หลินสวิน!
สิบปีก่อน ชื่อนี้เป็นที่ร่ำลือทั่วดินแดนรกร้างโบราณ ถือเป็นพวกโดดเด่นสะดุดตาคนหนึ่งในหมู่คนรุ่นเยาว์
เขาถือกำเนิดในโลกชั้นล่าง ต่อสู้ฟันฝ่าเพียงลำพัง ผงาดขึ้นจากการกวาดล้างสังหาร ถูกคนทั่วหล้าขนานนามให้ว่า ‘เทพมารหลิน’
แม้จะเป็นสัตว์ประหลาดเฒ่าที่ไม่ปรากฏตัวในโลกมานานปีอย่างพวกอูจินหวน ฮวาซิงฉวี่ ก็ยังเคยได้ยินชื่อของคนรุ่นหลังคนนี้ด้วยเช่นกัน
เพียงแต่ในฐานะพวกที่เหยียบย่างระดับอมตะเคราะห์ สิ่งที่พวกเขาสนใจไม่ใช่หลินสวิน แต่เป็นอริยะหญิงลึกลับที่อยู่เบื้องหลังหลินสวินต่างหาก!
สิบปีก่อนเคยมีเรื่องใหญ่สะเทือนใต้หล้าเรื่องหนึ่ง หญิงลึกลับผู้หนึ่งต้อนอริยะเหมือนเดรัจฉาน เหยียบทำลายหกขุมอำนาจใหญ่ที่รวมถึงสำนักกระบี่เทียมฟ้า เผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬ และแดนศักดิ์สิทธิ์แกนสวรรค์
จุดประสงค์ง่ายดายยิ่ง เพื่อออกหน้าแทนหลินสวิน!
และตอนนั้นจากรากฐานของขุมอำนาจใหญ่ทั้งหก กลับได้แต่ก้มหัวอยู่ต่อหน้าหญิงลึกลับคนนั้น ปล่อยให้นางจากไปโดยสวัสดิภาพ
ความครึกโครมของเรื่องนี้สามารถทำให้อริยะคนใดก็ตามในโลกต่างตกตะลึง ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงพวกอูจินหวน
เพียงแต่พวกเขากลับคิดไม่ถึง ว่าคนรุ่นหลังอย่างหลินสวินจะถึงกับฆ่าลูกหลานทั้งกลุ่มในขุมอำนาจของพวกเขาภายในแดนมกุฎ!
“เรื่องเป็นมาอย่างไรกันแน่”
บนใบหน้าผอมแห้งของอูจินหวนเจือกลิ่นอายปะทุดุดัน นางใกล้จะอกแตกอยู่รอมร่อแล้ว
สัตว์ประหลาดเฒ่าอย่างฮวาซิงฉวี่ ทั่วเฉิงจื่อก็เป็นเช่นนี้ด้วย
ไม่นานพวกเขาก็ล่วงรู้ความจริงของเรื่องราว หนำซ้ำความจริงเหล่านี้ก็ปกปิดไม่ได้แม้แต่น้อย
ภายในแดนเผาเซียน ใครบ้างไม่รู้ว่าในปีแรกที่เทพมารหลินเข้าสู่เมืองเผาเซียน ก็กวาดล้างถิ่นที่พำนักของขุมอำนาจใหญ่อย่างเผ่าอีกาทอง เผ่าวิญญาณสมุทร เขาวิญญาณหมื่นอสูรจนเกลี้ยง
ตอนนั้นเลือดอาบย้อมเมืองเผาเซียน กลิ่นคาวเลือดอบอวลไม่สร่างถึงสิบวัน!
“เจ้าเดรัจฉานแซ่หลินนี่สมควรตายหมื่นหน!”
อูจินหวนส่งเสียงกรีดร้องอย่างโกรธแค้นหาใดเปรียบออกมา
“แค้นนี้ไม่อาจปรานีได้แล้ว!”
ฮวาซิงฉวี่หน้าดำคล้ำเขียว จิตใจช้ำชอก
“แล้วตัวเขาล่ะ”
จากนั้นไอสังหารของพวกเขาพวยพุ่ง สายตาจับจ้องไปยังอุโมงค์อากาศ กลิ่นอายทั่วร่างแต่ละคนระเบิดปะทุ เหมือนรอจับคนมาเขมือบ
ในที่นั้นบรรยากาศเงียบกริบ เหล่าผู้กล้าใจสั่นสะท้าน
มีเพียงเสียงลมพัดหวิวๆ บนสนามรบโบราณ ยิ่งเพิ่มบรรยากาศเงียบสงัดให้ดูวังเวงขึ้นมาอีก
‘เจ้าเฒ่าพวกนี้ดูท่ายังไม่รู้สภาพตัวเองแน่ชัด พวกเขายังคิดว่านี่คือเมื่อสิบปีก่อนอยู่จริงๆ หรือ’
ในที่นั้นมีคนแค่นหัวเราะในใจเช่นกัน
นี่เป็นผู้แข็งแกร่งขอบเขตมกุฎระดับราชันกลุ่มหนึ่ง ทันทีที่ปรากฏตัวก็ได้รับการต้อนรับอย่างเอิกเกริกจากผู้อาวุโสในสำนัก
และมีแต่พวกเขาที่รู้ดี ว่าหลินสวินในตอนนี้น่าสะพรึงปานใด
เพียงแต่พวกเขาไม่ได้เอ่ยเตือน ด้วยไม่เกี่ยวข้องกับตนจึงไม่สนใจ และไม่อยากเข้าไปเอี่ยวในการต่อสู้นี้
ถึงอย่างไรโลกภายนอกสุดท้ายก็ต่างจากแดนมกุฎอยู่ดี
เบื้องหลังสัตว์ประหลาดเฒ่าอย่างพวกอูจินหวนล้วนมีขุมอำนาจใหญ่แต่ละแห่งหนุนอยู่ ไม่อาจไม่ทำให้ผู้คนกริ่งเกรง
ขณะเดียวกันมกุฎราชันเหล่านี้ก็มีบางส่วนไม่ได้มองสถานการณ์ของหลินสวินในแง่ดีเท่าไร
หากให้ขุมอำนาจใหญ่เหล่านั้นรู้เรื่องราวที่เขาก่อขึ้นในแดนมกุฎ เกรงว่าคงโกรธจนอริยะออกโรงโจมตีเอง!
หลินสวินอาจจะแข็งแกร่งอย่างที่สุด ถึงขั้นเรียกได้ว่าเป็นที่หนึ่งแห่งแดนมกุฎ แต่ถึงอย่างไรก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของอริยะ
“หลินสวินออกมาแล้ว!” มีคนตะโกนดังลั่น
สวบ!
และพร้อมกันนั้นฟากฟ้าเหนือเมืองนำทางนั่น เงาร่างสูงโปร่งสายหนึ่งเดินออกมาจากอุโมงค์อากาศ อาภรณ์โบกพลิ้ว บุคลิกปราศจากมลทิน เป็นหลินสวินนั่นเอง
ชั่วขณะเดียวสายตาทั่วลานต่างมองไป บรรยากาศก็ยิ่งเงียบกริบและกดดันมากขึ้น
อากาศดุจดั่งจะควบแข็ง
“เจ้าก็คือเด็กเหลือขอแซ่หลิน?”
ยามนี้อูจินหวนทนไม่ไหวเป็นคนแรก ส่งเสียงเย็นเยียบออกไป ไอสังหารน่าสะพรึงก็แผ่ออกจากร่างของนางประหนึ่งครอบคลุมฟ้าดินก็ไม่ปาน
สีหน้าหลินสวินราบเรียบ กวาดสายตามองทั่วลาน สุดท้ายก็มองไปที่ร่างสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับราชันอย่างพวกอูจินหวน ฮวาซิงฉวี่ทั้งกลุ่ม
“แค่พวกเจ้าเหล่านี้เองหรือ” เขาขมวดคิ้ว คล้ายแปลกใจอยู่บ้าง
สิ่งนี้พาให้ทั่วลานตะลึงอึ้งค้าง สมกับเป็นเทพมารหลิน ตกอยู่ในสถานการณ์สุ่มเสี่ยงระดับนี้ยังหน้าไม่เปลี่ยนสี อาจหาญเปี่ยมล้น
“เจ้าเดรัจฉานนี่ ยังกล้าปากดีอีก!”
พวกฮวาซิงฉวี่ ทั่วเฉิงจื่อ ซางฮูหยินต่างยบันดาลโทสะแล้ว “คิดจริงๆ หรือว่ามีอริยะหญิงลึกลับคนนั้นคอยหนุนหลังเจ้า แล้วพวกข้าจะไม่กล้าฆ่าเจ้า”
หลินสวินกล่าวเรียบเฉย “พวกเจ้าพูดผิดแล้ว ตอนนี้ข้าเองก็เป็นผู้แข็งแกร่งระดับราชันคนหนึ่ง ต่อกรกับพวกเจ้า… ข้าคนเดียวก็พอแล้ว”
ประโยคเดียวเผยท่าทางเหยียดหยันเต็มเปี่ยม
บุคคลขอบเขตมกุฎส่วนหนึ่งต่างลอบทอดถอนใจในใจ นี่ก็คือหลินสวิน ต่อให้ตกอยู่ในสถานการณ์แบบใดล้วนอาจหาญเต็มเปี่ยม
แต่สำหรับพวกอูจินหวนแล้ว นี่ก็คือการท้าทายความน่ายำเกรงของพวกเขาอย่างใหญ่หลวง!
คนรุ่นหลังคนหนึ่ง เคี่ยวกรำในแดนมกุฎสิบปีก็กล้ามองข้ามหัวพวกเขาเหล่านี้เสียแล้ว?
และการกระทำในเวลานี้ของหลินสวิน ก็เป็นการมองข้ามพวกเขาจริงๆ!
เขาเพียงทอดสายตามองฟ้าดินทั่วสี่ทิศครู่หนึ่ง จากนั้นก็เหยียบย่างบนห้วงอากาศ เดินมุ่งหน้าไกลออกไป
ตั้งแต่ต้นจนจบไม่สนใจเสียงร้องโหวกเหวกของพวกอูจินหวนอีกเลย
ท่าทางเพิกเฉยมองข้ามเช่นนี้ของเขา พริบตาเดียวก็จุดชนวนไอสังหารที่ระงับไม่อยู่ตั้งแต่ต้นของพวกอูจินหวนทันที
“เจ้าเดรัจฉาน! ไปตายซะ!”
อูจินหวนกรีดร้อง ทั่วร่างเปล่งแสงพลางพุ่งกระโจนออกไป ฝ่ามือหนึ่งยื่นคว้ารุนแรง กรงเล็บยักษ์สีทองเจิดจ้าไร้ทัดเทียมสายหนึ่งควบรวม แหวกอากาศตะปบไปทางหลินสวิน
ตูม!
ห้วงอากาศล้วนแตกทลายเป็นเสี่ยงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์