Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1219

สรุปบท ตอนที่ 1219 การชี้นำของแหวนทองแดง: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนที่ 1219 การชี้นำของแหวนทองแดง – ตอนที่ต้องอ่านของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนนี้ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 1219 การชี้นำของแหวนทองแดง จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

หลินสวินแน่ใจว่าจะเดินบนทางเส้นไหนอยู่ก่อนแล้วจริงๆ!

ตั้งแต่ตอนแรกที่เข้ามาในถ้ำนรกเทพแห่งนี้ คลื่นคลุมเครือคลื่นหนึ่งก็ผุดขึ้นมาจากแหวนทองแดงที่เขาสวมไว้บนนิ้ว

เหมือนได้รับเสียงเพรียกหาบางอย่าง!

แหวนทองแดงนี้ถูกพันเข้ากับเส้นผมของหลินสวินอย่างเงียบเชียบตอนข้ามแม่น้ำหมอกโลหิตแห่งนั้น ลึกลับถึงที่สุด

ตอนนั้นหลินสวินก็เคยสันนิษฐานว่าสิ่งนี้แม้ดูเหมือนธรรมดาทั่วไป แต่ต้องไม่เรียบง่ายอย่างยิ่งแน่ อาจจะเกี่ยวกับร่างไร้หัวที่กระโปรงเปื้อนเลือดนั่นก็เป็นได้!

และตอนนี้แหวนทองแดงเริ่มเคลื่อนไหวอย่างประหลาด พิสูจน์ได้อย่างไร้ข้อกังขาว่าการสันนิษฐานของเขาถูกต้อง

โดยเฉพาะหลังจากมาถึงถ้ำที่มีทางแยกมากมายแห่งนี้ ก็รู้สึกถึงคลื่นคลุมเครือที่แหวนทองแดงสร้างขึ้นสายนั้น ทำให้หลินสวินตัดสินใจทางเดินได้ทันที

แต่เขาไม่ได้บอกคนอื่น

เพราะเขายังไม่แน่ใจว่าอาศัยการชี้นำของแหวนทองแดงจะพาพวกเขาไปที่ไหนกันแน่ และจะเป็นโชคดีหรือโชคร้าย

หลังจากพวกหลินสวินเข้ามาในทางเส้นนี้แล้ว กลางห้วงอากาศรุ้งเทพสีเลือดสายหนึ่งลอยตามลมอย่างเงียบเชียบ เดี๋ยวผลุบเดี๋ยวโผล่ ขวางปากทางเข้าถ้ำอยู่

ผู้แข็งแกร่งประมาณเจ็ดแปดคนกลุ่มหนึ่งพุ่งเข้ามา เห็นได้ชัดว่าคิดจะร่วมเคลื่อนไหวไปกับพวกหลินสวิน

“อ๊าก!”

เพียงแต่ทันทีที่พวกเขากระโจนเข้ามาก็ถูกรุ้งเทพสีเลือดสายนั้นกวาดต้อง ร่างกายเหมือนถูกคมดาบเฉือน เลือดพุ่งกระฉูด และมีสามคนตายคาที่

“นี่…”

คนอื่นต่างตกใจจนสูดหายใจเย็น ใบหน้าถอดสี

แปลกประหลาดเกินไปแล้ว เดิมทีดูพวกหลินสวินไม่เป็นอะไร พวกเขาจึงคิดจะตามหลังคนเหล่านั้น นึกว่าทำเช่นนี้จะหลบหลีกอันตรายมากมายได้

จะคิดได้อย่างไรว่าทางที่พวกหลินสวินเดินไม่ใช่ทางที่พวกเขาเดินได้!

พวกหลินสวินไม่รู้สึกถึงทุกอย่างนี้เลย

โพรงถ้ำวังเวง ตามทางเงียบเชียบไร้เสียง คดเคี้ยวเลี้ยวลดและไม่รู้ด้วยว่าจะนำไปสู่ที่ใด

ตูม!

ฉับพลันเปลวเพลิงสีเลือดดวงหนึ่งผุดขึ้นในห้วงอากาศเบื้องหน้า ปะทุออกเป็นประกายแสงแปลกตา ขวางทางข้างหน้าของพวกหลินสวินไว้

พวกหลินสวินต่างดวงตาหดรัด เปลวเพลิงนี้ดูเหมือนขนาดเท่ากำปั้น แต่กลับปล่อยกลิ่นอายน่าสะพรึงกลัวถึงที่สุดออกมา ราวกับโลหิตเทพดวงหนึ่งกำลังแผดเผา!

“เพลิงนรกบาป!”

เจ้าคางคกสีหน้าไม่น่าดู น้ำเสียงแสดงความหวาดหวั่นอย่างลึกล้ำออกมา

เพียงไม่กี่คำก็ทำให้จี้ซิงเหยากับโม่เทียนเหอหน้าเปลี่ยนสี ในตำนานกล่าวว่าเพลิงนี้ถือกำเนิดที่แม่น้ำนรกอันลึกลับหาใดเทียบ บรรจุพลังแห่งบาปคับฟ้า

หากอริยเทพต้องโดนมันเข้า ก็จะกลายเป็นกระดูกแห้งเหี่ยวกองหนึ่ง!

แน่นอนว่านี่คือตำนาน แต่โบราณน้อยคนนักที่เคยเห็นจริงๆ แม้แต่ที่บันทึกอยู่ในคัมภีร์ก็เป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น

“จริงหรือปลอมนี่”

จี้ซิงเหยาถามอย่างอดไม่ได้

“ไม่ผิดแน่ พลังบาปในเปลวเพลิงนี้น่าหวาดหวั่นไร้ที่สิ้นสุด ต้องเป็นเพลิงนี้อย่างไม่ต้องสงสัย!” นัยน์ตาทองของเจ้าคางคกเจิดจ้า มีประกายครั่นคร้ามไหวเคลื่อนอยู่

ชั่วขณะเดียวในใจของพวกเขาก็ต่างหนักอึ้งขึ้นมา

มีไฟนี้ขวางทาง ได้พิสูจน์แล้วว่าทางนี้เป็นทางตัน!

อีกทั้งพวกเขาก็ไม่มีความเชื่อมั่นว่าจะสลายเปลวเพลิงที่น่าหวาดหวั่นถึงที่สุดในตำนานเช่นนี้ได้

กลับเห็นว่าหลินสวินสะบัดแขนเสื้อคราหนึ่ง

เพลิงนรกบาปนั้นประหนึ่งตื่นตระหนก ส่งเสียงดังสวบครั้งหนึ่งก็หายลับไป

พวกเจ้าคางคกต่างตาเบิกกว้าง เกือบกัดลิ้นตัวเอง

ยามพวกเขายังกังวลและหวาดกลัวอยู่ จะคิดได้อย่างไรว่าหลินสวินแค่สะบัดแขนเสื้อสบายๆ ก็สลายเพลิงนี้ได้แล้ว!

“คนโกหก!” จี้ซิงเหยาหน้าแดง อับอายอยู่บ้าง

เมื่อกี้ถูกทำให้ตกใจเสียได้ สิ่งนั้นต้องไม่ใช่เพลิงนรกบาปในตำนานแน่!

“สหายยุทธ์จิน เจ้าออกจะพูดให้คนอื่นตกใจไปแล้ว” โม่เทียนเหอก็อับอายอยู่บ้างเช่นกัน เมื่อกี้เขาก็ถูกทำให้กลัวเสียแล้ว

เจ้าคางคกหน้าตาอักอ่วน เพียงแต่ในใจยังพึมพำว่า ด้วยฐานะลูกหลานสายตรงของเผ่าคางคกทองสามขา เขาไม่เคยผิดพลาด

เมื่อกี้สิ่งนั้นคือเพลิงนรกบาปชัดๆ!

เพียงแต่เขาไม่อาจอธิบายได้เลย เขาจะพูดได้หรือว่าเพลิงนรกบาปที่สามารถทำให้อริยเทพกลายเป็นกระดูกเหี่ยวแห้งกองหนึ่งเป็นผีขี้ขลาด

เจ้าคางคกส่งสายตามองไปยังหลินสวิน เอ่ยว่า “เจ้าอยากอธิบายสักหน่อยไหม”

แต่หลินสวินไม่มีแก่ใจพูดเรื่องไร้สาระ กล่าวว่า “อันตรายก็สลายไปแล้ว ยังจะอธิบายมากมายขนาดนั้นทำไม รีบไปเถอะ”

เขาเดินนำไปข้างหน้า

ความจริงแล้วก่อนหน้านี้เขาแค่หยั่งเชิง ลองดูเสียหน่อยว่าอาศัยกลิ่นอายของแหวนทองแดงจะทำให้เพลิงนรกบาปดวงนั้นหวาดผวาได้หรือไม่

ไม่คิดว่าผลลัพธ์กลับดีเกินคาด!

นี่ก็ทำให้หลินสวินยิ่งแน่ใจว่าแหวนทองแดงนี้ต้องเกี่ยวข้องกับถ้ำนรกเทพแห่งนี้

ไม่นานนักดอกกระดูกขาวน่าสะพรึงกลัวดอกหนึ่งก็มาขวางทางข้างหน้า สูงสองฉื่อกว่า ดอกไม้ที่เบ่งบานบนกิ่งก้านของมันกลับเป็นหัวกะโหลกสีน้ำเงินเข้มดอกหนึ่ง!

“แย่ล่ะ นี่คือดอกนรกกระดูกหยิน!”

เจ้าคางคกร้องเสียงหลง ตกใจเข้าแล้ว ลือกันว่าดอกไม้นี้มีพลังดึงดูดวิญญาณ ทันทีที่ถูกจับจ้อง จิตวิญญาณก็จะถูกดึงดูด จ่อมจมลงโดยสมบูรณ์

จี้ซิงเหยากับโม่เทียนเหอใจสั่นระรัว หน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเคยได้ยินความน่ากลัวของดอกไม้ดอกนี้

แต่หลินสวินกลับไม่หยุดก้าวเดิน ที่น่าเหลือเชื่อที่สุดก็คือ พร้อมๆ กับที่เขาเข้าใกล้ ดอกนรกกระดูกหยินดอกนั้นก็ตกใจจนถอยหนีไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่พบแม้แต่ควัน

นี่… ก็เรียกว่าดอกนรกกระดูกหยินได้หรือ

จี้ซิงเหยากับโม่เทียนเหอทอดสายตามองไปที่เจ้าคางคก ส่วนฝ่ายหลังก็สีหน้าอึดอัด ในใจเหมือนมีม้าป่าหมื่นตัวควบทะยานผ่านไป

ระหว่างทางต่อมา พวกเขาได้พบของที่อัศจรรย์พันลึกและน่าหวาดหวั่นนานาชนิด

เช่นน้ำยมโลกอันขุ่นมัวยิ่ง หญ้าวิญญาณวายที่ปล่อยไอมรณะเข้มข้นออกมา…

แต่ต่างเป็นสิ่งที่ทำให้กลัวไปก่อนทั้งนั้น

สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งของน่ากลัวที่มีอยู่ในตำนานเท่านั้น แต่ไม่ทันรอให้หลินสวินเข้าใกล้ก็ถอยหนีหายไปไร้ร่องรอย

แล้วก็ในตอนนี้เอง กลิ่นหอมโอสถสดชื่นที่ซึมซาบไปถึงจิตใจลอยมาไกลๆ

“หอมจัง!”

ปลายจมูกเจ้าคางคกขยับไปมา รู้สึกว่าจิตวิญญาณเคลิบเคลิ้มมัวเมาอย่างบอกไม่ถูกไปครู่หนึ่ง

“คงไม่ได้เป็นของมายาที่ไม่ได้มีอยู่จริงอีกกระมัง” จี้ซิงเหยานิ่วหน้า

“คราวนี้ไม่ใช่”

ที่เอ่ยปากคือหลินสวิน เบื้องหน้าพวกเขาเป็นทะเลสาบแห่งหนึ่ง ภายในนั้นระลอกคลื่นสีเลือดปั่นป่วน ถาโถมซัดสาด ส่งเสียงซู่ซ่า

เห็นได้รางๆ ว่าในน้ำทะเลสาบสีเลือดมีดอกบัวกระดูกขาวดอกหนึ่งอยู่ กิ่งก้านและใบบัวต่างหลอมขึ้นด้วยกระดูกขาว

ส่วนบนยอดของมันก็มีฝักบัวทอสีงดงาม สดสวยตระการห้อยอยู่ ละอองแสงเหมือนสายรุ้งน้อยๆ สายแล้วสายเล่าปลิวว่อนออกมา

แม้ห่างกันไกลลิบก็ได้กลิ่นหอมโอสถสดชื่นได้รางๆ

“โอสถเทพ!”

ทุกคนดวงตาเปล่งประกายขึ้นทันที

“สมกับเป็นถ้ำนรกเทพ ในสถานที่ลึกลับเช่นนี้ยังมีโอสถเทพแบบนี้เกิดขึ้นด้วย”

หลินสวินทอดถอนใจ

ถึงกระนั้นเมื่อเขาลงมือเด็ดก็พบกับความยุ่งยากใหญ่หลวง ทะเลสาบสีเลือดนั้นพลิกม้วนซัดทะยาน เจียวหลงกระดูกขาวตัวแล้วตัวเล่าพุ่งออกมาล้อมโจมตีพวกเขา

คราวนี้แหวนทองแดงไม่มีประโยชน์แต่อย่างใด

แต่ทว่าสิ่งนี้ก็สร้างความลำบากให้พวกหลินสวินไม่ได้ เพียงครู่เดียวเท่านั้นหลินสวินก็เด็ดฝักบัวที่ทอสีงดงามฝักนั้นไปได้อย่างราบรื่น

กร๊อบ!

หลินสวินบิฝักบัวออก ทันใดนั้นละอองแสงงดงามสายแล้วสายเล่าก็พร่างพรมออกมา ทั้งสีชาด สีทอง สีดำ สีเขียว…

มองดูอย่างละเอียด ภายในฝักบัวนั้นมีเม็ดบัวสีสันสดใส โปร่งใสเปล่งประกายยิ่งกว่าเพชรห้าเม็ด แต่ละเม็ดต่างมีขนาดเท่าไข่นกพิราบ

นี่เป็นโอสถเทพ!

หนำซ้ำยังมีห้าเม็ด!

สายตาพวกหลินสวินถูกดึงดูดไว้อย่างเหนียวแน่นทันที ในใจสั่นสะท้าน โอสถเทพชั้นนี้หายากถึงที่สุด

“ข้านึกออกแล้ว บัวมีห้าเม็ด หมุนวนความอัศจรรย์แห่งมหามรรคปัญจธาตุ นี่… นี่เป็นบัวเทพปัญจธาตุต้นหนึ่ง!”

เจ้าคางคกจำได้ สูดหายใจเย็นเยียบ

โอสถเทพก็มีการแบ่งระดับชั้น แบ่งอย่างคร่าวๆ ได้เป็นสูง กลาง ต่ำสามชั้นและชั้นยอดที่หายากยิ่ง

และบัวเทพปัญจธาตุตรงหน้าต้นนี้ก็มีลักษณะของระดับชั้นสูง!

จี้ซิงเหยากับโม่เทียนเหอก็พยักหน้า บัวเทพปัญจธาตุ โอสถเทพที่มีชื่อยิ่งนักมาตั้งแต่ยุคบรรพกาลชนิดหนึ่ง แม้พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน แต่จะไม่เคยได้ยินมาก่อนได้อย่างไร

ในใจหลินสวินบังเกิดแววแปลกประหลาดอย่างอดไม่ได้ นึกถึงบัวเทพสองลักษณ์ที่ได้มาจากเขาฝนดาวตกสามต้นนั้นขึ้นมา

……

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์