Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1287

บนผนัง ลายมรรคหินสลักสิบแปดแผ่นแตกต่างกันออกไป บ้างก็สลักภาพสรรพสิ่งปุถุชน บ้างก็เป็นภาพกำจัดมารปีศาจ บ้างก็เป็นธารดาราพลิกม้วน ลักษณ์แห่งภูผาธาราดับสูญ บ้างก็เป็น…

แผนภาพแต่ละแผ่นล้วนอัศจรรย์สุดหยั่ง

หลินสวินก็เคยศึกษามาก่อน แต่ไม่สามารถมองนัยเร้นลับที่ซุกซ่อนอยู่ภายในนั้นได้

“หลินสวิน เจ้ามาพอดีเลย ตอนนี้ข้าสามารถบอกเจ้าอย่างแน่ชัดไร้ข้อผิดพลาด ว่าสิ่งที่ซุกซ่อนภายในลายมรรคหินสลักเหล่านี้คือมรดกวิชาลับ!”

นัยน์ตาสีทองของเจ้าคางคกทอประกาย วางมาดทระนง กล่าวอย่างฮึกเหิม

เขากล่าวพลางชี้ไปที่แผนภาพหนึ่งที่อยู่บนผนัง พูดว่า “เจ้าดูภาพนี้ ภูผาธาราดับสูญ ธารดาราพลิกม้วน เผยให้เห็นฉากภาพแห่งการเสื่อมสลาย ทำลายโลก แต่นัยเร้นลับที่แท้จริงของมัน ความจริงแล้วไม่ได้อยู่ภายในปรากฏการณ์ที่ภาพนี้สื่อออกมาเลย หากแต่อยู่ในลายลวดลายหินสลักเหล่านี้!”

เขาชี้นิ้วออกไป ลากเค้าโครงตามร่องรอยแผนภาพสลักมรรค

ไม่ทันไรหลินสวินก็สั่นสะเทือน เพราะร่องรอยที่นิ้วของเจ้าคางคกลากเส้นทั้งหมด หากนำมารวมกันก็จะเป็นลายอักษรโบราณแถวหนึ่ง…

“คร่าชีวิตอุทิศให้จิตสถูป ไยต้องเสียดายที่หวนสู่ธุลีนิรันดร์!”

ราวกับธรรมคาถาบทหนึ่ง มีจิตวิญญาณยิ่งใหญ่ซุกซ่อนอยู่ในนั้น

“เจ้าก็มองออกแล้วใช่หรือไม่ แต่ถ้าง่ายดายขนาดนี้ มีหรือจะต้องให้ข้ากับเจ้าเฒ่าดำทุ่มแรงกายแรงใจศึกษาเป็นเวลาปีกว่าด้วยเล่า”

เห็นได้ชัดว่าเจ้าคางคกลำพองยิ่ง พ่นน้ำลายแตกฟอง “อักษรแถวนี้เป็นภาษาสันสกฤตมหายานบรรพกาล หากคลี่คลายรอยประทับของมันออกทีละตัว ก็จะเป็นร่องรอยลายมรรคตามธรรมชาติอย่างหนึ่ง”

“ลายมรรค ลักษณะแห่งมหามรรค ประทับกลิ่นอายมหามรรค!”

กล่าวพลางปลายนิ้วเจ้าคางคกเริ่มวาดเส้นบนห้วงอากาศทีละเส้น “กำจัดลายมรรคเหล่านี้ออกไป เจ้าลองหยั่งรู้ดูอีกครั้ง”

จิตรับรู้หลินสวินโฉบออกไป เปรียบเทียบลายมรรคหินสลักนั่นกับร่องรอยที่ปลายนิ้วเจ้าคางคกลากไล้ ฉับพลันปรากฏการณ์สุดอัศจรรย์ภาพหนึ่งก็บังเกิดขึ้น

ในลายมรรคหินสลักนั่น ประหนึ่งมีแสงธรรมอริยเทพสายหนึ่งปรากฏอยู่ กลายเป็นเงาร่างสายหนึ่งสัญจรกลางฟ้าดิน ทุกที่ที่ย่างกรายภูผาธาราพังครืนดับสูญ ธารดาราพลิกม้วน หมื่นชีวิคมอดดับ

และพร้อมกันนั้นเสียงภาษาสันสกฤตที่เคร่งครัดไพศาลสายหนึ่งพลันดังก้อง คร่าชีวิตอุทิศให้จิตสถูป ไยต้องเสียดายที่หวนสู่ธุลีนิรันดร์!

เสียงหยุดลง ภายในแผนภาพมรรคร่องรอยหินสลักสายแล้วสายเล่ารวมตัวกัน กลายเป็นสัญลักษณ์อักษรธรรมสีทองอร่าม ไหลเวียนด้วยประกายศักดิ์สิทธิ์

ภายในใจหลินสวินสั่นสะท้านอย่างแรง สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายมรดกที่อัศจรรย์อย่างยิ่งแบบหนึ่งจากสัญลักษณ์อักษรธรรมนั่น

“นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของมรดกเท่านั้น”

เจ้าคางคกเอ่ยปาก ยามที่เก็บปลายนิ้ว ลายมรรคหินสลักแผ่นนั้นพลันกลับคืนสภาพก่อนหน้านี้ในทันที

“เจ้าดูลายมรรคหินสลักแผ่นนี้อีกหน นัยเร้นลับภายในนั้นก็ไม่เหมือนกัน จำเป็นต้องใช้จิตพินิจเพื่อสะท้อนแผนภาพภายในนั้น ใช้จิตวิญญาณอนุมานจำนวนแห่งจักรวาลที่อธิบายอยู่ในนั้น…”

“ยังมีลายมรรคหินสลักแผ่นนี้อีก ก็แตกต่างกันออกไป นัยเร้นลับของมันจำเป็นต้องใช้พลังมหามรรคแห่งตนไปแก้…”

เจ้าคางคกพูดรัวๆ ไม่สิ้น อธิบายให้หลินสวินฟังทีละอย่าง

โดยสรุป นัยเร้นลับที่ซุกซ่อนอยู่ภายในลายมรรคหินสลักสิบแปดแผ่นนี้ล้วนแตกต่างกันออกไป จำเป็นต้องใช้วิธีการที่ต่างกันมาแก้

หลินสวินฟังจนหัวหมุน ลอบจุ๊ปาก

ซับซ้อนและคลุมเครือเกินไปแล้ว!

ถ้าเปลี่ยนเขาไปแทนที่เจ้าคางคกกับนกทมิฬ คงไม่สามารถทนอยู่ถึงหนึ่งปีกว่า เพื่อไขคำตอบทีละอย่างของนัยเร้นลับภายในลายมรรคหินสลักสิบแปดแผ่นนี้ได้แน่

“ยามนี้นกทมิฬกำลังไขคำตอบของลายมรรคหินสลักแผ่นที่เหลืออยู่ หากไม่เหนือคาด ภายในสามเดือนต้องสามารถถแก้ปริศนาศุภโชคพลิกฟ้านี่ได้อย่างแน่นอน!”

เจ้าคางคกตื่นเต้นมีชีวิตชีวา ราวกับฉีดเลือดไก่อย่างไรอย่างนั้น เปี่ยมด้วยความวาดหวัง

หลินสวินเหลือบตามองเข้าไปก็เห็นนกทมิฬยืนอยู่หน้าภาพหินสลักแผ่นหนึ่ง ราวกับมารสิงร่าง ใจจดจ่อไม่วอกแวกสักเสี้ยว ท่าทางเหมือนลืมเลือนตัวตนไปสิ้นเชิง

ตั้งแต่ต้นจนจบไม่เคยสังเกตเห็นการสนทนาของเขากับจ้าคางคกสักนิด

“จริงสิ ไอพิสุทธิ์ฟ้าประทานใช้หมดแล้ว เจ้าต้องรวมรวบให้มากกว่านี้หน่อย”

เจ้าคางคกกล่าว

หลินสวินโยนขวดหยกที่ปิดผนึกขวดหนึ่งให้เจ้าคางคกลวกๆ “คิดไว้แต่แรกแล้วว่าต้องเป็นเช่นนี้ รับไปสิ”

เจ้าคางคกยิ้มแฉ่ง ไม่เกรงใจเช่นกัน

หนึ่งปีมานี้พวกเขาเอาแต่หมกตัวอยู่ในสถูปเจดีย์ โอสถราชันและโอสถเทพบนตัวถูกผลาญเกลี้ยงตั้งนานแล้ว ล้วนแต่พึ่งพาไอพิสุทธิ์ฟ้าประทานที่หลินสวินรวบรวมมาทั้งสิ้น

นี่ก็คือความยากเข็ญของผู้แข็งแกร่งระดับอมตะเคราะห์ ระดับยิ่งสูง พลังที่จำเป็นสำหรับการฝึกปราณก็ยิ่งมหาศาล หากปราศจากทรัพยากรที่เพียงพอมาเกื้อหนุน ก็จะทำให้มรรควิถีหยุดนิ่งไม่รุดหน้า

แต่ว่าตอนนี้หลินสวินไม่กังวลจุดนี้สักนิด

อย่างน้อยในแดนธรรมสถูป หากเขาเต็มใจ ก็สามารถเก็บไอพิสุทธิ์ฟ้าประทานได้อย่างล้นเหลือไม่ขาดสาย!

ภายในแดนธรรมสถูปมีพื้นที่อันตรายน่าสะพรึงมากมาย อย่างเช่น ‘สถานที่แห่งความตาย’ ที่เคยปรากฏในคราแรกสุด หรืออย่าง ‘พื้นที่สถูป’

นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ที่เรียกได้ว่าแปลกพิสดารและอัปมงคลพอๆ กันอีกส่วนหนึ่ง

หนึ่งปีมานี้รอยเท้าของหลินสวินล้วนเหยียบย่างภายในนั้น ประการแรกเพื่อรวบรวมทรัพยากรฝึกปราณบางส่วน ประการที่สอง ก็เพื่อรวบรวมไอพิสุทธิ์ฟ้าประทาน

อุโมงค์เสี้ยวมาร

ตั้งอยู่ใต้ธารยาวกระดูกขาวที่ขุ่นมัวแห่งหนึ่งในแดนธรรมสถูป

ภายในอุโมงค์นั้นเต็มไปด้วยไอชั่วร้ายมืดทะมึนที่น่ากลัวสุดขีด ทุกๆ คืนจะมีเสียงคร่ำครวญโหยหวนของมารปีศาจที่วังเวงไร้ทัดเทียมดังก้องขึ้น พาให้ผู้คนสั่นเทิ้มทั้งที่ไม่หนาว

สำหรับผู้ฝึกปราณคนอื่น ที่นี่ย่อมเป็นสถานที่สุดอันตรายประหนึ่งแดนต้องห้ามอย่างแน่นอน ไม่กล้าย่างกรายเข้ามาง่ายๆ

แต่สำหรับหลินสวิน ที่แห่งนี้กลับเป็นสถานที่สุดวิเศษในการรวบรวมไอพิสุทธิ์ฟ้าประทานแห่งหนึ่ง

สวบ!

ในวันนี้หลินสวินมาเยือนอย่างผ่าเผย ดาบหักโฉบพุ่ง ท่ามกลางเสียงก้องกระหึ่ม ธารยาวที่ขุ่นมัวและมีกระดูกขาวลอยเกลื่อนนั่นพลันถูกแยกออกทันที เผยให้เห็นโพรงขนาดใหญ่ดุจร่องลำธาร

ภายในโพรงไอชั่วร้ายยอดหยินพลังแม่เหล็กสีดำทะมึนพวยพุ่ง แผ่กลิ่นอายที่น่าสะพรึงออกมา เห็นได้ชัดเจนว่าเสี้ยววิญญาณ เจตอาฆาต จิตทะมึนสายแล้วสายเล่ากำลังแผลงฤทธิ์ กรีดร้องโหยหวนอยู่ภายในนั้น แผ่กลิ่นอายอำมหิตระฟ้าออกมา

แต่เมื่อหลินสวินโคจรคัมภีร์มหาครรภ์จุติ รอบกายแผ่แสงธรรมที่เคร่งครัดและพิสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ออกมา สิ่งชั่วร้ายเหล่านั้นก็ราวกับถูกทำให้ตกใจ หนีตายอุดลุต

หลินสวินสำแดงวิชาข้ามเคราะห์ มือใหญ่คว้าหมับ บาตรสีดำสนิทใบหนึ่งแหวกอากาศ หมุนวนโคจร ก็เห็นวิญญาณมืดสายแล้วสายเล่าราวกับเสียการควบคุม พากันถูกเก็บเข้าไปในบาตร
..ไอรีนโนเวล
ดุจดั่งวาฬตัวยาวกลืนน้ำ!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์