Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1340

ทั้งในและนอกเมืองเผาเซียน ผู้ฝึกปราณทั้งหมดล้วนตระหนักได้ว่าสถานการณ์ผิดปกติ

บุคคลระดับมกุฎราชันเหล่านั้นสะดุดตาและโดดเด่นปานใด แต่ตอนนี้กลับเฝ้ารออยู่ด้านข้างอุโมงค์อากาศ ไม่มีใครจากไปไหนราวกับนัดแนะกันไว้

พวกเขา… กำลังรอใครกันแน่

“ถอดใจเถอะ หลินสวินนั่นศัตรูคู่แค้นมากมาย ต้องตายไปตั้งนานแล้วแน่ๆ”

ชายหนุ่มชุดดำสังเกตเห็นว่าไฉไฉ่ยังคงจับต้องอุโมงค์อากาศไม่วางตา คล้ายกลับไม่ละทิ้งความหวังภายในใจ

สิ่งนี้ทำให้ในใจเขาไม่สบอารมณ์อยู่บ้าง

หรือเด็กสาวคนนี้คิดว่าคนตายคนหนึ่งจะสามารถข่มขู่ตนได้อย่างนั้นหรือ

“แม่นาง คุณชายของข้าพูดถูก โชคชะตาของหลินสวินนั่นย่ำแย่ยิ่ง เขาสร้างศัตรูมากมาย ไหนเลยจะมีคุณสมบัติให้มกุฎราชันร่วมใจกันเฝ้ารอตั้งมากมายขนาดนี้”

ข้ารับใช้ร่างกำยำแค่นหัวเราะ

ดวงหน้าน้อยๆ ของไฉไฉ่ยิ่งซีดเผือดลงเรื่อยๆ กล่าวอย่างจริงจังว่า “คนดีย่อมได้รับผลดี คุณชายหลินต้องไม่เป็นอะไรแน่”

‘คนดี’ อีกแล้ว!

ชายหนุ่มชุดดำแค่นเสียงเย็นชา กล่าวว่า “ข้าดูแล้ว เจ้ากับหลินสวินเกรงว่าคงเรียกไม่ได้ว่าเป็นสหายกันด้วยซ้ำกระมัง”

ไฉไฉ่อึ้งงัน นิ่งเงียบครู่หนึ่งกว่าจะเอ่ยขึ้นว่า “บางทีคุณชายหลินอาจไม่ได้คิดเช่นนี้ แต่ขอแค่ข้าเห็นเขาเป็นสหายก็พอแล้ว”

พวกชายหนุ่มชุดดำสองนายบ่าวต่างส่งเสียงหัวเราะเยาะออกมา เด็กสาวคนนี้… ช่างไร้เสียงสาเสียจนพาให้ผู้คนขำขันเสียจริง

ชายหนุ่มชุดดำโบกมือส่งสัญญาณให้ข้ารับใช้ร่างกำยำข้างกายลงมือได้ เขาหมดความอดทนแล้ว คิดจับตัวไฉไฉ่ไว้ก่อนค่อยว่ากันทีหลัง

เด็กสาวที่บริสุทธิ์ผุดผ่องใสซื่อปานนี้ หากเอาไปเป็นสาวใช้คนสนิทข้างกายได้ ค่อยๆ ให้การอบรมทีละน้อย นั่นต้องน่าสนุกมากแน่ๆ

ข้ารับใช้ร่างกำยำเผยรอยยิ้มรู้งานออกมาในทันที เพียงแต่เห็นได้ชัดว่าดุร้ายและโหดเหี้ยมเป็นพิเศษ

ในความคิดเขา คุณชายควรทำเช่นนี้ตั้งแต่แรกแล้ว แค่เด็กสาวระดับกระบวนแปรจุติคนหนึ่งเท่านั้น ไยต้องต่อล้อต่อเถียงกับนางให้มากความด้วย

แต่ขณะที่เขากำลังจะลงมือ ไฉไฉ่พลันโพล่งดีใจออกมาสุดเสียง กล่าวด้วยความตื่นเต้น “คุณชายหลิน คุณชายหลินกลับมาแล้ว!”

ข้ารับใช้ร่างกำยำสีหน้าแข็งทื่อ พร้อมกันนั้นชายหนุ่มชุดดำก็หน้าเปลี่ยนสีน้อยๆ ทอดสายตามองไปพร้อมกัน

ก็เห็นในอุโมงค์อากาศนั่น เงาร่างทยอยเดินออกมาไม่ขาดสาย

และคนที่เดินอยู่ท้ายสุดเป็นหลินสวินนั่นเอง!

เขายังคงเหมือนกับเก้าปีที่แล้ว สวมอาภรณ์สีขาวพระจันทร์ เงาร่างสูงโปร่งผึ่งผาย รอบกายไร้กลิ่นอายดุกร้าวบีบคั้นผู้คนใดๆ ตรงข้ามกลับมีกลิ่นอายแปลกแยกหลุดพ้นอย่างหนึ่ง

ในหมู่มกุฎราชัน กลิ่นอายของเขาถึงขั้นไม่สะดุดตาอย่างเห็นได้ชัด

แต่เมื่อเขาปรากฏตัว เหล่ามกุฎราชันทั้งกลุ่มที่เดิมทีรออยู่แถวอุโมงค์อากาศต่างพากันหยุดการเคลื่อนไหว

จากนั้นก็พากันค้อมกายน้อยๆ ก้มหัวคารวะ

ชั่วขณะนั้นทั้งในและนอกเมืองเผาเซียน ผู้แข็งแกร่งนับไม่ถ้วนที่แต่เดิมชะเง้อคอรอคอยต่างเบิกตากว้าง ท่าทางเหมือนตกใจสุดขีด

บรรยากาศจอแจแต่เดิมก็เงียบกริบอย่างประหลาด ไม่มีแม้แต่เสียงนกกา!

หลินสวิน!

เขาถึงกับยังรอดชีวิต!

นี่เหมือนปาฏิหาริย์อย่างหนึ่งชัดๆ น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว

ในแดนเผาเซียน ใครไม่รู้บ้างว่าเมื่อเก้าปีก่อนหลินสวินเปิดฉากพายุนองเลือดในเมืองเผาเซียนด้วยตัวคนเดียว ฆ่าล้างบางผู้แข็งแกร่งขุมอำนาจใหญ่ไม่รู้ตั้งเท่าไหร่

แต่ก็เพราะเหตุนี้ เขาล่วงเกินคนร้ายกาจไม่รู้ตั้งเท่าไหร่เหมือนกัน!

และเก้าปีมานี้เสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่เกี่ยวกับหลินสวินทั้งหมดก็ขมวดประเด็นไว้ที่คำถามข้อเดียว นั่นก็คือเขาหลินสวิน จะตายด้วยน้ำมือใครกันแน่

ไม่ใช่คำถามที่ว่าหลินสวินจะมีชีวิตรอดหรือไม่!

เพราะในจิตใต้สำนึกทุกคนต่างคิดว่าหลังจากเขาเข้าสู่แดนเก้าบน ย่อมประสบเคราะห์อย่างแน่นอน อย่างไรเสียศัตรูของเขาก็มีมากมายเกินไปจริงๆ

แต่ใครเลยจะคาดคิด ในวันนี้เวลานี้ เขารอดชีวิตกลับมา!

ถ้าบอกว่าเรื่องสะท้านสะเทือนเช่นนี้เพียงพอจะทำให้ใครก็ตามปากอ้าตาค้าง

เช่นนั้นเมื่อเห็นว่าคนที่บุคคลขอบเขตมกุฎทั้งกลุ่มเฝ้ารออยู่ตลอดยังคงเป็นหลินสวิน แรงโจมตีที่ไม่เคยมีมาก่อนเช่นนั้นก็เพียงพอจะทำให้ทุกคนงงเป็นไก่ตาแตก!

ก่อนหน้านี้บุคคลขอบเขตมกุฎเดินออกมาคนแล้วคนเล่าไม่ขาดสาย สั่นสะเทือนแดนเผาเซียน เรียกเสียงฮือฮานับไม่ถ้วน ดึงดูดสายตาผู้คนปานใด

แต่การปรากฏตัวของหลินสวินกลับเหมือนอาทิตย์ดวงใหญ่ บดบังแสงทุกอย่างภายในนั้น!

หมู่ดาวล้อมเดือนก็เป็นเช่นนี้!

พวกชายหนุ่มชุดดำก็พากันอึ้งงันอยู่ตรงนั้น เบิกตากว้างสีหน้าแข็งทื่อ เหมือนเห็นเหตุการณ์เหนือธรรมชาติเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา ทั้งตัวล้วนรู้สึกย่ำแย่

“ข้าบอกแล้ว คุณชายหลินเป็นคนดีปานนั้น มีหรือจะไม่กลับมา”

ยามนี้ไฉไฉ่ตื่นเต้นยิ่ง ความหม่นหมองทั้งหมดบนดวงหน้าเล็กงดงามหายเป็นปลิดทิ้ง นัยน์ตาที่แต่เดิมหม่นแสงก็พลันสว่างพราวราวกับหมู่ดารา เจิดจ้าเป็นประกาย

น้ำเสียงของนางเจือความปลื้มปริ่มยินดีสุดหัวใจ

เพราะปีนั้นหลินสวินเคยหยิบยื่นความช่วยเหลือ และให้การดูแลนางอย่างอบอุ่นที่สุด

ชายหนุ่มชุดดำสีหน้าวูบไหวไม่นิ่ง เนิ่นนานกว่าจะแค่นเสียงหัวเราะและเอ่ยขึ้นมา “น่าเสียดาย เจ้าเห็นเขาเป็นสหาย แต่เขาคงไม่เห็นคนตัวเล็กๆ ระดับกระบวนแปรจุติคนหนึ่งอย่างเจ้าเป็นสหายหรอก”

กล่าวถึงตรงนี้เขาคล้ายจะระบายความโกรธแค้นในใจก็ไม่ปาน พูดลอดไรฟัน “แม่นาง คิดไปเองไม่ดีหรอก!”

“ไม่เห็นเป็นไร แค่รู้ว่าคุณชายหลินกลับมาอย่างปลอดภัยข้าก็สบายใจแล้ว”

ไฉไฉ่ระบายยิ้มทั่วใบหน้า นางอาจจะมีนิสัยใสซื่อมาก แต่ก็แยกแยะได้ชัดเจนว่าใครเป็นคนดีใครเป็นคนไม่ดี

เก้าปีให้หลังยังได้พบหน้าหลินสวินอีกครั้ง ต่อให้ได้แค่มองอยู่ไกลๆ นางก็รู้สึกดีใจ ยินดี และเบิกบานใจมากแล้ว

นี่ก็คือไฉไฉ่

ปราณอาจจะต้อยต่ำ ไม่มีฐานะอะไร แต่นางย่อมมีความเข้าใจและจุดยืนเป็นของตัวเอง!

ชายหนุ่มชุดดำรู้สึกขวางตาอยู่บ้าง รอยยิ้มบนใบหน้าของไฉไฉ่สดใสเกินไป พาให้ภายในใจเขาโกรธเคืองอย่างบอกไม่ถูก

“ยังมัวอึ้งทำอะไรอยู่ ไปจับนางมาให้ข้า!”

เขาตวาดลั่น ออกจะโมโหฉุนเฉียว

ข้ารับใช้ร่างกำยำอึ้งงัน รีบทำตามคำสั่งเป็นพัลวัน สายตาฉายแววเหี้ยมเกรียม เดินไปทางไฉไฉ่

เด็กสาวระดับกระบวนแปรจุติคนหนึ่ง กลับเห็นหลินสวินเป็นสหายด้วยใจบริสุทธิ์และหนักแน่น อีกฝ่ายเกรงว่าคงจำไม่ได้ว่านางเป็นใครตั้งนานแล้ว นี่มันก็น่าขันในตัวมันเองอย่างเห็นได้ชัดแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์