สวบ!
กลิ่นอายของราชันผีเสวียนคงเคลื่อนออกจากร่างหลินสวิน
หลินสวินที่เดิมทีเกร็งเครียด ร่างกายแข็งทื่อพลันมีความรู้สึกเหมือนพ้นเคราะห์เกิดใหม่ แต่ละฉากก่อนหน้านี้ราวกับฝันร้าย
“หลินสวิน! เจ้าหนูยังไม่ตายใช่ไหม”
เสียงขานเรียกร้อนรนอย่างที่สุดของนกทมิฬดังขึ้น หลินสวินหันหน้าไปก็เห็นนกทมิฬกำลังจ้องตนอย่างตื่นตระหนก
“ยัง”
หลินสวินส่ายหน้า สีหน้าแข็งทื่ออยู่บ้าง
“สหายยุทธ์ท่านนี้ โปรดหลีกทางหน่อย”
จู่ๆ เงาร่างของราชันผีเสวียนคงก็ปรากฏขึ้น สายตามองไปทางนกทมิฬ
หลีกทางหรือ
นกทมิฬอึ้ง จากนั้นพลันก่นด่าอย่างเดือดดาล “นายท่านนกอย่างข้าถูกเจ้ากักตัวไว้ในนี้ จะหลีกทางได้อย่างไร”
มันปล่อยโถแตกร่วงตกแตกแล้ว[1]
“เชิญ!”
ราชันผีเสวียนคงไม่ได้ถือสานกทมิฬ สะบัดแขนเสื้อ ทันใดนั้นนกทมิฬก็ถูกพายุสีดำม้วนเข้าไป หายไปจากที่เดิม
หลินสวินนัยน์ตาหดรัดทันที
“ศิษย์น้องไม่ต้องเป็นห่วง มันไม่เป็นอะไรหรอก”
ราชันผีเสวียนคงมองหลินสวิน ใบหน้ายังคงหนักแน่นเย็นชา แต่หลินสวินสังเกตเห็นได้อย่างฉับไวว่าท่าทีที่เขามีต่อตนอ่อนโยนลงมาก
หน้าแท่นบูชาที่สูงพันฉื่อ ราชันผีเสวียนคงเชิญหลินสวินนั่งลงกับพื้น ราชันผีเสวียนคงในตอนนี้ไม่มีไอความดุดันแล้ว
แผ่นหลังของเขายืดตรงราวกับทวน แม้จะนั่งอยู่ก็ยังคงให้ความรู้สึกไม่อาจสั่นสะเทือนราวกับภูเขาที่สูงตระหง่าน
“ศิษย์น้อง ครั้งนี้หากเจ้าไม่มา เกรงว่าข้าคงจะเดินบนเส้นทางที่ไม่อาจหวนคืน กลายเป็นมารที่สังหารจนบ้าคลั่ง”
“โชคดีที่โชคชะตานำพาให้เจ้ากับข้าได้เจอกันที่นี่ ทำให้ข้าได้สติจากการกักขังอันไร้สิ้นสุดของความชิงชัง”
สายตาของราชันผีเสวียนคงอ่อนโยน แฝงความเบิกบานและนิ่งสงบ
และตอนนี้ในที่สุดหลินสวินจึงกล้าเชื่อว่า เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ชายร่างสูงใหญ่กำยำที่อยู่ตรงหน้าเคยเป็นมหาอริยะที่ชื่อเสียงเลื่องลือ!
“ผู้อาวุโส ท่าน… จำคนผิดหรือเปล่า”
หลินสวินเงียบไปครู่หนึ่ง ในที่สุดก็ยอดพูดความจริง เขารู้ว่าการเสแสร้งไม่สามารถหลอกผู้แข็งแกร่งที่ผ่านการเคี่ยวกรำมายาวนานเช่นอีกฝ่ายได้ หากถูกเปิดโปง ผลลัพธ์จะยิ่งรุนแรง สู้พูดความจริงไปดีกว่า
“จำไม่ผิดแน่”
ราชันผีเสวียนคงท่าทางนิ่งสงบ “เจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุดเป็นอาวุธสำคัญของสำนัก ในเมื่อเจ้าได้มา ก็เท่ากับได้รับการยอมรับจากอาจารย์”
เจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุด!
ในใจหลินสวินสะเทือนอย่างรุนแรง ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยรู้ที่มาของเจดีย์สมบัติไร้อักษร เพราะบนเจดีย์นี้ประทับคำว่า ‘ไร้’ อันลึกลับ เขาจึงเรียกว่า ‘เจดีย์สมบัติไร้อักษร’
และตอนนี้เขาเพิ่งจะรู้ชื่อจริงๆ ของเจดีย์นี้…
ไร้สิ้นสุด!
“เพียงแต่…”
หลินสวินลังเลเล็กน้อย “เจดีย์นี้ข้าได้มาโดยบังเอิญ แต่ไม่เคยรู้ที่มาของมัน”
ราชันผีเสวียนคงอึ้ง เอ่ยว่า “ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยค้นพบนัยเร้นลับที่ซ่อนอยู่ในเจดีย์นี้หรือ”
หลินสวินส่ายหน้า
จนกระทั่งตอนนี้เขาเพิ่งจะสามารถใช้พลังชั้นแรกของเจดีย์สมบัติไร้อักษรได้เท่านั้น สำหรับชั้นที่สูงกว่า ถูกพลังต้องห้ามปิดผนึกมาโดยตลอด ไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถแตะต้องได้
“แล้วเมื่อก่อนเจ้าเห็นเจดีย์นี่เป็นอะไร”
ราชันผีเสวียนคงถามอย่างแปลกใจ
“เอ่อ แค่ที่เก็บสมบัติส่วนหนึ่ง” หลินสวินตอบตามความจริง
ราชันผีเสวียนคง “…”
เจ้าเด็กนี่ดันใช้เจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุดเป็นที่เก็บสมบัติ! หากศิษย์พี่ศิษย์น้องในสำนักรู้เข้า แต่ละคนจะต้องโกรธจนคลั่งแน่
นี่มันทำเสียของชัดๆ!
หากอาจารย์รู้เข้า จะเสียใจภายหลังหรือไม่ที่เลือกคนผู้นี้เป็นผู้มีวาสนา
พอนึกถึงอาจารย์ ในใจราชันผีเสวียนคงพลันถอนหายใจอีกครั้ง อารมณ์พลุ่งพล่าน ความคิดหลุดลอย
เขาพึมพำ “ยาตรานภสินธุ์ ย่ำแดนดินคุนหลุนผา เกี่ยวตะวันแลจันทรา กอบกุมไว้ทั่วอัมพร ข้าจากมรรตยะ เคาะประตูสู่อมร ทางเร้นเห็นสันดร มรรคประทานผู้มีบุญ…”
ทันใดนั้นสีหน้าของหลินสวินเปลี่ยนเป็นแปลกประหลาดขึ้นมา มรรคคาถาบทนี้เขาคุ้นเคยจนไม่รู้จะคุ้นอย่างไรแล้ว!
ตอนนั้นเขากับเจ้าคางคกและจ้าวจิ่งเซวียนเข้าไปในแดนลับอสูรมารอริยะในแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ เพื่อมุ่งหน้าไปโบราณสถานดวงกมลด้วยกัน เคยเข้าไปในทางระเบียงศพอริยะเส้นหนึ่งและไปถึงแดนลึกลับแห่งหนึ่งโดยบังเอิญ
และในแดนลึกลับนั่น เพราะเจดีย์สมบัติไร้อักษรทำให้มรรคคาถาบทนี้ปรากฏขึ้น ถูกเก็บเข้าไปในเจดีย์!
ตอนนั้นเจ้าคางคกยังเคยวิเคราะห์ว่ามรรคคาถาบทนี้มีความมหัศจรรย์น่าทึ่ง เป็นไปได้สูงมากที่จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับปริศนาของทางเชื่อมสู่แหล่งสถานคุนหลุน
“เจ้าเคยได้ยินหรือ” ราชันผีเสวียนคงพูด
หลินสวินพยักหน้า
ราชันผีเสวียนคงพูดอย่างยินดี “เช่นนั้นก็ถูกแล้ว ขอเพียงอาจารย์รับศิษย์ล้วนมอบมรรคคาถาบทนี้ให้ ศิษย์น้อง เจ้าเกิดในยุคนี้ คงยังไม่เคยรู้จักสำนักที่พวกเราอยู่ แต่ไม่เป็นไร ข้าสามารถบอกเจ้าอย่างละเอียดได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์