Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1360

“สามหาว!”

ไม่รอให้ซ่งชิงอวิ๋นเอ่ยปาก ก็มีคนตบโต๊ะลุกพรวดขึ้นมาแล้ว

นี่คือชายในชุดหรูหราคนหนึ่ง มองปราดเดียว็รู้ว่าเป็นลูหลานตระกูลใหญ่ เขาชี้หลินสวินแล้วตวาดลั่น “เจ้าตาบอดเรอะ ไม่เห็นหรือว่าพวกเรากำลังสังสรรค์กันอยู่”

คนอื่นๆ ต่างก็ไม่สบอารมณ์

คนหนุ่มที่จู่ๆ ก็เดินขึ้นมาบนชั้นสองนี่กก็คือหลินสวิน เขาเหลือบมองชายชุดหรูหราปราดหนึ่ง

ฝ่ายหลังแข็งทื่อไปทั้งตัว ทั่วร่างล้วนสั่นเทิ้มราวกับถูกเทพสวรรค์กวาดตามอง หัวใจผุดความสะพรึงกลัวยิ่งใหญ่

ตุ้บ!

สองเข่าของเขาอ่อนยวบ ถึงกับนั่งเกร็งลงบนเก้าอี้อีกครั้ง แววตาแข็งค้าง

ทันใดนั้นทุกคนต่างตกใจ

และเวลานี้เอง แววตาซ่งชิงอวิ๋นขยับวูบกล่าวว่า “สหายมาหาข้าผู้แซ่ซ่งมีธุระอันใด”

หลินสวินกล่าวว่า “ตามข้ามา”

พูดจบเขาก็หันตัวออกไป

ตั้งแต่ต้นจนจบกล่าวเพียงสองประโยค ประโยคแรกคือ ‘ซ่งชิงอวิ๋น?’ นี่เป็นการยืนยันตัวตนของเป้าหมาย

ประโยคที่สองคือ ‘ตามข้ามา’ เป็นสามคำที่แสนราบเรียบยิ่ง ถึงขั้นพาให้ผู้คนสัมผัสไม่ได้ถึงความวูบไหวของอารมณ์ใดๆ สักเสี้ยว

ที่พาให้ในใจทุกคนหวาดผวาคือ ขณะนี้หลังจากได้ยินสามคำนี้ ซ่งชิงอวิ๋นกลับหยัดกายเหยียดตรง เดินตามออกไป

จนกระทั่งเงาร่างของหลินสวินและซ่งชิงอวิ๋นหายไป กลุ่มคนในที่นี้ต่างอดมองหน้ากันเลิ่กลั่กไม่ได้ รู้สึกมืดแปดด้าน หรือว่าคนแปลกหน้าผู้นี้รู้จักกับซ่งชิงอวิ๋น

พวกเขามองไม่ออก

เพราะพวกเขาไม่รู้เลยสักนิด ด้วยอำนาจบารมีระดับมกุฎราชันอมตะเคราะห์ด่านเจ็ดของหลินสวิน ยามเมื่อใช้บนตัวผู้แข็งแกร่งที่เพิ่งมีปราณระดับกระบวนแปรจุติอย่างซ่งชิงอวิ๋น ชั่วอึดใจนั้นก็เพียงพอจะสูบกลืนวิญญาณของเขา ควบคุมจิตใจของเขาได้แล้ว!

……

นอกเมือง ในเงาตะคุ่มของเนินเขาแห่งหนึ่ง เงาร่างของหลินสวินปรากฏขึ้นกลางอากาศ โบกแขนเสื้อคราหนึ่ง เงาร่างของซ่งชิงอวิ๋นก็ร่วงตุ้บลงกับพื้น

เวลานี้ซ่งชิงอวิ๋นเพิ่งได้สติ หน้าเปลี่ยนสียกใหญ่ กล่าวเสียงสั่นว่า “ผู้อาวุโสท่านนี้ อาจารย์ของข้าคือเหมิงชิวจิ้งผู้อาวุโสสายในของสำนักกระบี่เทียมฟ้า หากข้าน้อยล่วงเกินท่านประการใด โปรดเห็นแก่หน้าของอาจารย์ข้า อภัยให้สักครั้งด้วยเถิด”

ในฐานะผู้สืบทอดสายในของสำนักกระบี่เทียมฟ้า มีหรือเขาจะดูไม่ออก ว่าคนหนุ่มตรงหน้าผู้นี้เป็นไปได้สูงว่าอาจเป็นสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับราชันคนหนึ่ง!

“ศิษย์เบื้องท้ายคนสำคัญของเหมิงชิวจิ้ง คนที่ตามหาก็คือเจ้านั่นแหละ”

หลินสวินกล่าวสบายๆ “ข้าต้องการให้เจ้าช่วยข้าสักเรื่อง หากให้ความร่วมมือ ก็ไม่ต้องกังวลอันตราย…”

ไม่รอให้พูดจบซ่งชิงอวิ๋นรีบพยักหน้าหงึกๆ ทันที “ร่วมมือ ต้องร่วมมืออยู่แล้ว!”

หลินสวินอึ้งไป เจ้าหมอนี่ก็ช่างใจเสาะเกินไปแล้ว เมื่อเทียบกับอวิ๋นชิ่งไป๋ที่ถือมาจากสำนักกระบี่เทียมฟ้าเหมือนกัน ช่างต่างกันราวฟ้ากับเหวอย่างสิ้นเชิง

“ข้าต้องการทำความเข้าใจเรื่องราวส่วนหนึ่ง เจ้าอย่าได้ขัดขืนเป็นดีที่สุด เพราะขัดขืนไปก็ไร้ประโยชน์ ตรงข้ามจะทำให้เจ้าพบเจอกับความเจ็บปวดที่จินตนาการไม่ออก”

หลินสวินเองก็คร้านจะเสียเวลากับพวกขี้ขลาดตาขาวคนหนึ่ง ออกคำสั่งตรงๆ “เสี่ยวอิ๋น ตาเจ้าลงมือแล้ว”

สวบ!

เงาร่างของเสี่ยวอิ๋นพุ่งโฉบออกมา ดุจดั่งลำแสงเงินสายหนึ่ง เจาะเข้าไปในห้วงนิมิตกลางหว่างคิ้วของซ่งชิงอวิ๋น

“เจ้า… เจ้าจะ…”

ซ่งชิงอวิ๋นตกใจยกใหญ่ แต่ยังไม่ทันได้ขัดขืนสีหน้าของเขาก็แข็งค้างอยู่อย่างนั้น ราวกับวิญญาณหลุดออกจากร่าง

หลินสวินรอคอยอย่างเงียบๆ

เสี่ยวอิ๋นเป็นทายาทหนอนกินเทพ จากความสามารถของมกุฎราชันที่เหยียบย่างระดับอมตะเคราะห์ของเขา เพียงพอจะสูบกระชากความทรงจำทั้งหมดในจิตวิญญาณของซ่งชิงอวิ๋นออกมาได้!

หนำซ้ำยังรับรองได้ว่าเป็นความทรงจำขนานแท้ ไม่ต้องห่วงว่าจะถูกตบตา

“นายท่าน ได้แล้ว”

ครู่ต่อมาเงาร่างของเสี่ยวอิ๋นก็พุ่งโฉบออกมา เห็นได้ชัดว่าผ่อนคลายยิ่ง

หลินสวินพยักหน้า ตามแผนการของเขา ครั้งนี้หากหมายจะฆ่าเหมิงชิวจิ้ง เหมิงหรง องค์ชายเก้าจ้าวจิ่งเจิน เป็นไปไม่ได้ที่จะบุกฝ่าไปสำนักกระบี่เทียมฟ้าโต้งๆ ทำได้เพียงเลือกใช้ทางอื่นเท่านั้น

ผ่านการสืบข่าวสองวันมานี้ สุดท้ายเขาก็เลือกซ่งชิงอวิ๋น

คนผู้นี้เป็นศิษย์เบื้องท้ายคนสำคัญของเหมิงชิวจิ้ง ได้รับความสำคัญจากเหมิงชิวจิ้งอย่างมาก และยังมองว่าเขาเป็นผู้สืบทอดอันดับหนึ่งที่สามารถถ่ายทอดมรดกวิชาให้ได้อีกด้วย

จากความเห็นของหลินสวิน ขอเพียงควบคุมซ่งชิงอวิ๋น ก็สามารถทำตามแผน ล่อเหมิงชิวจิ้งออกมาจากสำนักกระบี่เทียมฟ้าได้

ถึงตอนนั้นขอแค่ควบคุมเหมิงชิวจิ้ง พวกเหมิงหรงและจ้าวจิ่งเจินสองคนนี้ที่ได้แต่พึ่งพาการคุ้มครองของสำนักกระบี่เทียมฟ้า ก็ต้องหนีไม่พ้นอย่างแน่นอน

“นายท่าน ข้าค้นพบเรื่องที่น่าสนใจอย่างหนึ่งความทรงจำของคนผู้นี้” เสี่ยวอิ๋นกล่าวด้วยสีหน้าผิดแปลก

“เรื่องอะไร” หลินสวินถาม

เสี่ยวอิ๋นกล่าวว่า “เจ้าหมอนี่ดันเป็นลูกลับๆ ของเหมิงชิวจิ้ง! เพียงแต่ถูกเหมิงชิวจิ้งปกปิดเรื่อยมา แม้แต่คนอื่นๆ ในสำนักกระบี่เทียมฟ้ายังไม่รู้”

สีหน้าของหลินสวินก็เปลี่ยนเป็นผิดแปลกทันทีเช่นกัน มิน่าเจ้าคนที่ใจเสาะคนหนึ่งเช่นนี้ ถึงสามารถได้รับการบ่มเพาะและเอาใจใส่จากเหมิงชิวจิ้งเช่นนี้ ที่แท้ต้นตอก็อยู่ตรงนี้นี่เอง…

“ดูเหมือนว่า แผนการของพวกเราคงต้องเปลี่ยนแปลงสักหน่อยแล้ว”

หลินสวินทอดมองซ่งชิงอวิ๋นที่อยู่บนพื้น คล้ายไตร่ตรองใคร่ครวญ

……

บ่ายวันนั้น ในเมืองก็มีข่าวใหญ่ข่าวหนึ่งขึ้นมา…

“ซ่งชิงอวิ๋นศิษย์สายในสำนักกระบี่เทียมฟ้า เพราะใช้กำลังฉุดกระชากเด็กสาวโฉมงามคนหนึ่ง ระหว่างนั้นถูกยอดฝีมือที่จรผ่านพบเข้า ภายใต้เพลิงโทสะจึงจับตัวเขามัดประจานอยู่บนประตูเมือง!”

ทั่วเมืองเดือดพล่าน

นครหยกขาวแห่งนี้เป็นถึงถิ่นที่ตั้งของสำนักกระบี่เทียมฟ้า ยามนี้ถึงกับมีคนจับตัวผู้สืบทอดสำนักกระบี่เทียมฟ้าแขวนประจานอยู่เหนือเมือง ความกล้านี้ช่างใหญ่ยิ่งนัก!

หนำซ้ำบ่ายวันนั้นคนมากมายในเมืองต่างมองเห็น ซ่งชิงอวิ๋นถูกมัดอยู่บนเหนือประตูเมืองจริงๆ ทั้งตัวผมเผ้ารุงรัง เห็นได้ชัดว่าหมดสติ

“นี่เป็นฝีมือใครกัน”

คนนับไม่ถ้วนสงสัย นี่เท่ากับหักหน้าสำนักกระบี่เทียมฟ้าชัดๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์