Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1361

เหมิงชิวจิ้งไม่เคยเจอหลินสวิน แต่ยามมองเห็นเงาร่างสูงโปร่งที่ขวางอยู่ตรงหน้าสายนั้น กลับดูออกในชั่วครู่ว่านั่นจะต้องเป็นหลินสวินแน่นอน

ชั่วขณะนั้นเขาถึงขั้นยากจะทำใจเชื่ออยู่บ้าง อีกฝ่ายพบตนตั้งแต่เมื่อไหร่

“พยัคฆ์ร้ายไม่กินลูกตัวเอง แต่เจ้าแม้แต่ชีวิตลูกในไส้แท้ๆ กลับไม่ช่วยเหลือ จิตใจช่างโหดร้ายซะจริง”

ไกลออกไปหลินสวินเอ่ยปากเนิบนาบ

ตู้ม!

ประโยคเดียวทำเอาเหมิงชิวจิ้งราวกับถูกสายฟ้าฟาด หนังหัวแทบแตกกระจุย

เรื่องที่ซ่งชิงอวิ๋นเป็นลูกชายของเขา แม้แต่ทั้งสำนักกระบี่เทียมฟ้ายังไม่รู้ หลินสวินนี่รู้ได้อย่างไร

“สารเลว นี่เป็นถึงอาณาเขตของสำนักกระบี่เทียมฟ้า จะปล่อยให้เจ้าโอหังได้ตามใจชอบหรือ”

ทันใดนั้นเหมิงชิวจิ้งตวาดลั่น เสียงดังสนั่นยิ่งยวด สะเทือนเลื่อนลั่นปานฟ้าคำราม

มุมปากหลินสวินเจือแววเสียดสี “จนป่านนี้แล้ว เจ้ายังคิดจะแจ้งให้สำนักกระบี่เทียมฟ้าส่งคนมาช่วยเหลือเจ้าอยู่อีกหรือ”

“เจ้า…”

เหมิงชิวจิ้งหน้าเปลี่ยนสียกใหญ่ เขาเองก็ตระหนักได้ว่าเสียงยังไม่ทันแผ่ออกไปก็ถูกผนึกต้องห้ามไร้รูปชั้นหนึ่งปิดกั้นเอาไว้

ตูม!

และในเวลานี้หลินสวินเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว โบกแขนเสื้อคราหนึ่ง

แสงมรรคระฟ้ากลายเป็นเกลียวไหมขาวโพลนเจิดจ้าประดุจธารดาราสายหนึ่ง ตลบม้วนห้วงอากาศมุ่งฝ่าไป

เหมิงชิวจิ้งมีปราณระดับอมตะเคราะห์ด่านสอง มิฉะนั้นคงไม่สามารถรับหน้าที่ผู้อาวุโสสายในของสำนักกระบี่เทียมฟ้าได้

ทว่ายามเมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีครั้งนี้ เขากลับมีความสิ้นหวังและไร้เรี่ยวแรงอย่างบอกไม่ถูก

ห่างชั้นกันเกินไปแล้ว!

พร้อมๆ กับเสียงสนั่นหวั่นไหวดังแสบหูและเสียงคำรามไม่พอใจ ทั้งตัวเหมิงชิวจิ้งล้วนถูกแสงมรรคเจิดจรัสไร้ทัดเทียมนั่นท่วมมิด สูญเสียสติสัมปชัญญะ

สวบ!

ครู่ต่อมาหลินสวินหิ้วร่างของเขาขึ้น แล้วอาศัยสีราตรีพุ่งโฉบมุ่งหน้าห่างออกไป

เมื่อนึกถึงภาพเหตุการณ์ต่างๆ ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่ แม้แต่หลินสวินเองก็ไม่อาจไม่ยอมรับ เหมิงชิวจิ้งนี่รอบคอบและมากประสบการณ์ถึงขีดสุด เมื่อสัมผัสได้ถึงความไม่เข้าทีก็รีบถอนตัวถอยออกมาทันที

ความเร็วในการตอบสนอง ความเหี้ยมเกรียมของจิตใจ พาให้ผู้คนร้องอุทาน

ยังดีที่ตั้งแต่เริ่มหลินสวินก็ไม่ได้คิดจะเฝ้าตอรอกระต่ายอยู่ในเมือง

การลงมือจัดการกับสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับราชันคนหนึ่งกลางเมือง จะต้องเปิดเผยพลังและตัวตน ดึงดูดความโกลาหลที่ไม่จำเป็นอย่างแน่นอน

ก็เพราะใคร่ครวญถึงจุดนี้ หลินสวินจึงจัดแจงให้เสี่ยวอิ๋นรั้งอยู่ในเมือง ส่วนเขาออกนอกเมืองมาก่อน ดักรออยู่ระหว่างทาง

และโชคดีที่เป็นเช่นนี้ ถึงสามารถรวบปลาตัวใหญ่อย่างเหมิงชิวจิ้งนี่ได้

……

ในเมือง ยามค่ำคืนมืดสนิทดุจสีหมึก

ในเรือนพำนักแห่งหนึ่ง ถูกผนึกลายมรรคไร้รูปแผ่ครอบไว้ตั้งแต่แรก

“อย่าให้ชิงอวิ๋นรู้เรื่องพวกนี้ได้หรือไม่ เขาเป็นผู้บริสุทธิ์ และไม่เคยเข้าไปเอี่ยวในเรื่องทำร้ายตระกูลหลินใดๆ ข้าขอร้องเจ้าล่ะ ปล่อยเขาไปสักครั้งได้หรือไม่”

เหมิงชิวจิ้งสีหน้าอับแสง นั่งลงกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง ทั้งตัวเสมือนแก่ลงไปมากเพียงชั่วครู่

ซ่งชิงอวิ๋นยังคงไม่ได้สติ ถูกทิ้งไว้บนพื้นเย็นเยียบราวกับหมาตายไม่มีผิด นี่พาให้ในใจเหมิงชิวจิ้งเจ็บปวดนัก

“ปีนั้นบรรดาญาติตระกูลหลินของข้าก็บริสุทธิ์ไร้ความผิด พวกเจ้าเคยคิดจะปล่อยพวกเขาไปสักครั้งบ้างหรือไม่”

สีหน้าหลินสวินเฉยเมย นัยน์ตาปราศจากความหวั่นไหวทางอารมณ์

“พะ… พวกเราล้วนถูกบีบบังคับ”

สีหน้าเหมิงชิวจิ้งตื่นตระหนก ร้องตะโกนลั่น “ฆาตกรตัวจริงไม่ใช่พวกเราเสียหน่อย!”

“ข้าย่อมรู้อยู่แล้วว่าตัวการหลักคืออวิ๋นชิ่งไป๋”

หลินสวินกล่าวสบายๆ

“ไม่ อวิ๋นชิ่งไป๋เป็นแค่แมลงน่าสงสารตัวหนึ่ง ชะตาชีวิตถูกคนควบคุมตั้งนานแล้ว ปีนั้นเขาเพิ่งมีปราณระดับกระบวนแปรจุติขั้นต้นเท่านั้น จะมีปัญญาแฝงตัวเข้าสู่โลกชั้นล่าง ก่อเรื่องระดับนี้ขึ้นโดยเทพไม่รู้ผีไม่เห็นได้หรือ”

เหมิงชิวจิ้งกัดฟัน โพล่งความลับอย่างหนึ่งออกมา เพื่อปกป้องตัวเองเขาก็ไม่สนใจสิ่งอื่นใดทั้งนั้น

นัยน์ตาดำของหลินสวินหรี่ลง กล่าวว่า “เป็นฝีมือของคนผู้นั้นที่ชุบเลี้ยงอวิ๋นชิ่งไป๋จนเติบใหญ่?”

เหมิงชิวจิ้งตกตะลึง คล้ายไม่อยากเชื่อ “จะ… เจ้าถึงกับรู้ตั้งแต่แรกแล้ว? ดูท่าคงเป็นอวิ๋นชิ่งไป๋ที่บอกเจ้า ก่อนสิ้นใจเขาเองก็ไม่พอใจยิ่งใช่หรือไม่ บุคคลสะท้านโลกที่เกิดมาพร้อมกระดูกกระบี่คนหนึ่ง ทว่าตั้งแต่ต้นจนจบกลับถูกคนบงการชะตาชีวิต…”

กล่าวถึงตอนสุดท้ายเขาราวกับนึกถึงตนเอง สีหน้าอึมครึมลงอย่างอดไม่ได้ ตนก็ไม่ได้เป็นเช่นนี้หรอกหรือ

“เล่าที่มาของเขาให้ฟังที” หลินสวินนิ่งเงียบพักหนึ่งก่อนเอ่ยถาม

เหมิงชิวจิ้งเสมือนคว้าความหวังเสี้ยวสุดท้าย กล่าวว่า “หากข้าพูดแล้ว พอจะไว้ชีวิตข้าสักครั้งได้หรือไม่”

น้ำเสียงของหลินสวินราบเรียบ “ต่อให้เจ้าไม่พูด ข้าก็สามารถดูดออกมาจากจิตวิญญาณของเจ้าได้ เพียงแค่ไม่อยากยุ่งยากถึงขนาดนั้น”

เสี่ยวอิ๋นยืนอยู่บนบ่าของหลินสวิน สีหน้าเย็นเยียบ เขาเตรียมตัวพร้อมเป็นที่เรียบร้อย

สีหน้าของเหมิงชิวจิ้งวูบไหวไม่นิ่ง สุดท้ายก็ห่อเหี่ยว ชี้ไปทางซ่งชิงอวิ๋นที่อยู่ไม่ไกลอย่างขมขื่นพลางกล่าว “พอจะเหลือสายเลือดสักคนให้ข้าได้หรือไม่”

หลินสวินกล่าวว่า “หลังจากได้รู้ความจริง ข้าย่อมจะพิจารณาปัญหาข้อนี้”

เหมิงชิวจิ้งพยักหน้าหงึกๆ “ได้!”

ต่อมาเขาสูดหายใจลึกหลายครั้ง เอ่ยว่า “คนผู้นั้นไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งในสำนักกระบี่เทียมฟ้าของข้า เจ้าเองก็น่าจะเคยได้ยินมาบ้างแล้ว วันนี้ ‘ผู้อาวุโสฝานฉี’ ของสำนักข้าถึงแก่กรรม ความจริงแล้วผู้อาวุโสฝานฉีถูกคนฆ่าตายตั้งแต่ร้อยปีก่อนแล้ว เพียงแต่ร่างของเขาถูกคนยึดครองเท่านั้น…”

หนังตาของหลินสวินกระตุก เขาไม่รู้เลยว่าในนี้ยังมีเรื่องพรรค์นี้อยู่ด้วย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์