จี้ซิงเหยากล่าว “เช่นนั้นก็ดี หลังจากนี้สิบวันพวกเราจะออกเดินทาง”
สามารถเดินทางร่วมกับหลินสวินก็เท่ากับได้เพื่อนร่วมทางที่แข็งแกร่งมาอีกคน ยามมุ่งหน้าสู่เขตต้องห้ามแม่น้ำนรกก็จะได้การคุ้มครองมาอีกอย่าง
“หลังจากนี้สิบวันรึ” หลินสวินมุ่นคิ้ว
จี้ซิงเหยาชะงัก ตอนนี้ถึงได้ตระหนักว่าหลินสวินไม่เข้าใจอะไรเกี่ยวกับเขตต้องห้ามแม่น้ำนรกเลย
นางกล่าวอธิบาย “ทุกสิบวันจึงจะมีโอกาสเข้าไปในเขตต้องห้ามแม่น้ำนรกครั้งหนึ่ง ช่วงเวลาอื่นเขตต้องห้ามแม่น้ำนรกจะถูกพลังประหลาดชั้นหนึ่งปกคลุม ทันทีที่เข้าใกล้จะประสบเคราะห์อัปมงคล ตายสถานเดียว”
นัยน์ตาดำของหลินสวินหดรัด มีเรื่องเช่นนี้ด้วย?
ตอนนั้นเขาเคยเดินทางอยู่ในเขตต้องห้ามแม่น้ำนรกหนึ่งวันหนึ่งคืน ผ่านความอันตรายถึงชีวิตไม่รู้เท่าไหร่
แต่ตั้งแต่ต้นจนจบก็ไม่เคยรู้สึกว่ามีพลังประหลาดและอัปมงคลอะไรเกินไป
‘ดูท่าภายในนั้นยังมีความเร้นลับและสิ่งต้องห้ามมากมายที่ข้าไม่เข้าใจ’
ใจหลินสวินพลันหนักอึ้ง
เขตต้องห้ามแม่น้ำนรกยิ่งอันตรายและแปลกประหลาด ความเป็นไปได้ที่เจ้าคางคกจะประสบอันตรายก็ยิ่งมาก
แต่ต่อให้หลินสวินร้อนใจไปก็เปล่าประโยชน์ ต้องรออีกสิบวันค่อยออกเดินทาง
‘เจ้าหมอนี่เป็นคนโชคดีฟ้าคุ้มครอง ทั้งได้รับมรดกของเซียนผลาญเฉินหลินคงแล้ว น่าจะไม่ตายง่ายๆ’
หลินสวินได้แต่ปลอบใจตัวเองเช่นนี้
จี้ซิงเหยาไม่รั้งอยู่นาน นัดเวลาและสถานที่พบเจอกับหลินสวินดีแล้วก็จากไป
อันที่จริงการที่นางมาบอกเรื่องเจ้าคางคกประสบภัยด้วยตนเองครั้งนี้ ก็ทำให้หลินสวินรู้ว่านางมองข้าม ‘เรื่องเข้าใจผิด’ ในปีนั้นไปแล้วจริงๆ ไม่ขุ่นเคืองเขาอีก
ไม่อย่างนั้นนางไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้เลย
สำหรับเรื่องนี้หลินสวินยินดีที่ได้พบอย่างยิ่ง
…
เขตต้องห้ามแม่น้ำนรกคือ ‘แดนหายนะ’ ที่ผู้คนในแดนอัคคีทักษิณต่างรู้จัก
รอบนอกเป็นผืนป่าดึกดำบรรพ์กว้างขวาง ต้นไม้ใหญ่สูงเสียดฟ้าบดบังนภาคลุมตะวัน ถูกปกคลุมอยู่ในความมืดมิดมานานปี
หลินสวินมาแล้วยืนอยู่ตรงป่าเขารอบนอก
จิตรับรู้ของเขาแผ่ขยายออก เมื่อรุกเข้าไปในป่าดึกดำบรรพ์กว้างใหญ่นั่นก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายทะมึนไหลบ่ากดดันมาทันที ทำให้ลมหายใจเขาหยุดชะงักเพราะมัน
แต่นี่ไม่ได้มีผลกระทบต่อหลินสวิน
หลังโคจรเคล็ดเวทบริกรรม จิตรับรู้ที่ยิ่งใหญ่มหาศาลนั้นของเขาก็แผ่ไปยังส่วนลึกของป่าเขาราวกระแสน้ำ ยืดขยายออกไปไม่หยุด…
ในขั้นตอนนี้กลิ่นอายกดดันและอึมครึมนั่นยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ นานเข้าก็ยิ่งแปลกประหลาด
นี่ทำให้แรงกดดันในใจหลินสวินเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกร็งไปทั้งตัวราวสายธนูที่ง้างไว้ พลังขับเคลื่อนทั่วร่างโคจรอย่างไร้สุ้มเสียงถึงได้จึงสามารถต้านทานไว้ได้
ตูม!
มองจากไกลๆ ผมดำของหลินสวินแผ่สยาย แสงมรรคไหลวนไปทั่วร่าง จิตต่อสู้อันดุดันทะลวงแหวกห้วงอากาศดั่งรุ้งเทพ ทำให้เมฆทั่วทิศสลายตัว น่าหวาดกลัวหาใดเปรียบ
เหมือนกำลังห้ำหั่นกับศัตรูที่ทรงพลังที่สุด
หากถูกมกุฎราชันคนอื่นเห็นเข้า จะต้องถูกอานุภาพพลังที่หลินสวินแผ่ออกมาทำให้หวาดหวั่นแน่ แข็งแกร่งเกินไปแล้ว ประหนึ่งเทพมารค้ำจุนฟ้าดิน!
พร้อมกันนี้ในจิตวิญญาณหลินสวินกำลังสั่นคลอนรุนแรง เหมือนมีเสียงเทพผีร่ำไห้ อริยะครวญคร่ำดังกระหึ่ม
ในห้วงนิมิตเต็มไปด้วยภาพชวนประหวั่นอย่างกระดูกขาวราวภูเขา ศพมากมายดุจห้วงสมุทร ฟ้าดินพังทลาย สรรพสิ่งดับสลาย
ทุกอย่างล้วนกำลังสั่นคลอนจิตใจ โจมตีเจตจำนงของเขา!
กระทั่งต่อมาในห้วงนิมิตเต็มไปด้วยเสียงคำรามอลหม่าน ภาพวาดเลือดหลั่งชโลม คล้ายจะม้วนกลืนจิตวิญญาณเขาให้จมดิ่งลงไปในนั้น
‘นี่คือ!?’
ทันใดนั้นห้วงนิมิตหลินสวินก็ปรากฏแม่น้ำสายหนึ่ง เลือดไหลบ่า ภายในมีซากศพประหลาดและอัปมงคลมากมายผลุบโผล่อยู่รางๆ
บ้างเป็นภิกษุที่ละกิเลส หว่างคิ้วถูกทะลวงเป็นรูโหว่รูหนึ่ง เผยสีหน้าโกรธแค้น
บ้างรูปร่างคล้ายมังกรฟ้าที่ถูกสะบั้นทุกอณู มองเห็นเป็นระยะๆ อยู่ในธารโลหิต คดเคี้ยวประมาณหลายหมื่นจั้ง
บ้างเป็นอริยะสวมเสื้อขนนกประดับเกี้ยวสูง…
บ้างเป็นสัตว์ปีศาจแปลกประหลาดที่ตรงหน้าผากแฝงลายมรรคแต่กำเนิด…
ทั้งหมดล้วนสิ้นชีพโดยไม่มีข้อยกเว้น!
ผลุบโผล่อยู่ในธารโลหิตราวจุดหมายแห่งความตาย
ตูม!
ไม่รอให้หลินสวินได้เห็นชัด ห้วงนิมิตก็พลันเจ็บปวดสาหัส ถูกพลังเยียบเย็นน่าหวาดกลัวสายหนึ่งโจมตี ทำให้เขาร้องเสียงอึดอัด เก็บจิตรับรู้คืนโดยไม่ลังเล
จากนั้นปรากฏการณ์ประหลาดที่เห็นก่อนหน้านี้จึงถดถอยหายไปราวกระแสน้ำ
และตอนนี้ทั่วร่างหลินสวินก็ชุ่มเหงื่อ สีหน้าค่อนข้างซีดเผือด ในดวงตาล้ำลึกฉายแววตระหนก
ธารโลหิตสายนั้น… ก็คือ ‘แม่น้ำนรก’ หรือ
ถึงตอนนี้หลินสวินจึงได้เข้าใจว่าที่จี้ซิงเหยากล่าวมาทั้งหมดล้วนไม่ผิด เวลานี้หากเข้าไปในเขตต้องห้ามแม่น้ำนรกนั่นจะต้องเจอเรื่องไม่คาดฝันแน่
พลังที่ครอบคลุมอยู่ภายในแปลกประหลาดและอัปมงคลเกินไป ทำให้เขาไร้แรงต้านทาน!
ฟู่…
ผ่านไปครู่ใหญ่หลินสวินจึงผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ เก็บพลังทั่วร่างลงไป
เขาใคร่ครวญครู่หนึ่ง เงาร่างก็พริบไหวหายเข้าไปในป่าดึกดำบรรพ์นั่น
ป่าเขาแถบนี้เป็นเพียงรอบนอกของเขตต้องห้ามแม่น้ำนรก แม้มีอันตรายมากมายกระจายอยู่ทั่ว แต่สำหรับหลินสวินแล้วยังไม่อาจสร้างภัยคุกคามมากนัก
‘นับจากวันนี้ไปก็ฝึกปราณอยู่ที่นี่แล้วกัน…’
หลินสวินตัดสินใจเด็ดขาด
เวลาสิบวัน หากใช้อย่างคุ้มค่าก็เพียงพอให้ตนยกระดับพลังต่อสู้ขึ้นอีกขั้น
ในป่าดึกดำบรรพ์นี้อันตรายซ่อนอยู่รอบทิศ แต่สำหรับหลินสวินแล้วกลับเป็นสถานที่ชั้นยอดในการเคี่ยวกรำวิถียุทธ์ หยั่งรู้วิชามรรคแห่งหนึ่ง
…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์