Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1255

หลินสวินสังเกตเห็นอย่างรวดเร็ว ว่าในบริเวณใกล้เคียงมีสายตานับร้อยมองมาที่ตนจากต่างทิศทาง

แต่เขากลับไม่ใส่ใจ

“เจ้ามาหาข้ามีเรื่องอะไร”

สายตาหลินสวินมองไปยังอวี่หลิงคง ไม่เจอกันหลายปีอีกฝ่ายก็ก้าวสู่ระดับอมตะเคราะห์ด่านสองแล้ว ทำให้หลินสวินอดทอดถอนใจอยู่บ้างไม่ได้

ปีนั้นในเหล่าผู้กล้าที่เข้าร่วมเทศกาลโคมกถามรรค อวี่หลิงคงเป็นบุคคลที่ใครก็ไม่อาจมองข้ามคนหนึ่ง

จนกระทั่งตอนกระดานยอดมกุฎรุ่นเยาว์ แม้ลำดับชื่อของอวี่หลิงคงจะก้าวขึ้นไปอยู่ในสิบอันดับแรก แต่ก็ไม่มีความเจิดจรัสอย่างปีนั้นแล้ว

เพราะเขาอ่อนแอลงรึ

ไม่ใช่ หากแต่เมื่อกวาดสายตามองทั้งใต้หล้า ปีศาจที่เจิดจรัสกว่าอวี่หลิงคงนั้นมีอยู่มาก!

เวลานี้สีหน้าอวี่หลิงคงดูนิ่งสงบกล่าวว่า “ข้ามาคราวนี้ก็แค่อยากประลองกับเจ้าสักครั้ง ทำลายด่านมารในใจ ขอเจ้าช่วยให้สมปรารถนา”

เสียงหัวเราะพลันดังขึ้นแต่ไกล

ใครก็มองออกว่าการท้าประลองของอวี่หลิงคงตอนนี้ไม่ประมาณตนอยู่บ้าง ล้วนสงสัยว่าเขาแกล้งโง่รึ นี่ไม่ใช่การหาเรื่องเจ็บตัวหรืออย่างไร

แม้แต่จี้ซิงเหยาก็อดตะลึงไม่ได้ หว่างคิ้วเผยแววซับซ้อนวูบหนึ่ง

อวี่หลิงคงในปีนั้นสง่างามองอาจระดับใด แต่ตอนนี้กลับถูกคนเย้ยหยันเพราะการท้าประลองครั้งเดียว การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้จะไม่ให้คนทอดถอนใจได้อย่างไร

“เจ้าไม่ห่วงว่าข้าจะฆ่าเจ้ารึ” หลินสวินเอ่ยถาม

“หากตายในการต่อสู้ก็ไม่เสียดายแล้ว”

อวี่หลิงคงราวกับไม่สังเกตเห็นเสียงหัวเราะโดยรอบ กล่าวราบเรียบ “ตั้งแต่แพ้เจ้าที่เทศกาลโคมกถามรรค ในใจข้าก็ปรากฏด่านมาร จนถึงทุกวันนี้ด่านมารนี่ราวกับเนื้อร้ายไปแล้ว หากไม่ขุดรากถอนโคนจะต้องขวางมรรคาของข้าแน่”

หลินสวินกล่าว “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้”

“ขอเจ้าช่วยให้สมปรารถนา”

อวี่หลิงคงสำรวมสีหน้า ประสานมือกล่าว

เขาเปลี่ยนไปแล้ว

ไม่มีท่าทีหยิ่งผยองเหมือนแต่ก่อน เปลี่ยนเป็นลุ่มลึกและแน่วนิ่งราวกระบี่คมแม้ไร้ปลายดาบ เทียบกับแต่ก่อนแล้วราวกับเป็นคนละคน

ต้องรู้ว่าหากพูดถึงความแค้นในอดีต หลินสวินมีเหตุผลพอจะฆ่าเขาด้วยซ้ำ แต่เขากลับแน่วแน่ไม่หวาดกลัว มาท้าประลองตัวคนเดียว!

จ้องมองอวี่หลิงคงครู่หนึ่ง ในที่สุดหลินสวินก็พยักหน้า

“เจ้าตามข้ามา”

เขาหันหลังกลับไปในเขาจำศีลหัวโล้น

อวี่หลิงคงชะงักแต่ไม่ถอยร่น ตามเขาเข้าไป

ทุกคนที่อยู่ห่างออกไปมองหน้ากันเลิ่กลั่ก นี่เทพมารหลินยอมรับคำท้าของอวี่หลิงคงแล้วรึ

หนึ่งเค่อผ่านไป

บนยอดเขาหม่อนเขียว อวี่หลิงคงถูกกำราบกับพื้น เลือดอาบไปทั้งตัว น่าอเนจอนาถหาใดเปรียบ

แต่เหนือความคาดหมายของเขา หลินสวินกลับไม่ลงมืออย่างเหี้ยมโหด

“ทำลายจิตมารของเจ้าได้หรือยัง” หลินสวินถาม

อวี่หลิงคงเช็ดคราบเลือดที่มุมปาก อดทนต่อความเจ็บปวดทั่วร่างลุกขึ้นอย่างยากลำบากแล้วกล่าว “ไม่เกินสามวันต้องขจัดได้แน่”

ในน้ำเสียงเจือความผ่อนคลายอย่างไม่เคยมีมาก่อน

ไม่มีคนรู้ว่าหลายปีนี้เขาแบกรับความเจ็บปวดเช่นไร เพราะการพ่ายแพ้ในตอนนั้นราวกับเงามืดที่กัดกร่อนจิตมรรคและเจตจำนงของเขา

ต่อให้กลายเป็นมกุฎราชันระดับอมตะเคราะห์ด่านสอง แต่อวี่หลิงคงก็รู้ว่าสภาวะจิตของตนไม่มั่นคง!

มีความเป็นไปได้ที่จะถูกธาตุไฟเข้าแทรกทุกเมื่อ!

หากต้องถูกจิตมารรุกรานจนตาย สู้ประลองอย่างสะใจยังดีกว่า สะสางกฎกรรมนี้ให้มันจบไป

ดังนั้นเขาจึงมาที่นี่

การประลองนี้แม้จะแพ้ แต่สำหรับเขากลับเหมือนหลุดจากพันธนาการหนึ่ง กายใจต่างมีความรู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก

“เจ้าไปเถอะ”

หลินสวินเหลือบมองเขาเล็กน้อย

อวี่หลิงคงมึนงง หน้าตาสับสนอดถามไม่ได้ “เพราะเหตุใด”

หลินสวินกล่าว “บุญคุณความแค้นระหว่างเจ้ากับข้าเกิดขึ้นเพราะแย่งชิงวาสนาทั้งสิ้น ยิ่งไปกว่านั้นที่แพ้ทุกครั้งล้วนเป็นเจ้า ในเมื่อวันนี้เจ้าตัดสินใจมาจบเรื่อง ทำไมข้าต้องถือสาหาความช่วงชิงชีวิตเจ้าด้วย ไม่จำเป็นเลย”

ไม่จำเป็น!

นี่ก็คือความคิดของหลินสวิน

อวี่หลิงคงเงียบไป ครู่ใหญ่จึงประสานมือกล่าว “ขอบคุุณที่ช่วยให้สมปรารถนา”

หลินสวินประสานมือ ไม่พูดอะไรมากอีก

“หากเจ้าอยากไปหากู่ฝอจื่อ ลองไปสืบดูที่ ‘แดนธรรมสถูป’ ได้”

ก่อนจากไปจู่ๆ อวี่หลิงคงก็เอ่ยปาก

นัยน์ตาดำของหลินสวินพลันหดรัดลง จดจำชื่อนี้ไว้แล้ว

ยามอวี่หลิงคงจากไป เสื้อผ้าเปื้อนเลือดน่าอเนจอนาถหาใดเปรียบ เหตุการณ์นี้ถูกผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วนมองเห็นอยู่ในสายตา

เพียงแต่ไม่ว่าใครก็คิดไม่ถึง เทพมารหลินที่ใช้ความป่าเถื่อนสร้างชื่อกลับปล่อยอวี่หลิงคงไปครั้งหนึ่ง

“เจ้าไม่ห่วงว่าหลังจากเขาขจัดจิตมารจนพลังปราณรุดหน้าแล้ว จะมาหาเจ้าเพื่อล้างแค้นอีกหรือ”

จี้ซิงเหยาไม่เข้าใจอยู่บ้าง

“ขอแค่ข้าแข็งแกร่งกว่าเขา ไยต้องกลัวการล้างแค้นเล่า”

หลินสวินพูดง่ายๆ

ภัยคุกคามของศัตรูเป็นได้แค่สิ่งกระตุ้นอย่างหนึ่ง ทำให้หลินสวินไม่ถึงขั้นทะนงตัวและเกียจคร้าน!

แน่นอนว่าจากการคาดการณ์ของเขา จากนี้อวี่หลิงคงคงไม่เกิดความคิดมาล้างแค้นตนอีกแล้ว

เพราะอวี่หลิงคงเปลี่ยนไปแล้ว

คนเราล้วนเปลี่ยนกันได้

อย่างเจิ้นอวิ๋นเฟิง

อย่างอวี่หลิงคง

แค่การเปลี่ยนแปลงของทั้งสองต่างกันก็เท่านั้น

ความจริงเมื่อถามตัวเองแล้ว หลายปีนี้เขาหลินสวินมีหรือจะไม่เปลี่ยนไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์