จากคำอธิบายของนกทมิฬ ในที่สุดหลินสวินก็เข้าใจแล้วว่าตนในตอนแรกคิดผิดไป
ร่างต้นของกู่ฝอจื่อแม้จะแข็งแกร่งกว่าร่างแยก แต่ก็แข็งแกร่งกว่าไม่เท่าไหร่!
“ข้าตัดสินใจจะไปแดนธรรมสถูปสักรอบ”
สายตาของหลินสวินมองไปทางนกทมิฬ “เจ้าจะไปด้วยกันหรือไม่”
“ไป!”
นกทมิฬพูดอย่างไม่ลังเล
หลินสวินพูดอย่างไม่เข้าใจ “กู่ฝอจื่อนั่นเรียกเจ้าว่าอาจารย์อาเล็ก เจ้ายังจะช่วยข้าเล่นงานเขาหรือ”
นกทมิฬเงียบไป ครู่ใหญ่ถึงพูดว่า “เพียงแค่นับตามอาวุโสเท่านั้น หากเป็นไปได้ ข้าอยากให้เจ้าถอนรากถอนโคนทั้งอารามกษิติครรภ์!”
พูดถึงตอนท้ายในน้ำเสียงเจือแววชิงชัง
หลินสวินไม่พูดมากความอีก
เขาเคยรู้จากปากนกทมิฬว่าที่ตนถูกกู่ฝอจื่อมองว่าเป็นพวกนอกรีต ก็เพราะเขาได้รับคัมภีร์มหาครรภ์จุติกับไม้โพธิ์ที่อริยสงฆ์ตู้จี้และนางพญาหงส์ทมิฬทิ้งไว้
ส่วนนกทมิฬ เห็นได้ชัดว่าอยู่ข้างอริยสงฆ์ตู้จี้!
จู่ๆ หลินสวินก็นึกบางอย่างขึ้นได้ “จริงสิ ตอนนั้นเจ้าชิงกาหลอมจิตของบุตรนรกไป เหตุใดจึงถูกเขาชิงกลับไปอีก”
นกทมิฬถอนหายใจคราหนึ่ง “ข้าเองก็ไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น เพียงแต่ในกาหลอมจิตนั่นประทับผนึกต้องห้ามที่น่ากลัวยิ่ง ไม่สามารถถูกข้าสลายได้ น่าเสียดายจริงๆ”
“แต่แม้ไม่ได้เก็บกาหลอมจิตเอาไว้ แต่สมบัติต่างๆ ที่ปิดผนึกอยู่ในกาหลอมจิตถูกข้าปล้นมาแล้ว”
พูดถึงตรงนี้เขาพลันหัวเราะฮี่ๆ ขึ้นมา พอกระพือปีกขวดหยกมันแพะใบหนึ่งก็ปรากฏขึ้น ร่วงลงตรงหน้าหลินสวิน
“นี่คือ ‘โอสถแกนมังกรคืนยอด’ ขวดหนึ่ง อย่ามองว่ามีเพียงแค่สามเม็ด จริงๆ แล้วกลับเป็นโอสถวิเศษชั้นหนึ่งแห่งฟ้าดิน กลืนลงไปเพียงเม็ดเดียว ไม่ว่าจะบาดเจ็บสาหัสเพียงใดก็สามารถหายเป็นปกติในชั่วพริบตา”
“แน่นอนว่าสิ่งที่น่าอัศจรรย์ที่สุดคือ โอสถนี้มีประโยชน์อย่างมากในการข้ามด่านเคราะห์! เจ้าคิดว่าเหตุใดบุตรนรกจึงสามารถบรรลุอมตะเคราะห์ด่านสี่ได้อย่างง่ายดาย ก็ไม่พ้นความดีความชอบของโอสถนี้!”
หลินสวินหวั่นไหวทันที
หยิบขวดหยกขึ้นมาใช้จิตรับรู้สัมผัสเข้าไปทันที พลันได้ยินเสียงมังกรครวญดังขึ้นเป็นระลอก ยังมีละอองแสงหลากสีและกลิ่นหอมอบอวล
มองอย่างละเอียด ในขวดหยกนั่นราวกับมีมังกรตัวน้อยๆ สามตัวล่องทะยานอยู่ มีชีวิตชีวา ลึกลับอย่างหาที่สุดไม่ได้
แต่ความจริงแล้วนั่นเป็นโอสถสามเม็ด!
“นอกจากโอสถนี้เจ้ายังได้ของดีอะไรอีก” หลินสวินถาม
นกทมิฬระแวงขึ้นมาทันที พลันร้องว่า “เจ้าหนูนี่คิดไม่ซื่อให้น้อยๆ หน่อย ของเล่นอื่นๆ แม้ให้เจ้าไปก็ไม่มีผลมากนัก”
เห็นได้ชัดว่าผลประโยชน์ที่นกหัวขโมยนี่ได้มาจากกาหลอมจิตของบุตรนรกใบนั้น ไม่น้อยแน่!
หลินสวินคร้านจะถือสามัน จดจ่อกับการทำสมาธิ
……
สามวันหลังจากนั้น
อาการบาดเจ็บของหลินสวินฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์แล้ว
อีกอย่างหลังจากผ่านการต่อสู้นองเลือด ทำให้พลังปราณของเขาพัฒนาขึ้นไปอีก ได้บรรลุระดับอมตะเคราะห์ด่านสามขั้นสมบูรณ์แล้ว
บนเขาจำศีลหัวโล้นถูกหลินสวินวางกระบวนผนึกไว้นานแล้ว อีกทั้งเคยแสดงแสนยานุภาพกำราบสรรพสิ่งในการต่อสู้เมื่อสามวันที่แล้ว
ก่อนไปหลินสวินมอบธงเล็กสีเหลืองส้มที่ควบคุมกระบวนผนึกนี้ให้กับจี้ซิงเหยา
เช่นนี้ แม้ไม่มีเขาคอยดูแล เรือนกระบี่เร้นปุจฉาก็ไม่ต้องกลัวถูกขุมอำนาจใหญ่อื่นๆ มาโจมตีถึงถิ่น
ส่วนจี้ซิงเหยาเป็นตัวแทนของเรือนกระบี่เร้นปุจฉา มอบโอสถเทพสามต้นให้แก่หลินสวินเป็นการแสดงคำขอบคุณ
หลินสวินไม่ได้ปฏิเสธ
ในสี่ปีที่ถูกกักตัวอยู่ใต้แม่น้ำนรก โอสถราชันบนตัวเขาถูกใช้ไปจนหมด แม้แต่โอสถเทพก็เหลือเพียงไม่กี่ต้น
โอสถเทพที่จี้ซิงเหยาให้ ก็ถือว่าแก้ไขปัญหาเร่งด่วนของหลินสวินได้บ้าง
“ทุกท่าน รักษาตัวด้วย!”
กลางอากาศ หลินสวินประสานหมัด
“รักษาตัวด้วย!”
ผู้สืบทอดเรือนกระบี่เร้นปุจฉาอย่างพวกจี้ซิงเหยา โม่เทียนเหอต่างมาส่ง สีหน้าจริงจัง
วันนี้หลินสวินจากไป และจะข้ามจากแดนอัคคีทักษิณไปยังแดนคีรีอีสานพร้อมกับนกทมิฬ
……
ระหว่างทางหลินสวินนั่งยานสำเภา ความเร็วไม่ถือว่าไวมาก แต่ก็ไม่ช้า
‘ก็ไม่รู้ว่าเหตุใดเจ้าคางคกกับอาหลู่จึงไม่เคยปรากฏตัว…’
ในใจหลินสวินเป็นห่วงเล็กน้อย
การต่อสู้เมื่อไม่กี่วันก่อนแพร่สะพัดไปทั่วทั้งแดนเก้าบนตั้งนานแล้ว ขอเพียงแค่ติดตามข่าวสารสักหน่อย ก็รู้ได้ไม่ยากว่าเขาหลินสวินอยู่บนเขาจำศีลหัวโล้น
แต่จนกระทั่งตอนนี้เจ้าคางคกกับอาหลู่ยังไม่เคยปรากฏตัว นี่ทำให้หลินสวินตระหนักได้ว่าสถานการณ์ของทั้งสองอาจจะผิดปกติไปบ้าง
“สมบัติชั้นดี!”
สองปีกของนกทมิฬไพล่หลัง ก้าวเดินอย่างเชื่องช้า ตอนที่เห็นกระบี่เทพสีเลือดในมือหลินสวิน ดวงตาพลันทอประกายขึ้นมา
กระบี่นี้สีแดงสดราวกับเลือด ตัวกระบี่ใสแวววาว
สามารถมองเห็นอย่างชัดเจนว่าในตัวกระบี่มีแม่น้ำนรกสีโลหิตสายหนึ่งไหลอยู่ ในแม่น้ำซากศพเทพมารผุดขึ้นผุดลง เต็มไปด้วยกระดูกขาว ปรากฏสภาพประหลาดน่าตกใจอย่างที่สุด
นี่คือกระบี่ยอดสังหารที่มีสีสันในตำนาน!
ในการต่อสู้กับบุตรนรก กระบี่นี้ถูกหลินสวินเก็บมา กลายเป็นทรัพย์หลังศึกแล้ว
“กระบี่นี้เป็นถึงอาวุธอริยะฟ้าประทานที่แท้จริง ถือกำเนิดในแม่น้ำนรก ชื่อเสียงความดุดันเลื่องลือมาตั้งแต่สมัยบรรพกาล ตัดหัวอริยะมาไม่รู้เท่าไหร่แล้ว!”
สายตาของนกทมิฬคลั่งไคล้ เข้าใกล้อย่างลับๆ ล่อๆ น้ำลายเกือบจะไหลออกมาแล้ว “ที่มหัศจรรย์ที่สุดคือ กระบี่นี้สังหารอริยะโดยไม่แปดเปื้อนกฎกรรม!”
“ให้ข้าลูบหน่อยได้หรือไม่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์