‘การพึ่งพาเป็นมารผจญในใจ หากเจ้าตัดขาดแล้ว ต่อให้ร้องขอความช่วยเหลือก็ไม่เกี่ยวกับการพึ่งพา นี่ก็คือความต่างของการมองขาดกับมองไม่ขาด’
คำพูดของหญิงลึกลับเรียบง่าย
‘เพียงแค่กำจัดการพึ่งพาออกไปแล้วยืนหยัดด้วยกำลังตนเองยังไม่พอ สำหรับเจ้า ต่อไปยังต้องมีปณิธานยิ่งใหญ่ที่พิชิตปลายทางมหามรรค ก้าวไปไกลกว่าอริยบุคคลนับแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน’
กล่าวเสร็จก็นิ่งเงียบไร้สุ้มเสียง
หลินสวินยิ้มอย่างรู้ความหมายในคำพูดนั้น รู้ว่าท่าทีที่หญิงลึกลับปฏิบัติต่อตน นับวันก็ยิ่งแตกต่างออกไปทุกที
ปลายทางมหามรรค!
เมื่อนึกถึงคำนี้ จิตใจของหลินสวินก็พลุ่งพล่านขึ้นมาระลอกหนึ่ง
นี่สามารถสื่อถึงการพิชิตมหามรรคสูงสุด พิชิตมหามรรคที่ไกลที่สุด และยังสามารถสื่อถึงการกลายเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดบนมหามรรค!
‘ค่อยเป็นค่อยไปเถิด ตั้งเป้าสูงเกินไปไม่ดีนัก…’
ครู่ใหญ่หลินสวินสงบลงแล้ว หยัดกายลุกขึ้น
หลังวิกฤตของการหวนกลับจากแดนมกุฎถูกคลี่คลายลง ขั้นต่อไปก็ถึงคราวสะสางเรื่องส่วนตัวบางส่วนแล้ว
“อาหลู่ ต่อไปจะเจอกันอย่างไร”
หลินสวินเคลื่อนย้ายอาหลู่ เจ้าคางคก ไฉไฉ่ออกจากเจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุด
เมื่อรู้ว่าวิกฤตอันตรายคลี่คลายแล้ว อาหลู่ตัดสินใจจากไป เขาอยากกลับไปอยู่ข้างกายอาจารย์ สืบข่าวปริศนาชาติกำเนิดของตนเอง
อาหลู่ฉีกยิ้มกล่าวว่า “แหะๆ ต้องมีโอกาสอยู่แล้ว พี่ใหญ่ ตอนนี้เจ้าโด่งดังขนาดนี้ ยังห่วงว่าจะหาเจ้าไม่พบอีกหรือ”
“ไม่สู้พวกเรานัดหมายกันอย่างหนึ่งดีกว่า ภายหน้าต้องเกิดสงครามเก้าดินแดนขึ้นแน่ ถึงตอนนั้นพวกเราพี่น้องจะต้องมารวมตัวพร้อมกันที่สนามรบ ว่าอย่างไร”
เจ้าคางคกเอ่ยเสนอแนะ
“ดี!”
อาหลู่ตอบรับอย่างสะใจ
ไม่ทันไรอาหลู่ก็ขอตัวลาจาก
หลินสวินและเจ้าคางคกมองส่งเงาร่างสูงกำยำของอีกฝ่ายจนหายลับ ในใจก็อดหดหู่ไปพักหนึ่งไม่ได้ จากกันตอนนี้ วันหน้าก็ไม่รู้เมื่อไหร่จึงจะได้พบกันอีก
หวังเพียงว่าต่างฝ่ายต่างรักษาตัวก็แล้วกัน
“คุณชายหลิน ข้า… ข้าเองก็ต้องกลับบ้านแล้ว”
ไฉไฉ่เอ่ยปากเสียงกระซิบ บนใบหน้าน้อยที่งดงามผุดผ่องของเด็กสาวเจือแววอาลัยอาวรณ์เสี้ยวหนึ่ง
หลินสวินกล่าวยิ้มๆ “ไฉไฉ่ ผ่านไปอีกสักระยะเผลอๆ ข้าอาจจะไปเยี่ยมเจ้าก็ได้”
“หา?”
ดวงตารูปผลซิ่งสีดำสนิทของไฉไฉ่เบิกกว้าง คล้ายรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย กล่าวอย่างดีใจว่า “หากคุณชายหลินมาได้ เช่นนั้นก็เป็นแขกกิตติมศักดิ์ชั้นสูงแนวหน้าเชียว ข้าจะต้องเตรียมพร้อมอย่างดีสักหน่อยว่าจะต้อนรับขับสู้ท่านอย่างไร”
หลินสวินกล่าว “แต่ข้าควรไปหาเจ้าอย่างไร”
เผ่าทอเมฆาแม้จะไม่ถึงขั้นเป็นเผ่าเก่าแก่ที่แข็งแกร่งอย่างที่สุด แต่ก็เร้นลับสุดขีด คนในเผ่านี้ปรากฏตัวในใต้หล้าน้อยครั้งยิ่ง
“เอ้า นี่คือถุงหอมที่ข้าทอ หากคุณชายต้องการหาข้า ให้ไป ‘บึงฝันเมฆา’ จากนั้นก็เปิดถุงหอมนี้ มันจะสามารถนำทางคุณชายได้”
ไฉไฉ่ล้วงถุงหอมสีชมพูอ่อนออกมาใบหนึ่งแล้วยื่นให้หลินสวิน
“ดี เช่นนั้นข้ารับไว้แล้วกัน”
หลินสวินถือไว้ในมือ ถุงหอมอ่อนนุ่มเจือไอเย็น ปักเมฆก้อนหนึ่ง ละเอียดประณีตยิ่ง ซ้ำยังเจือกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่มีเฉพาะบนตัวเด็กสาวเสี้ยวหนึ่ง
“ต้องการให้ข้าไปส่งเจ้าหรือไม่”
หลินสวินเอ่ยถาม
“ไม่ต้องหรอก ข้าไม่ใช่เด็กแล้ว กลับบ้านเองได้”
ไฉไฉ่ยิ้มร่าเริงพลางโบกมือเนียนขาวไหวๆ ก่อนหันตัวจากไป
เงาร่างเด็กสาวแบบบาง ค่อยๆ เคลื่อนคล้อยไปไกลภายใต้แสงอัสดงดุจเปลวเพลิง
“ต้องรักษาตัวด้วยนะไฉไฉ่ ข้ายังรอชุดแต่งงานที่งดงามที่สุดในโลกที่เจ้าถัก รอดื่มเหล้ามงคลที่เจ้าหมักเองกับมืออยู่นะ”
เจ้าคางคกร้องลั่น
“นี่!”
ไกลออกไปเสียงร้องคล้ายเด็กสาวเหนียมอายดังลอยมาราวกับกวางน้อยตื่นตกใจ เพียงชั่วแล่นก็อันตรธานหายลับไป
เจ้าคางคกอดชอบใจไม่ได้ “ช่างเป็นแม่นางที่ดีคนหนึ่งจริงๆ”
“เจ้าชอบ?”
จู่ๆ หลินสวินก็ถามขึ้น
“ใครไม่ชอบบ้าง”
เจ้าคางคกกลอกตา
“ข้ายังคิดว่าเจ้าตั้งใจจะเป็นเจ้าบ่าวของไฉไฉ่เสียอีก”
หลินสวินหัวเราะร่วน
เจ้าคางคกกล่าวดูแคลน “ตัวข้าจิตมุ่งสู่มรรค ความรักใคร่ชายหญิงอะไรข้าเหยียดหยันถึงที่สุดเรื่อยมา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าบนโลกนี้ไม่มีผู้หญิงคนไหนคู่ควรกับข้า”
เจ้านี่เริ่มคุยโวลำพองตนอีกแล้ว
หลินสวินเตะเขาคราหนึ่ง กล่าวว่า “เจ้าคางคก เจ้าไปรวมกับตัวแม่นางจ้าวที่แดนศักดิ์สิทธิ์สมบัติวิญญาณ รอตอนที่ข้าหวนกลับไป พวกเราค่อยไปเสาะหาเส้นทางมุ่งสู่โลกชั้นล่างพร้อมกัน”
“นี่เจ้าจะไปไหน”
เจ้าคางคกอึ้งไป
“สะสางเรื่องส่วนตัวสักหน่อย”
สุดท้ายหลินสวินก็ไม่ได้บอกเจ้าคางคกว่าจะไปทำอะไร
แก้แค้น เป็นเรื่องส่วนตัวจริงๆ เขาไม่อยากลากเจ้าคางคกเข้ามาเอี่ยวด้วย
เจ้าคางคกสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง กล่าวว่า “เช่นนั้นเจ้าต้องมาให้ได้นะ”
หลินสวินพยักหน้า
วันนั้นเจ้าคางคกก็จากไป มุ่งหน้าสู่แคว้นหมึกขาวที่แดนศักดิ์สิทธิ์สมบัติวิญญาณตั้งอยู่
นี่คือสิ่งที่ก่อนออกจากแดนมกุฎ หลินสวินก็หารือกับจ้าวจิ่งเซวียนและเจ้าคางคกไว้เรียบร้อยแล้ว
“ก็เหลือแค่ข้าคนเดียวแล้ว…”
หลินสวินยืนลำพังอยู่กลางฟ้าดินเวิ้งว้าง แวบหนึ่งถึงกับมีความรู้สึกเปล่าเปลี่ยวอยู่บ้าง
‘นายท่าน ยังมีข้า’
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์