Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1358

‘การพึ่งพาเป็นมารผจญในใจ หากเจ้าตัดขาดแล้ว ต่อให้ร้องขอความช่วยเหลือก็ไม่เกี่ยวกับการพึ่งพา นี่ก็คือความต่างของการมองขาดกับมองไม่ขาด’

คำพูดของหญิงลึกลับเรียบง่าย

‘เพียงแค่กำจัดการพึ่งพาออกไปแล้วยืนหยัดด้วยกำลังตนเองยังไม่พอ สำหรับเจ้า ต่อไปยังต้องมีปณิธานยิ่งใหญ่ที่พิชิตปลายทางมหามรรค ก้าวไปไกลกว่าอริยบุคคลนับแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน’

กล่าวเสร็จก็นิ่งเงียบไร้สุ้มเสียง

หลินสวินยิ้มอย่างรู้ความหมายในคำพูดนั้น รู้ว่าท่าทีที่หญิงลึกลับปฏิบัติต่อตน นับวันก็ยิ่งแตกต่างออกไปทุกที

ปลายทางมหามรรค!

เมื่อนึกถึงคำนี้ จิตใจของหลินสวินก็พลุ่งพล่านขึ้นมาระลอกหนึ่ง

นี่สามารถสื่อถึงการพิชิตมหามรรคสูงสุด พิชิตมหามรรคที่ไกลที่สุด และยังสามารถสื่อถึงการกลายเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดบนมหามรรค!

‘ค่อยเป็นค่อยไปเถิด ตั้งเป้าสูงเกินไปไม่ดีนัก…’

ครู่ใหญ่หลินสวินสงบลงแล้ว หยัดกายลุกขึ้น

หลังวิกฤตของการหวนกลับจากแดนมกุฎถูกคลี่คลายลง ขั้นต่อไปก็ถึงคราวสะสางเรื่องส่วนตัวบางส่วนแล้ว

“อาหลู่ ต่อไปจะเจอกันอย่างไร”

หลินสวินเคลื่อนย้ายอาหลู่ เจ้าคางคก ไฉไฉ่ออกจากเจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุด

เมื่อรู้ว่าวิกฤตอันตรายคลี่คลายแล้ว อาหลู่ตัดสินใจจากไป เขาอยากกลับไปอยู่ข้างกายอาจารย์ สืบข่าวปริศนาชาติกำเนิดของตนเอง

อาหลู่ฉีกยิ้มกล่าวว่า “แหะๆ ต้องมีโอกาสอยู่แล้ว พี่ใหญ่ ตอนนี้เจ้าโด่งดังขนาดนี้ ยังห่วงว่าจะหาเจ้าไม่พบอีกหรือ”

“ไม่สู้พวกเรานัดหมายกันอย่างหนึ่งดีกว่า ภายหน้าต้องเกิดสงครามเก้าดินแดนขึ้นแน่ ถึงตอนนั้นพวกเราพี่น้องจะต้องมารวมตัวพร้อมกันที่สนามรบ ว่าอย่างไร”

เจ้าคางคกเอ่ยเสนอแนะ

“ดี!”

อาหลู่ตอบรับอย่างสะใจ

ไม่ทันไรอาหลู่ก็ขอตัวลาจาก

หลินสวินและเจ้าคางคกมองส่งเงาร่างสูงกำยำของอีกฝ่ายจนหายลับ ในใจก็อดหดหู่ไปพักหนึ่งไม่ได้ จากกันตอนนี้ วันหน้าก็ไม่รู้เมื่อไหร่จึงจะได้พบกันอีก

หวังเพียงว่าต่างฝ่ายต่างรักษาตัวก็แล้วกัน

“คุณชายหลิน ข้า… ข้าเองก็ต้องกลับบ้านแล้ว”

ไฉไฉ่เอ่ยปากเสียงกระซิบ บนใบหน้าน้อยที่งดงามผุดผ่องของเด็กสาวเจือแววอาลัยอาวรณ์เสี้ยวหนึ่ง

หลินสวินกล่าวยิ้มๆ “ไฉไฉ่ ผ่านไปอีกสักระยะเผลอๆ ข้าอาจจะไปเยี่ยมเจ้าก็ได้”

“หา?”

ดวงตารูปผลซิ่งสีดำสนิทของไฉไฉ่เบิกกว้าง คล้ายรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย กล่าวอย่างดีใจว่า “หากคุณชายหลินมาได้ เช่นนั้นก็เป็นแขกกิตติมศักดิ์ชั้นสูงแนวหน้าเชียว ข้าจะต้องเตรียมพร้อมอย่างดีสักหน่อยว่าจะต้อนรับขับสู้ท่านอย่างไร”

หลินสวินกล่าว “แต่ข้าควรไปหาเจ้าอย่างไร”

เผ่าทอเมฆาแม้จะไม่ถึงขั้นเป็นเผ่าเก่าแก่ที่แข็งแกร่งอย่างที่สุด แต่ก็เร้นลับสุดขีด คนในเผ่านี้ปรากฏตัวในใต้หล้าน้อยครั้งยิ่ง

“เอ้า นี่คือถุงหอมที่ข้าทอ หากคุณชายต้องการหาข้า ให้ไป ‘บึงฝันเมฆา’ จากนั้นก็เปิดถุงหอมนี้ มันจะสามารถนำทางคุณชายได้”

ไฉไฉ่ล้วงถุงหอมสีชมพูอ่อนออกมาใบหนึ่งแล้วยื่นให้หลินสวิน

“ดี เช่นนั้นข้ารับไว้แล้วกัน”

หลินสวินถือไว้ในมือ ถุงหอมอ่อนนุ่มเจือไอเย็น ปักเมฆก้อนหนึ่ง ละเอียดประณีตยิ่ง ซ้ำยังเจือกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่มีเฉพาะบนตัวเด็กสาวเสี้ยวหนึ่ง

“ต้องการให้ข้าไปส่งเจ้าหรือไม่”

หลินสวินเอ่ยถาม

“ไม่ต้องหรอก ข้าไม่ใช่เด็กแล้ว กลับบ้านเองได้”

ไฉไฉ่ยิ้มร่าเริงพลางโบกมือเนียนขาวไหวๆ ก่อนหันตัวจากไป

เงาร่างเด็กสาวแบบบาง ค่อยๆ เคลื่อนคล้อยไปไกลภายใต้แสงอัสดงดุจเปลวเพลิง

“ต้องรักษาตัวด้วยนะไฉไฉ่ ข้ายังรอชุดแต่งงานที่งดงามที่สุดในโลกที่เจ้าถัก รอดื่มเหล้ามงคลที่เจ้าหมักเองกับมืออยู่นะ”

เจ้าคางคกร้องลั่น

“นี่!”

ไกลออกไปเสียงร้องคล้ายเด็กสาวเหนียมอายดังลอยมาราวกับกวางน้อยตื่นตกใจ เพียงชั่วแล่นก็อันตรธานหายลับไป

เจ้าคางคกอดชอบใจไม่ได้ “ช่างเป็นแม่นางที่ดีคนหนึ่งจริงๆ”

“เจ้าชอบ?”

จู่ๆ หลินสวินก็ถามขึ้น

“ใครไม่ชอบบ้าง”

เจ้าคางคกกลอกตา

“ข้ายังคิดว่าเจ้าตั้งใจจะเป็นเจ้าบ่าวของไฉไฉ่เสียอีก”

หลินสวินหัวเราะร่วน

เจ้าคางคกกล่าวดูแคลน “ตัวข้าจิตมุ่งสู่มรรค ความรักใคร่ชายหญิงอะไรข้าเหยียดหยันถึงที่สุดเรื่อยมา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าบนโลกนี้ไม่มีผู้หญิงคนไหนคู่ควรกับข้า”

เจ้านี่เริ่มคุยโวลำพองตนอีกแล้ว

หลินสวินเตะเขาคราหนึ่ง กล่าวว่า “เจ้าคางคก เจ้าไปรวมกับตัวแม่นางจ้าวที่แดนศักดิ์สิทธิ์สมบัติวิญญาณ รอตอนที่ข้าหวนกลับไป พวกเราค่อยไปเสาะหาเส้นทางมุ่งสู่โลกชั้นล่างพร้อมกัน”

“นี่เจ้าจะไปไหน”

เจ้าคางคกอึ้งไป

“สะสางเรื่องส่วนตัวสักหน่อย”

สุดท้ายหลินสวินก็ไม่ได้บอกเจ้าคางคกว่าจะไปทำอะไร

แก้แค้น เป็นเรื่องส่วนตัวจริงๆ เขาไม่อยากลากเจ้าคางคกเข้ามาเอี่ยวด้วย

เจ้าคางคกสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง กล่าวว่า “เช่นนั้นเจ้าต้องมาให้ได้นะ”

หลินสวินพยักหน้า

วันนั้นเจ้าคางคกก็จากไป มุ่งหน้าสู่แคว้นหมึกขาวที่แดนศักดิ์สิทธิ์สมบัติวิญญาณตั้งอยู่

นี่คือสิ่งที่ก่อนออกจากแดนมกุฎ หลินสวินก็หารือกับจ้าวจิ่งเซวียนและเจ้าคางคกไว้เรียบร้อยแล้ว

“ก็เหลือแค่ข้าคนเดียวแล้ว…”

หลินสวินยืนลำพังอยู่กลางฟ้าดินเวิ้งว้าง แวบหนึ่งถึงกับมีความรู้สึกเปล่าเปลี่ยวอยู่บ้าง

‘นายท่าน ยังมีข้า’

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์