เคร้ง!
โม่เทียนเหอโคจรพลังถึงขีดสุดเพื่อต้านทาน แต่สุดท้ายกระบี่โบราณสามสิบหกเล่มก็ถูกดาบหักทลายออกจากกันในดาบเดียว ส่งเสียงปะทะอึกทึกสนั่นหู
โม่เทียนเหอลุกลนหลบหลีกถึงได้เลี่ยงกระบวนเฉือนนี้ได้อย่างหวุดหวิด
ทว่าเขาก็ถูกโจมตีอย่างหนัก กล้ามเนื้อกระดูกทั่วร่างเจ็บปวด ภายในกายเลือดลมตีกลับไม่หยุด ทันทีที่ยืนมั่นก็กระอักเลือดออกมาคำโต
เหล่าผู้สืบทอดเรือนกระบี่เร้นปุจฉาต่างตะลึงงัน
ก่อนหน้านี้โม่เทียนเหอหยิ่งทะนงและแข็งแกร่งระดับใด ประหนึ่งนายเหนือหัวกลางกระบี่
แต่เพียงชั่วครู่ก็ถูกอัดจนมือไร้แม้แรงต้านทาน ผมเผ้าสยายยุ่ง หลบหนีอเนจอนาถกระอักเลือดไม่หยุด แตกต่างกับก่อนหน้านี้ราวกับเป็นคนละคน
“สนุกไหม”
หลินสวินพุ่งเข้าหา กดฝ่ามือประทับปี้อั้น ฉวยโอกาสนี้ซัดโม่เทียนเหอกระเด็นในคราเดียว ร่างลอยปะทะเขาหมอกทองคำที่อยู่ไม่ไกลอย่างหนักหน่วง
ทั้งตัวเขาถูกอัดติดกำแพง สภาพพิลึกพิลั่น
“สนุกๆ อย่าสู้อีกเลย!” เหล่าผู้สืบทอดเรือนกระบี่เร้นปุจฉาตะโกนลั่น
พวกเขาต่างตระหนักได้ว่า หากสู้ต่อโม่เทียนเหอได้ประสบหายนะแน่
“เช่นนั้นก็สนุกต่ออีกหน่อย”
หลินสวินยิ้มน้อยๆ ขณะกล่าวเขาก็พุ่งทะยานออกไปแล้ว จับข้อเท้าของโม่เทียนเหอทุ่มลงกับพื้นเต็มแรงราวกับเหวี่ยงท่อนมนุษย์
โครม!
พื้นดินแตกระแหง เครื่องหน้าทั้งห้าอันงดงามของโม่เทียนเหอแนบกับผืนดิน เจ็บจนทั่วร่างกระตุก ส่งเสียงร้องอนาถออกมา
เมื่อมองไปก็เห็นเขาล้มลุกคลุกฝุ่น จมูกเขียวหน้าบวม ช่าง… น่าอนาถเกินไปแล้ว!
“หลินสวิน เจ้ารังแกกันเกินไปแล้ว!” โม่เทียนเหอส่งเสียงคำรามเกือบจะคลุ้มคลั่ง
“ต่อให้รังแกเจ้า แล้วเจ้าจะทำอะไรข้าได้”
หลินสวินสะบัดข้อมือ ออกแรงที่ฝ่ามือ ร่างโม่เทียนเหอก็ถูกเหวี่ยงไปมาอย่างรุนแรง เขย่าจนเขาน้ำลายฟูมปาก หน้ามืดวิงเวียนตาเหลือก
ก็ได้ยินเสียงดังครืนพักหนึ่ง สมบัติบางส่วนร่วงหล่นลงไปกองกับพื้น
โครม!
จากนั้นโม่เทียนเหอก็ถูกเหวี่ยงกระเด็นออกไป สายตาหลินสวินเหลือบมองไปยังสมบัติที่อยู่บนพื้น
ผู้สืบทอดเรือนกระบี่เร้นปุจฉาที่อยู่ห่างออกไปสูดหายใจเย็น จิตใจสะท้านไหว เทพมารหลินนี่ป่าเถื่อนเกินไปแล้วจริงๆ!
แต่พวกเขากลับไม่มีใครกล้าเข้าไปขวาง
แม้แต่โม่เทียนเหอยังไม่ใช่คู่ต่อกร พวกเขาไหนเลยจะกล้าแส่หาเรื่อง
“กำไลเก็บของวงนี้ไม่เลวทีเดียว” ไม่ทันไรหลินสวินก็เจอสมบัติที่ถูกใจ นั่นคือกำไลโบราณเขียวมรกตวงหนึ่ง เขาเก็บเอาไปโดยไม่เกรงใจแม้แต่น้อย
เห็นดังนี้โม่เทียนเหอส่งเสียงร้องแหลมปานจะขาดใจ พุ่งทะยานเข้ามาหมายสู้ตายกับหลินสวิน
ด้วยในกำไลเก็บของนั้นซ่อนสมบัติที่เขาเก็บไว้เต็มไปหมด เป็นสินทรัพย์ประจำตัวของเขา!
ปัง!
หลินสวินใช้เท้าข้างหนึ่งเตะเขาลอยละลิ่วแล้วกล่าว “อย่าบีบให้ข้าสังหารเจ้า”
โม่เทียนเหออึ้งงันก่อน จากนั้นสีหน้าก็ปรวนแปรไม่หยุด สุดท้ายจึงหดหู่
เขาไม่ได้โง่ เพียงแต่เมื่อครู่เพลิงโทสะจู่โจมจิตใจ ตอนนี้ถึงตาสว่างรู้ว่าหากหลินสวินอยากฆ่าเขา เมื่อครู่ก็สามารถลงดาบสังหารได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องรอถึงตอนนี้
เพียงแต่เมื่อเห็นกำไลเก็บของของตนตกอยู่ในมือหลินสวิน ก็ทำให้เขาเจ็บปวดไม่หยุด เลือดหลั่งรินในใจ!
ขณะเดียวกันในใจหลินสวินก็ตกตะลึง ด้วยในกำไลเก็บของชิ้นนี้ซ่อนโอสถเทพที่ไม่ด้อยไปกว่าผลดารารายถึงสองต้น!
นอกจากนี้ยังมีโอสถราชันสิบกว่าชนิด รวมถึงวัตถุดิบวิญญาณที่หาได้ยากในโลกภายนอกจำนวนมาก มูลค่ามหาศาลไม่อาจประเมิน
‘ดูไม่ออกเลยว่าผลเก็บเกี่ยวของหมอนี่จะอู้ฟู่ทีเดียว’
หลินสวินลูบคาง กำลังใคร่ครวญว่าจะจับเขาเป็นตัวประกันไปเรียกค่าไถ่ที่อาณาเขตของเรือนกระบี่เร้นปุจฉาดีหรือไม่
โม่เทียนเหอขนลุกไปทั้งตัว นี่มันสายตาอะไรกัน เห็นตนเป็นแกะอ้วนที่จะปล้นฆ่าอย่างไรก็ได้รึ
น่าชังเกินไปแล้ว!
เขาเป็นถึงสัตว์ประหลาดยุคโบราณที่มาจากเรือนกระบี่เร้นปุจฉา ไม่เคยเห็นบุคคลขอบเขตมกุฎยุคปัจจุบันในสายตา แต่ตอนนี้กลับถูกผู้อื่นกำราบ ปฏิบัติต่อเขาเหมือนเป็นแกะอ้วนรอเชือด สิ่งนี้น่าอัปยศโดยไม่ต้องสงสัย ทรมานจนเขาเกือบพังทลาย
เหล่าผู้สืบทอดเรือนกระบี่เร้นปุจฉาที่อยู่ห่างออกไปก็สีหน้าปรวนแปรไม่หยุด ในใจตึงเครียดหาใดเปรียบ พูดได้ว่าเวลานี้ความคิดเดียวของเทพมารหลินสามารถตัดสินความเป็นตายได้!
“เอาอย่างนี้แล้วกัน พวกเจ้าส่งโอสถเทพหนึ่งต้นและโอสถราชันมาอีกสิบต้น แล้วข้าจะปล่อยโม่เทียนเหอนี่ไป” หลินสวินทำการตัดสินใจ
ทุกคนอึ้งงันก่อน จากนั้นก็แทบกระอักเลือดอย่างคับข้องใจ เจ้าหมอนี่เห็นโอสถเทพเป็นผักกาดขาวที่ได้มาง่ายๆ อย่างนั้นรึ
ไม่ต้องพูดถึงโอสถเทพ แม้แต่โอสถราชันก็ใช่ว่าจะได้มาง่ายๆ!
“หรือพวกเจ้าคิดว่าชีวิตเขาไม่มีค่าพอ” หลินสวินถาม
โม่เทียนเหอโกรธจนกัดฟันเกือบแตก นี่เทียบกันได้รึ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์