Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1254

ทุ่งกว้างกลางเขา เยวี่ยเจี้ยนหมิงรู้สึกปิติยินดีนัก

ศัตรูหลายคนล้มลงกับพื้น เผยสีหน้าสิ้นหวัง

เยวี่ยเจี้ยนหมิงผู้ฝึกกระบี่ที่ไปมาตัวคนเดียว แข็งแกร่งถึงขั้นทำให้ผู้คนใจสั่น เขาเด่นผงาดจากการไม่มีใครรู้จัก สร้างชื่อจากการเข่นฆ่านองเลือด

จนถึงทุกวันนี้ในแดนเก้าบน เยวี่ยเจี้ยนหมิงกลายเป็นผู้ฝึกกระบี่ที่มีชื่อเสียงอย่างยิ่งคนหนึ่งแล้ว

ใครที่เป็นศัตรูกับเขาล้วนกลายเป็นซากกระดูกกองหนึ่ง!

เพียงแต่สิ่งที่ทำให้เหล่าศัตรูผู้สิ้นหวังตื่นตะลึงคือ จู่ๆ เยวี่ยเจี้ยนหมิงก็แหงนมองฟ้าหัวเราะร่า เก็บกระบี่ลงไป

“วันนี้ข้าอารมณ์ดีจะละเว้นพวกเจ้าสักครั้ง!”

ยังไม่ทันสิ้นเสียงเขาก็หายลับจากไป เหลือไว้เพียงผู้แข็งแกร่งกลุ่มหนึ่งที่มองหน้ากันเลิ่กลั่กและยังคงหวาดผวา

“น่าเสียดาย สี่ปีเต็มแล้วแต่ข้ากลับหาเบาะแสของกู่ฝอจื่อให้เจ้าไม่ได้…”

เยวี่ยเจี้ยนหมิงยืนอยู่บนหน้าผาแห่งหนึ่ง ทอดสายตามองทะเลหมอกที่ห่างออกไป ในใจมีความรู้สึกเสียดายเล็กน้อย

“ถ้ารู้ว่าเป็นเช่นนี้ข้าคงไม่ก้าวก่ายเรื่องเขาแล้ว”

เยี่ยเฉินกล่าวพึมพำ

ในใจกลับชื่นมื่นอย่างบอกไม่ถูก

หลินสวินยังมีชีวิตอยู่!

“กู่ฝอจื่อหลบซ่อนตัวมาสี่ปี หากเขารู้ว่าเจ้ารอดชีวิต ไม่ช้าก็เร็วต้องปรากฏตัวแน่”

เซี่ยวชางเทียนยิ้มเจิดจ้า

เขารู้ว่าด้วยนิสัยของหลินสวินจะต้องไปหากู่ฝอจื่อเพื่อคิดบัญชีด้วยตัวเองแน่ ต่อให้คนอื่นคิดยื่นมือเข้ามายุ่ง เขาก็คงไม่ตกปากรับคำ

“เอ๋ ศิษย์น้องเซียวทำไมเจ้าถึงกลับมาเล่า ไม่ไปเจอหลินสวินสักหน่อยหรือ”

หมีเหิงเจินกล่าวหยอกล้อเล็กน้อย

เซียวชิงเหอลูบจมูก จากนั้นก็ยิ้มกล่าว “แค่รู้ว่าเขารอดชีวิตก็พอแล้ว พบกันหรือไม่นั้นไม่สำคัญเลย”

หมีเหิงเจินยกหัวแม่โป้งกล่าว “เสร็จธุระก็ลาจาก ซ่อนชื่อเสียงและเกียรติยศ”

เซียวชิงเหอพลันยิ้มขื่น แต่เขาก็มองออกว่าหลังทราบข่าวการรอดชีวิตของหลินสวิน อารมณ์ของศิษย์พี่หมีเหิงเจินก็ดูไม่เลวนัก

ก่อนหน้านี้น้อยนักที่เขาจะพูดเล่นเช่นนี้กับตน

“หึ สี่ปีแล้ว สถานการณ์ต่างออกไปแล้ว ต่อให้เขาหลินสวินรอดชีวิตก็ได้แค่ม้วนหางกลับไปเท่านั้น!”

และมีคนยิ้มหยันไม่เห็นหัวหลินสวินเช่นกัน

“เจ้าหลินสวินนี่ราวกับเจียวหลง หากปรากฏตัวบนโลกเป็นต้องทำให้สถานการณ์ยุ่งเหยิง พวกที่มีความแค้นกับเขาจะต้องเริ่มเคลื่อนไหวแน่”

มีคนกล่าววิเคราะห์เสียงทุ้มต่ำ

กิตติศัพท์ของเทพมารหลินสร้างจากการต่อสู้ฟาดฟันทั้งสิ้น ศัตรูของเขามีมาก นี่เป็นเรื่องที่ทุกคนรู้ดี

อย่างเช่นบุตรนรก กู่ฝอจื่อ…

“เขาจำศีลหัวโล้น!”

“ไป ตรวจสอบการเคลื่อนไหวของหลินสวินกัน”

หลังจากข่าวการมีชีวิติอยู่ของหลินสวินแพร่ออกไป ขุมอำนาจมากมายก็นั่งไม่ติด ทยอยส่งกำลังพลออกไปสืบการเคลื่อนไหวโดยละเอียดของหลินสวิน

“ศิษย์พี่จี้ ศิษย์พี่โม่ สถานการณ์ไม่เข้าทีอยู่บ้าง ตอนนี้ละแวกเขาจำศีลหัวโล้นของพวกเรามีผู้แข็งแกร่งในขุมอำนาจมากมายปรากฏตัว”

ณ เขาจำศีลหัวโล้น ผู้สืบทอดเรือนกระบี่เร้นปุจฉาคนหนึ่งกล่าวรายงานอย่างว้าวุ่นใจ

“ก็แค่หน่วยสอดแนมกลุ่มหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องใส่ใจ”

จี้ซิงเหยาสงบนิ่งยิ่งนัก

ช่วงเวลาที่หลินสวินเลือกอยู่บนเขาจำศีลหัวโล้น นางก็คาดไว้แล้วว่าต้องเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ถึงอย่างไรเขาก็มีชีวิตกลับมานี่นา!

“ศิษย์น้องจี้กล่าวไม่ผิด ขอแค่ไม่มายั่วยุก็ไม่ต้องใส่ใจ เพียงแต่ช่วงนี้ทุกคนอย่าเพิ่งออกไปข้างนอก จะได้ไม่เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น”

โม่เทียนเหอพูดด้วยเสียงขรึม

ตอนนี้สายตาทั่วแดนอัคคีทักษิณเริ่มจับจ้องมาที่เขาจำศีลหัวโล้น สามารถคาดการณ์ได้ว่าในช่วงเวลาต่อจากนี้สถานการณ์เช่นนี้คงต้องดำเนินต่อไป!

โม่เทียนเหออดทอดถอนใจไม่ได้ “นี่ก็คืออิทธิพล ทุกการเคลื่อนไหวทั่วสารทิศต้องติดตาม เป็นการก่อคลื่นลมโดยปริยาย!”

“ประจบประแจงอีกแล้ว” จี้ซิงเหยาเหล่มองเขาวูบหนึ่ง

โม่เทียนเหอนิ่งเงียบ

เขาจำศีลหัวโล้นตอนนี้ราวกับตาพายุ ดูเหมือนนิ่งสงบแต่กลับมีวี่แววว่าพายุฝนกำลังมา!

บนเขาจำศีลหัวโล้น แม้จี้ซิงเหยาและโม่เทียนเหอจะสงบนิ่ง แต่กลับไม่อาจไม่เตรียมการป้องกันทุกอย่างอย่างรอบคอบ

ตัวอย่างเช่น ห้ามผู้สืบทอดสำนักออกไปข้างนอก

เตรียมการรับมือคลื่นลมอย่างดี

แต่นอกเขาจำศีลหัวโล้น ตามเวลาที่ล่วงเลยเงาร่างผู้ฝึกปราณที่รวมตัวกันก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ล้วนกำลังติดตามอย่างตื่นเต้น

“เทพมารหลินกลับมาคราวนี้กำจัดกำลังพลที่แดนนรกส่งมาในคราเดียว สามารถคาดเดาได้เลยว่าขุมอำนาจแดนนรกต้องจู่โจมกลับแน่!”

“ไม่ผิด หากยอมจำนนเช่นนี้ ไม่ใช่แค่ชื่อเสียงของแดนนรกที่จะพังทลายอย่างรวดเร็ว แม้แต่บุตรนรกก็จะถูกมองว่าไม่กล้าต่อกรกับเทพมารหลินด้วย”

“รอก่อนเถอะ เมื่อขุมอำนาจแดนนรกเข้าสู้ศึก ก็จะตัดสินได้แล้วว่าหลินสวินนั่นแข็งแกร่งถึงขั้นไหนกันแน่”

เสียงวิพากษ์วิจารณ์เช่นนี้ดังขึ้นไม่หยุด

เทพมารหลินปรากฏตัวอีกครั้ง ไม่ว่าใครก็ไม่อาจไม่สนใจ

บรรยากาศราวพายุฝนกำลังมาเช่นนี้สืบเนื่องมาหลายวันแล้ว

แต่สิ่งที่ทำให้ผู้คนประหลาดใจคือ ไม่ใช่แค่หลินสวินที่ไม่เคยปรากฏตัวบนเขาจำศีลหัวโล้น แม้แต่ผู้แข็งแกร่งของขุมอำนาจแดนนรกก็ไม่เคยมาที่นี่ด้วย

ชั่วขณะหนึ่งผู้แข็งแกร่งมากมายต่างแปลกใจสงสัยไม่หยุด

ในป่าไผ่ไหวเอนบนเขาจำศีลหัวโล้น หลินสวินเอื้อมมือวักน้ำในลำธารขึ้นมาลวกๆ ก่อนเปลี่ยนเป็นมุกวารีประกายจรัสมากมาย

พร้อมๆ กับความคิดที่ขยับไหวของหลินสวิน มุกวารีพวกนี้พลันเปลี่ยนเป็นสายน้ำหลากสายพาดไปมากลางอากาศ เต็มไปด้วยกระบวนสลักที่แฝงกลิ่นอายมหัศจรรย์

วู้ม!

ทันทีที่กระบวนสลักก่อตัวเป็นรูปร่างก็แผ่คลื่นประหลาดสายหนึ่งออกมา ไอวิญญาณที่แผ่คลุมทั่วป่าไผ่พลันรวมตัวพุ่งตรงมาจากทั่วสารทิศ

ไอวิญญาณรวมตัวกันมากขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นน้ำวิญญาณหลั่งรินในกระบวนสลัก ไหลลู่ลงมาราวกับน้ำตกสายเล็ก

ในจุดที่ห่างออกไปพลันมีเสียงสูดหายใจเย็นดังขึ้น

ก็ไม่รู้โม่เทียนเหอมาถึงที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ ได้เห็นเหตุการณ์นี้กับตาพอดี

“เขามาทำอะไร ยังคิดจะแก้แค้นอีกรึ”

หลินสวินยิ้มเยาะ

ไม่ใช่ว่าเขาดูถูกอวี่หลิงคง หากแต่ตอนแข่งขันกระดานยอดมกุฎรุ่นเยาว์ อวี่หลิงคงเคยถูกเขาเหวี่ยงตกอันดับมาก่อน

“ข้าก็ไม่รู้”

จี้ซิงเหยาเบะปาก

แน่นอนว่านางรู้ว่าอวี่หลิงคงชอบนางมาตลอด ที่น่าเสียดายคือนางไม่เคยรู้สึกดีกับอวี่หลิงคงสักนิด

ว่าไปแล้วปีนั้นเพื่อหลบหน้าอวี่หลิงคงจึงได้มา ‘ต่อยตีจนรู้จัก’ กับหลินสวินที่ลานประลองยุทธ์หมอกสนอย่างมีวาสนาแทน

“เช่นนั้นข้าจะไปพบ ‘สหายเก่า’ คนนี้สักหน่อย”

หลินสวินใคร่ครวญเล็กน้อยก่อนตัดสินใจ

นอกเขาจำศีลหัวโล้น อวี่หลิงคงยืนอยู่ตรงนั้นในชุดขนนก ศีรษะสวมเกี้ยวประดับทรงสูง เอวคาดเข็มขัดหยก สง่างามโดดเด่น

เขากำลังรอเงียบๆ ในใจรู้สึกสับสนอยู่บ้าง

ครั้งนี้เขาไม่มาไม่ได้!

ในจุดที่ห่างออกไปสายตามากมายกำลังจับจ้องทุกอย่างนี้ ล้วนประหลาดใจอยู่บ้าง คิดไม่ถึงว่าแดนนรกยังไม่มา อวี่หลิงคงกลับกระโดดออกมาก่อน

เขา…

ก็มาหาเทพมารหลินเพื่อแก้แค้นรึ

ก่อนหน้านี้อวี่หลิงคงก็เป็นคลื่นลูกใหม่ในยุคปัจจุบันคนหนึ่ง ชื่อเสียงเลื่องลือฝั่งหนึ่ง ไม่เพียงแต่ชาติกำเนิดสูงส่ง แม้แต่พรสวรรค์ก็เรียกได้ว่าน่าตกตะลึง

แต่ตอนนี้กาลเวลาเปลี่ยนผ่าน แม้เขาจะยังเจิดจรัส แต่เทียบกับเหล่ายักษ์ใหญ่ยอดมกุฎอย่างเยี่ยนจั่นชิว หวังเสวียนอวี๋ เย่หมัวเฮอ หมีเหิงเจินแล้ว สุดท้ายก็ยังด้อยกว่าอยู่บ้าง

ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงว่าจะเทียบกับเทพมารหลิน

แต่อวี่หลิงคงกลับมาซะอย่างนั้น เขามาทำอะไรกันแน่

ทุกคนต่างไม่เข้าใจ

“ออกมาแล้ว!”

ทันใดนั้นก็มีคนร้องตะโกน

พร้อมกันนี้อวี่หลิงคงพลันเงยหน้าขึ้น ก็เห็นในประตูหน้าเขามีร่างสูงสง่าหนึ่งก้าวออกมา เขาสวมชุดขาวพระจันทร์ ผมดำพลิ้วไหว

ท่าทางนั้นช่างคุ้นเคย ทำให้ใจอวี่หลิงคงอดพลิกม้วนไม่ได้

แต่เมื่อนึกถึงจุดประสงค์การมาครั้งนี้ สภาวะจิตของเขาก็เปลี่ยนเป็นแน่วแน่ใหม่อีกครั้ง

“เป็นเทพมารหลินดังคาด!”

“เขายังมีชีวิตอยู่จริงด้วย!”

ในจุดที่ห่างออกไป ผู้แข็งแกร่งที่กระจายตัวสังเกตการณ์ในที่ลับต่างฮือฮาขึ้นมา

แม้ทุกข่าวจะยืนยันว่าหลินสวินยังมีชีวิตอยู่ แต่ตอนนี้พวกเขาเพิ่งเห็นตัวหลินสวินกับตาเป็นครั้งแรก!

ทุกสายตาต่างมองไปทางหลินสวินโดยพร้อมเพรียงทันที สีหน้าแตกต่างกันออกไป

เทพมารหลิน!

สี่ปีมานี้ยังคิดว่าบุคคลในตำนานผู้นี้ร่วงหล่นราวดาวหางไปแล้ว แต่เขากลับใช้ท่าทีแข็งกร้าว เหยียบร่างไร้วิญญาณของผู้แข็งแกร่งแดนนรกกลับมาสู่ครรลองสายตาของผู้คน!

……………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์