“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็ลงมือเถอะ”
เห็นว่าเยี่ยจิ่วเซียวกับอวี๋ซิวดวลกันอยู่ ขู่หยาที่อยู่ห่างออกไปพลันพูดเสียงเย็น
ได้ยินเช่นนี้เหล่าอริยะที่มาจากเผ่าวิญญาณสมุทร ลัทธิบูชาจันทร์ เผ่าอีกาทองต่างพยักหน้า แต่ละคนต่างเคลื่อนสายตาไปมองเหวยฉางอวิ๋นและเซี่ยวปู้กุย
ชั่วขณะนี้ฟ้าดินราวกับมืดมนลง กดดันอย่างที่สุด
เหล่าอริยะเคลื่อนไหว อานุภาพดุจสวรรค์ ตอนนี้เผยไอสังหารพร้อมกัน ทั่วสิบทิศล้วนตกอยู่ท่ามกลางความน่าสะพรึงครั้งใหญ่!
เหวยฉางอวิ๋นกับเซี่ยวปู้กุยขมวดคิ้วน้อยๆ ต่างตระหนักได้ว่าศึกนี้ไม่อาจหลีกเลี่ยง พลันสูดหายใจเข้าลึก สีหน้าเด็ดเดี่ยว
แต่ตอนนี้เองหลินสวินที่ยืนอยู่บนยอดเขาพูดขึ้นกะทันหัน “ผู้อาวุโสทั้งสาม เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะข้าคนเดียว โปรดให้ข้าจัดการโดยลำพัง!”
ประโยคเดียวทำให้ตะลึงไปทั่ว อริยะอย่างพวกขู่หยา ฝ่าเจิ้งอดชะงักไม่ได้ จากนั้นต่างเผยรอยยิ้มราวกับรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ตั้งนานแล้ว
“ไม่เลว แม้เป็นมดปลวกแต่ก็ถือว่ามีความรับผิดชอบ เสียสละตัวเองเพียงคนเดียวก็สามารถคลี่คลายเรื่องวันนี้ได้ ถือว่าเจ้ามีสำนึก”
ขู่หยาพยักหน้า
อริยะคนอื่นๆ เองก็ยิ้มขึ้นมา
การต่อสู้ยังไม่ทันปะทุอย่างสมบูรณ์หลินสวินก็ชิงยอมแพ้ก่อน นี่ทำให้พวกเขาประหลาดใจ แต่คิดดูอย่างละเอียดแล้วก็สมเหตุสมผล
“เจ้าหนู เจ้าดูถูกพวกเราสามคนหรือ”
เยี่ยจิ่วเซียวและเซี่ยวปู้กุยที่กำลังต่อสู้อย่างดุเดือดต่างขมวดคิ้ว ไม่พอใจกับท่าทีของหลินสวินนัก พวกเขามาครั้งนี้ก็เพื่อสนับสนุนเขา ถึงขั้นไม่เสียดายที่จะหักหน้ากับเหล่าอริยะ
แต่ตอนนี้เด็กนี่กลับยอดแพ้เป็นคนแรก นี่ทำให้พวกเขาต่างผิดหวังอยู่บ้าง หรือว่า… พวกเขามองเด็กคนนี้ผิดไป
บนหน้าผาหลินสวินเอ่ยเสียงเรียบ “รู้สำนึก? ไม่ พวกเจ้าเข้าใจผิดแล้ว ข้าหมายความว่า การฆ่าเดรัจฉานเฒ่าอย่างพวกเจ้า ข้าคนเดียวก็เพียงพอแล้ว!”
“อะไรนะ”
ในที่นั้นไม่ว่าจะเป็นพวกขู่หยาหรือพวกเหวยฉางอวิ๋น ล้วนแทบไม่กล้าเชื่อหูตัวเอง
และตอนนี้เอง เงาร่างของหลินสวินก้าวขึ้นบนห้วงอากาศ!
ตูม!
ในร่างของเขา ซุ้มธรรมทองอร่ามดุจหล่อจากทองศักดิ์สิทธิ์กู่ก้อง ถูกเปิดผนึกอันคลุมเครือนั่นออก
ในเวลาเดียวกันเสียงสวดยิ่งใหญ่สายหนึ่งดังกังวาน
ก็เห็นในซุ้มธรรมนั่น หัวใจที่โปร่งใสพร่างพราวซึ่งถูกอักษรสันสกฤตแน่นขนัดปิดผนึกอยู่ดวงหนึ่งพุ่งเข้าไปในร่างกายของหลินสวิน
ตึง! ตึง! ตึง!
เสียงเป็นจังหวะที่รุนแรงดั่งฟ้าร้องเริ่มดังก้องบนตัวหลินสวิน การรับรู้ จิตวิญญาณ เส้นปราณโลหิต พลังของเขา…
ล้วนถูกพลังชั้นยอดไร้ใดเปรียบปกคลุมในชั่วพริบตา
‘ปล่อยให้จิตสถูปปลิดชีพของข้า ทลายวิถีเกิดดับในตัวเจ้า!’
เสียงที่ราวกับเทพไท้ดังขึ้นในใจหลินสวิน
เสียงนี้ มาจากอริยพุทธซิงเจียในสมัยดึกดำบรรพ์ จิตสถูปปลิดชีพดวงนี้ เป็นวาสนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่หลินสวินได้รับในสามพันสถูปเจดีย์!
เมื่อเผชิญสถานการณ์ความเป็นความตาย คลี่คลายผนึกซุ้มธรรม ก็จะได้รับพลังแห่ง ‘จิตสถูปปลิดชีพ’ สังหารหนทางความเป็นความตาย!
ทั้งหมดนี้พูดแล้วเหมือนช้า ความจริงนั้นสร็จสิ้นในชั่วพริบตา
มองหลินสวินที่ยืนอยู่กลางอากาศ เหล่าอริยะอย่างพวกขู่หยา ฝ่าเจิ้งต่างตกใจในตอนแรก จากนั้นล้วนเผยสีหน้าเวทนาออกมา
มดปลวกตัวนี้ คิดจะเป็นศัตรูกับพวกเขาจริงๆ หรือ
ผู้ไม่รู้ย่อมไม่รู้จักกลัวจริงๆ ไม่รู้ดีชั่วนัก!
และมีคนสัมผัสได้อย่างฉับไวว่ากลิ่นอายของหลินสวินเปลี่ยนไปแล้ว เปลี่ยนไปเหมือนเหวลึกที่ไม่อาจคาดเดา ให้ความรู้สึกลึกลับคลุมเครือที่ไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้
แต่ว่า ไม่มีใครเกรงกลัว!
พวกเขาคืออริยะ แม้หลินสวินเล่นตุกติกอะไร ก็ไม่เพียงพอจะทำให้พวกเขารู้สึกเกรงกลัว
“เจ้าหนู เจ้าคิดจะรนหาที่ตายจริงๆ หรือ”
เซี่ยวปู้กุยขมวดคิ้วแน่น ไม่พอใจการกระทำของหลินสวินอย่างมาก
“ผู้อาวุโส พวกท่านรอดูความครื้นเครงก็พอแล้ว”
บนอากาศ สีหน้าของหลินสวินนิ่งสงบ ท่าทางเคร่งขรึม
“เสแสร้งแกล้งทำ เป็นมดปลวกตัวหนึ่งยังกล้าอวดดีอีกหรือ ตายซะ!”
ทันใดนั้นบนห้วงฟ้าบริเวณนั้นมีเสียงกึกก้องแฝงความโบราณเก่าแก่ ไอชั่วร้ายทะลวงฟ้า ซย่าโหวเสวี่ยแห่งลัทธิบูชาจันทร์ออกโจมตีพร้อมเสียงหัวเราะเยาะ
เงาร่างของเขาพร่ามัวทั้งตัว ห่อหุ้มอยู่ท่ามกลางหมอกดำ ในมือถือทวนศึกหลั่งเลือดเล่มหนึ่ง ฟันสังหารออกไป
วู้ม!
แสงเลือดสายหนึ่งโฉบพุ่ง แดงสดราวกับนรกมาเยือนโลก ผีร่ำไห้เทพโหยหวน
“หึ!”
แม้ไม่พอใจการกระทำของหลินสวิน แต่เห็นภาพนี้เหวยฉางอวิ๋นก็ยังคงอดไม่ได้ เรียกกระบี่มรรคเล่มหนึ่งออกมาหมายจะออกโจมตี
แต่จู่ๆ กลับแข็งทื่อไปทั้งตัว มองเห็นภาพที่เหลือเชื่อ
ระหว่างที่หลินสวินสะบัดแขนเสื้อ เงาทวนสีแสงเลือดสายนั้นก็ถูกทำลายกลายสภาพเป็นไร้รูป ง่ายดายราวกับปัดเศษฝุ่น!
“นี่…”
เหวยฉางอวิ๋นนัยน์ตาหดรัด ในใจสั่นสะท้าน
ความแข็งแกร่งแห่งพลังต่อสู้ของซย่าโหวเสวี่ย เขารู้เป็นอย่างดี การโจมตีนี้ซัดออกไป อย่าว่าแต่คนรุ่นเยาว์ระดับอมตะเคราะห์อย่างหลินสวิน แม้แต่อริยะยังต้องรับมืออย่างจริงจัง!
แต่ตอนนี้ การโจมตีนี้ของซย่าโหวเสวี่ยกลับถูกหลินสวินสลาย
เพียงสะบัดแขนเสื้อ ลบล้างจนไร้รูป!
ไม่เพียงแค่เหวยฉางอวิ๋น เหล่าอริยะอย่างพวกซย่าโหวเสวี่ยก็ตกตะลึง แววตาวูบไหวเช่นกัน พวกเขาต่างตระหนักได้ว่าหลินสวินจะต้องใช้พลังแปลกพิสดารบางอย่าง
มิฉะนั้นไม่มีทางสลายการโจมตีนี้ได้แน่!
สวบ!
ไม่รอทุกคนตอบสนอง เงาร่างของหลินสวินก็หายไปกลางอากาศ
เหนือฟ้าสูงห่างออกไป เยี่ยจิ่วเซียวและอวี๋ซิวต่อสู้อย่างดุเดือดมาโดยตลอด แต่ตอนนี้เองจู่ๆ เงาร่างของหลินสวินก็ปรากฏขึ้นกะทันหัน ชิงตบฝ่ามือหนึ่งออกไปก่อนเยี่ยจิ่วเซียว
ตูม!
อวี๋ซิวปลดปล่อยปราณกระบี่สีทองเต็มฟ้า ล้วนรัดพันด้วยกฎเกณฑ์อริยมรรคที่น่ากลัว เพียงพอจะสังหารผีฆ่าเทพ น่าหวาดหวั่นอย่างที่สุด
แม้เป็นเยี่ยจิ่วเซียวก็ต้องรับมืออย่างสุดกำลัง
แต่ภายใต้หนึ่งฝ่ามือนี้ของหลินสวิน ปราณกระบี่สีทองเต็มท้องฟ้านั่นกลับถล่มทลายโดยพลัน!
“นี่…”
เยี่ยจิ่วเซียวตกตะลึงเช่นกัน สีหน้าเผยความตกใจ รับรู้ได้ว่ากลิ่นอายของหลินสวินเปลี่ยนเป็นลึกล้ำจนทำให้เขาไม่สามารถมองทะลุได้!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์