที่จากไปนี้ศิษย์พี่ศิษย์น้องทุกคนไม่ได้ลืมเรื่องที่ตนฝากฝังไว้ ต่างกำลังขุดเจาะทองเทพสมประสงค์อย่างแข็งขัน
สิ่งนี้เป็นถึงวัตถุดิบเทพที่หายากหาใดเทียบ สามารถหลอมเป็นยอดศาสตรามรรคราชันชั้นเลิศ เป็นได้กระทั่งวัตถุดิบเสริมในการหลอมสมบัติอริยะ!
เวินเอ้าไห่ไม่คิดมากอีก เดินเข้าไปในค่ายกลใหญ่ประตูเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์