Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1367

หลันชิงเหินตัดสินใจทันที สีหน้าเคร่งขรึมเอ่ยถามว่า “ทุกคน ข้าตัดสินใจแล้วว่าจะช่วยคุณชายหลินสักครั้ง พวกเจ้าคิดเห็นเช่นไร”

คนใหญ่คนโตใน ณ ที่นั้นต่างพยักหน้า ไม่ลังเลสักนิด!

ท่าทีต่างจากในตอนแรกโดยสิ้นเชิงแล้ว

เพราะหลินสวินไม่เพียงช่วยพวกเขาเผ่าทอเมฆาคลี่คลายวิกฤตใหญ่ครั้งหนึ่ง ยังนำกล่องสำริดที่หายไปหลายปีกลับมาให้พวกเขาอีกด้วย!

ไม่ว่าจะเป็นเพื่อตอบแทนบุญคุณหรือเหตุผลอื่นใด พวกเขาก็ไม่อาจปฏิเสธได้แล้ว

หลันชิงเหินยิ้มพึงพอใจแล้วพูดว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ วันนี้ข้าก็จะไปขอความช่วยเหลือจากมหาราชครู มีเขาออกหน้าด้วยตัวเอง เชื่อว่าต้องช่วยคุณชายหลินหาเส้นทางปลอดภัยไปสู่โลกชั้นล่างได้แน่”

หลินสวินลุกขึ้นกุมมือคารวะพลางเอ่ยว่า “ขอบคุณผู้อาวุโสทุกท่านที่ช่วยให้ข้าสมปรารถนา”

ด้วยพลังปราณของเขาในตอนนี้ก็ทัดเทียมกับทุกคนที่อยู่ในโถงได้ แต่ตัวมีฐานะเป็นสหายของไฉไฉ่ หลินสวินจึงไม่วางโตในเวลาเช่นนี้

“คุณชายหลินไม่ต้องเกรงใจ ช่วยเหลือเจ้าได้ก็เป็นเกียรติแก่เผ่าทอเมฆาของข้า”

หลันชิงเหินยิ้มเอ่ย

ทันใดนั้นบรรยากาศในโถงใหญ่ก็เปลี่ยนเป็นสุขสันต์เกลียวกลมอีกครั้ง

คืนวันนั้นหลันชิงเหินก็นำข่าวดีมาให้ มหาราชครูเผ่าทอเมฆารับปากว่าจะช่วยเหลือแล้ว

ทว่าจะสืบหาพิกัดที่แปรเปลี่ยนจากกฎระเบียบห้วงอากาศ จำเป็นต้องระมัดระวังและใช้เวลาเตรียมการมากยิ่งนัก มหาราชครูตัดสินใจว่าจะลงมือในอีกเจ็ดวันให้หลัง

หลินสวินไม่ได้คัดค้านเรื่องนี้

……

สามวันผ่านไป

ยานสำเภาสีม่วงลำหนึ่งแล่นทะลุเวิ้งฟ้า โรยตัวลงมายังอาณาเขตของเผ่าทอเมฆา

ทันใดนั้นเยี่ยเฉินที่แต่งกายด้วงชุดสีม่วง เอวคาดเข็มขัดหยกขาว หัวสวมเกี้ยวประดับขนนก ท่วงท่าสง่างามเดินลงมาจากยานสำเภา

“นายน้อย ที่นี่ก็คือเผ่าทอเมฆา”

ข้างๆ เยี่ยเฟยเหิงเอ่ยเสียงนอบน้อม

เยี่ยเฉินสองมือไพล่หลัง ประเมินโดยรอบพลางเปรยว่า “ท่านลุงหก แม้คราวนี้ท่านจะทำผิดไป แต่ในเมื่อหลินสวินเลือกให้อภัยท่าน ข้าก็คร้านจะไปเอาความกับท่านอีก แต่ว่า…”

เยี่ยเฟยเหิงพลันรู้สึกบีบคั้นในใจ

“เรื่องของเผ่ากระจิบลำนำทอง ท่านลุงหกคงรู้ว่าควรทำเช่นไรกระมัง”

เยี่ยเฉินเอ่ย

เยี่ยเฟยเหิงพยักหน้าไม่หยุด “ข้าทราบแล้ว!”

อิงตามศักดิ์ เยี่ยเฉินยังต้องเรียกเยี่ยเฟยเหิงว่าลุง แต่ในตระกูลเยี่ยแห่งเขาจื่อเวย เยี่ยเฉินเป็นผู้สืบทอดตระกูลเพียงผู้เดียว ฐานะย่อมต่างกัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยี่ยเฉินในตอนนี้ยังเป็นมกุฎราชันที่มีปราณระดับอมตะเคราะห์ด่านเจ็ดผู้หนึ่ง ได้รับความสำคัญอย่างยิ่งยวดจากเหล่าอริยะตระกูลเยี่ย ถูกมองว่าเป็นเสาหลักของตระกูลเยี่ยในภายภาคหน้า

ในสถานการณ์เช่นนี้ เยี่ยเฟยเหิงก็ไม่กล้าเอาฐานะผู้อาวุโสมาอวดอ้างอยู่แล้ว!

“ไป ไปพบหลินสวินเสียหน่อย!”

ขณะที่พูด เยี่ยเฉินไม่มองเยี่ยเฟยเหิงแม้แต่ครั้งเดียว สาวเท้าเดินไปยังเผ่าทอเมฆา

……

“ขนาดนายน้อยของตระกูลเยี่ยยังมาด้วยตัวเอง!”

“คุณชายหลินคนนั้นมีความสามารถจริงๆ”

“เบาๆ หน่อย”

วันนี้เผ่าทอเมฆาได้ต้อนรับแขกพิเศษอย่างเยี่ยเฉิน ทำให้ทุกคนในเผ่าอื้ออึงกันไปหมด หลายคนยังวิพากษ์วิจารณ์อย่างตื่นเต้นดีใจอยู่

ตระกูลเยี่ยแห่งเขาจื่อเวย ตระกูลนี้เป็นถึงยักษ์ใหญ่อันดับต้นๆ ของแดนดาราอุดร ส่วนเยี่ยเฉินมีฐานะเป็นผู้สืบทอดตระกูลเยี่ยรุ่นต่อไป ด้วยฐานะเช่นนั้นย่อมไม่ใช่เรื่องที่จะดูเบาได้

ทว่าทุกคนต่างรู้ดีว่าที่เยี่ยเฉินมาคราวนี้ไม่ได้เป็นเพราะพวกเขาเผ่าทอเมฆามีหน้ามีตา แต่มาเพื่อพบหลินสวิน

ในเวลานี้เยี่ยเฉินพูดขึ้นด้วยสีหน้าไม่พอใจว่า “หลินสวิน ในเมื่อเจ้ามาที่แดนดาราอุดรแล้ว เหตุใดถึงไม่บอกข้าสักคำ”

หลินสวินเอ่ยอย่างประหลาดใจ “เจ้ายังยกพลมากล่าวโทษจริงหรือนี่”

เยี่ยเฉินกล่าวอย่างกระหยิ่มยิ้มย่องว่า “ข้าจะกล้าไปเอาความกับเทพมารหลินอย่างเจ้าได้อย่างไรกัน ท่านปู่สามของข้า อ้อ ก็คือตาแก่เยี่ยจิ่วเซียวคนนั้นให้ข้าเอาข้อความมาบอกเจ้าด้วยตัวเองว่า ไม่เกินสิบปี เกรงว่าการต่อสู้แห่งเก้าดินแดนจะเปิดฉากขึ้น เจ้าต้องเข้าร่วมด้วย”

หลินสวินร้องอืมครั้งหนึ่ง เขาย่อมเข้าร่วมแน่นอน เพียงแต่เขากลับประหลาดใจอยู่บ้าง เรื่องแบบนี้ยังต้องให้เยี่ยเฉินมาส่งข่าวเองเป็นพิเศษด้วยหรือ

เยี่ยเฉินอธิบาย “กึ่งจักรพรรดิไป๋อวี้จิงเอ่ยปากมาแล้วว่า ถ้าเจ้าไม่เข้าร่วม เขาจะไปปลิดชีพเจ้าเป็นคนแรก เรื่องนี้เจ้าจะเอามาล้อเล่นไม่ได้ ต้องปฏิบัติอย่างจริงจัง”

หลินสวินก็เคยได้ยินท่านเมี่ยวเสวียนพูดถึงไป๋อวี้จิง ได้รู้เรื่องราวของคนผู้นี้มาบ้าง

เขาย่อมไม่เห็นว่าคำพูดของอีกฝ่ายเป็นเรื่องล้อเล่น แต่หากพูดว่าหวั่นกลัวหรือครั่นคร้าม กลับไม่เท่าไร

การสนทนาต่อมาก็ผ่อนคลายชื่นมื่นขึ้นมาก

ที่เยี่ยเฉินมาคราวนี้แค่คิดจะมาพบหลินสวินเสียหน่อยเท่านั้น ไม่ได้มีเป้าหมายอื่น

และเมื่อได้รู้ว่าหลินสวินกำลังจะกลับไปโลกชั้นล่าง เขาก็ลูบมือลูบหมัดอยากลอง คิดจะตามไปด้วย ไอลีนโนเวล

ทว่ากลับถูกหลินสวินปฏิเสธอย่างเด็ดขาดว่า “ถ้าสัตว์ประหลาดเฒ่าในตระกูลเยี่ยของเจ้าเหล่านั้นรู้ว่าข้าลักตัวแก้วตาดวงใจตระกูลเยี่ยอย่างเจ้าไปแล้ว คงโกรธข้าเป็นฟืนเป็นไฟแน่”

เยี่ยเฉินถอนหายใจระลอกหนึ่ง “นายน้อยตระกูลเยี่ยบ้าบออะไรกัน ข้าไม่ได้วิเศษวิโสขนาดนั้นเสียหน่อย แต่ถึงอย่างไรข้าก็แซ่เยี่ยอยู่ดี คงทำอะไรบุ่มบ่ามตามอำเภอใจไม่ได้”

“ดื่มเหล้า”

หลินสวินยกจอกเหล้าขึ้น

“มาๆๆ ไม่สู้เมามายสักครั้งในโลกา”

เยี่ยเฉินร้องเอ็ดตะโรขึ้น

เช้าวันรุ่งขึ้น เยี่ยเฉินก็พาเยี่ยเฟยเหิงจากไป

ก่อนไปได้พูดว่า หวังว่าในการต่อสู้แห่งเก้าดินแดนจะได้พบกับหลินสวินอีกครั้ง

……

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์