แม้รู้สึกว่าท่าทางตอนโกรธของจี้ซิงเหยาจะมีเสน่ห์ดึงดูดอยู่บ้าง แต่หลินสวินกลับไม่สนใจจะชื่นชม
ในสัมผัสรับรู้ของเขา มีไอสังหารล้นฟ้ากำลังเร่งตามมาจากที่ห่างไกลอย่างรวดเร็ว!
อานุภาพแห่งไอสังหารนั้นทำเอาหลินสวินตะลึง รับรู้ได้ว่าคู่ต่อสู้ที่มาคราวนี้ต้องมีจำนวนไม่น้อยแน่
อีกทั้งไม่ขาดแคลนยอดฝีมือ!
“เอาเถอะ ครั้งหน้าค่อยสนทนากับเจ้า”
หลินสวินตัดสินใจหันหลังจากไป
“เจ้า…”
จี้ซิงเหยาร้องทัก
หลินสวินหันกลับไปมอง
จี้ซิงเหยาชะงัก จากนั้นก็แค่นเสียงกล่าว “เจ้าไม่ต้องการค่าชดเชยแล้วรึ”
หลินสวินยิ้ม “ช่างเถอะ ขอแค่เจ้าไม่โกรธข้าอีกก็พอ”
ขณะกล่าวเงาร่างเขาก็หายไปในห้วงอากาศที่อยู่ห่างออกไปแล้ว
“เหอะ! ใครจะโกรธอันธพาลหน้าเหม็นอย่างเจ้า!” จี้ซิงเหยาสบถ ใบหน้างามรู้สึกร้อนระอุและเดือดดาลอย่างยากอธิบายอยู่บ้าง
เจ้าหมอนี่ช่างปากสุนัขซะจริง!
“ศิษย์พี่จี้ ท่านกับเทพมารหลินนั่น…” มีคนอดกล่าวถามไม่ได้
แต่ไม่รอให้พูดจบก็ถูกจี้ซิงเหยาตัดบทอย่างเย็นชา “ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรทั้งนั้น หากพวกเจ้ากล้าพูดพล่อยๆ อย่าหาว่าข้าไม่เห็นแก่มิตรภาพร่วมสำนัก!”
ในน้ำเสียงเจือความโกรธอย่างเห็นได้ชัด
แต่เมื่อเข้าหูคนอื่นกลับเหมือนยิ่งปิดยิ่งเด่นชัด…
จี้ซิงเหยาก็สังเกตเห็นว่าสีหน้าทุกคนที่มองนางผิดแปลกอยู่บ้าง ในใจรู้สึกคับข้องขึ้นมาอีกระลอกอย่างห้ามไม่อยู่
นางสูดหายใจลึก สีหน้าฟื้นคืนความสงบ กล่าวว่า “พวกเราก็ควรไปได้แล้ว”
ในจุดที่ห่างออกไป ไอสังหารน่าตะลึงแผ่กระจายราวเมฆทมิฬมุ่งปกคลุมมาทางนี้ ไม่จากไปตอนนี้ ภายภาคหน้าต้องนำเภทภัยใหญ่หลวงมาให้แน่
“เช่นนั้นจะทำอย่างไรกับเขาหมอกทองคำนี่ดี” มีคนถาม
“ใครอยากได้ก็เอาไป!” จี้ซิงเหยากล่าวชัดเจน
ดังนั้นพวกเขาทั้งคณะจึงเลือกจากไปทันที
เพียงแต่ระหว่างทางจี้ซิงเหยากลับเลือกแยกตัวไปคนเดียว
“ศิษย์น้องจี้ เจ้าจะไปไหน” โม่เทียนเหอถาม
“ไปทำธุระเรื่องหนึ่ง”
จี้ซิงเหยาตอบโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง ขณะกล่าวชายเสื้อนางพลิ้วไหว หายลับจากไปดั่งรุ้งอัศจรรย์
“ศิษย์พี่จี้จะไปทำธุระอะไร”
คนมากมายอึ้งงันไม่เข้าใจ
‘ต้องเกี่ยวกับเทพมารหลินนั่นแน่!’
โม่เทียนเหอสีหน้าอึมครึม
ครืน!
ขณะที่พวกเขาเพิ่งจากไปไม่นาน ใกล้เขาหมอกทองคำเงาร่างระดับราชันมากมายก็มาถึง
อานุภาพน่าตกตะลึงราวเมฆดำปกคลุม
“ถูกมันชิงหนีไปก่อนอีกแล้ว!”
“น่าชังนัก!”
“ตามต่อ!”
เสียงคำรามปั่นป่วนไปทั่วทิศทำให้ห้วงอากาศโดยรอบสั่นสะเทือน เต็มไปด้วยความโกรธและเคียดแค้นไร้สิ้นสุด
ทว่าหลินสวินได้หยุดภารกิจล้างบางเขาวิญญาณแดนมงคลลงแล้ว การไล่ล่าต่อจากนั้นพวกเขาจึงสูญเสียร่องรอยของหลินสวินไปอย่างสมบูรณ์
ที่ทำให้พวกอูหลิงเฟิงเดือดจัดที่สุดคือ เวลานี้ขุมอำนาจอื่นที่ตั้งถิ่นฐานในแดนอัคคีทักษิณกลับบุกโจมตีอย่างเหี้ยมหาญ ฉวยโอกาสตีชิงตามไฟ แย่งแดนมงคลที่ถูกกวาดล้างไปแล้วเหล่านั้น
ด้วยประการฉะนี้จึงทำให้สถานการณ์ของพวกอูหลิงเฟิงเปลี่ยนเป็นยากแค้นทันที
ต่อให้ใจเคียดแค้นแค่ไหน พวกเขาก็รู้ดีว่าเสียโอกาสสังหารหลินสวินไปแล้ว ดังนั้นจึงเปลี่ยนแผนไปยึดแดนมงคลที่เดิมเป็นของพวกเขาทันที
…
วันนี้แดนอัคคีทักษิณปั่นป่วน สั่นสะเทือนทุกหย่อมหญ้า
มีคนทำบันทึกว่าเพียงไม่ถึงสองชั่วยาม หลินสวินคนเดียวก็ยึดแดนมงคลสี่แห่งอย่างเขาฝนดาวตก เขาช้างป่า เขาเพรียกมรกต เขาหมอกทองคำได้แล้ว
แต่ละแห่งล้วนเลือดหลั่งรินเป็นกระแสน้ำ เขม่าควันตลบอบอวล!
และในเวลาไม่ถึงสองชั่วยาม ผู้แข็งแกร่งระดับมกุฎราชันที่ตายในมือหลินสวินก็ไม่ต่ำกว่าสิบห้าคน
น่าตกตะลึงยิ่งนัก!
ต้องรู้ว่าในแดนเก้าบนมกุฎราชันก็เหมือนตัวตนที่ยืนบนยอดเขา สามารถคำรามก้องทั่วทิศ ควบทะยานทั่วหล้า
ในสายตาพวกเขาราชันทั่วไปก็ไม่ต่างอะไรกับไก่กระเบื้องสุนัขดินเผา
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพวกที่ยังไม่เลื่อนระดับกลายเป็นราชัน แน่นอนว่าไม่มีภัยคุกคามใดๆ
แต่หลินสวินกลับฆ่าระดับมกุฎราชันราวฉีกภาพวาด!
นี่ก่อให้เกิดแรงสะเทือนครั้งใหญ่ต่อมกุฎราชันคนอื่น ทำให้พวกเขาหวาดหวั่นพรั่นพรึง
เช่นเดียวกัน ด้วยปฏิบัติการล้างแค้นของหลินสวิน ในแดนอัคคีทักษิณจึงเปิดฉากฝนโลหิตคาววายุขนาดใหญ่ยิ่งกว่าเดิม
แต่ละขุมอำนาจฉวยโอกาสแย่งชิงแดนมงคลที่ถูกล้างบางพวกนั้น แน่นอนว่าขุมอำนาจอย่างพวกอูหลิงเฟิงย่อมไม่พอใจ ดังนั้นจึงก่อให้เกิดการปะทะระหว่างขุมอำนาจขึ้น!
ทว่าคลื่นลมทั้งหมดนี้ล้วนไม่เกี่ยวอะไรกับหลินสวิน
หลังจากไปเขาก็มุ่งตรงกลับเขาดาราราย เพียงแต่เขาดารารายได้กลายเป็นซากปรักหักพังแถบหนึ่งไปนานแล้ว แม้แต่ชีพจรปราณวิญญาณดั้งเดิมที่อยู่ภายในก็ถูกทำลายอย่างหนักจนไม่อาจฟื้นฟูได้
หลินสวินเห็นดังนี้ก็ได้แต่ส่ายหัว ไม่ถึงขั้นทอดถอนใจแต่ก็เสียดายอยู่บ้าง เขาวิญญาณแดนมงคลเช่นนี้กลับถูกทำลาย เป็นความผิดใครกัน?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์