Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1370

“หนีสิ!”

หลังจากความเงียบงันแสนสั้น กองทัพคนเถื่อนวารีก็หลบหนีอย่างแตกตื่น ตกใจกลัวจนหัวหดไปโดยสิ้นเชิง แต่ละคนอยากจะให้มีขางอกขึ้นมาเพิ่มสักสองขาเต็มแก่

ชั่วขณะเดียวราชันเถื่อนสามคนต่างถูกสังหารอย่างง่ายดาย นี่ช่างเหมือนฝันร้ายอันน่ากลัว!

ขอเพียงสมองปกติเสียหน่อย ก็จะรู้ว่าแค่มีชายหนุ่มที่จู่ๆ ตกลงมาจากฟ้าคนนั้นอยู่ ศึกใหญ่ครั้งนี้ก็ไม่มีความจำเป็นต้องดำเนินต่อไปแล้ว

นี่ก็คือประโยชน์ของระดับราชัน คนเดียวเท่ากับกำลังนับล้าน!

และหลินสวินก็ไม่ได้เป็นแค่ระดับราชันธรรมดา

“ยังอึ้งอะไรอยู่ ฆ่า!”

จ่างซุนสยงตะคอกลั่น จิตใจฮึกเหิม

ศึกใหญ่ที่ดำเนินมากว่าเดือนครั้งหนึ่ง พอมาถึงวันนี้ฝั่งกองทัพจักรวรรดิเฉียดใกล้อันตราย แนวป้องกันกำลังจะถูกตีแตกแล้ว

แต่ในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานนี้เอง กลับมีชายหนุ่มคนหนึ่งตกลงมาจากฟากฟ้าดั่งทวยเทพ ใช้พลังเพียงคนเดียวก็พลิกแพ้เป็นชนะได้อย่างง่ายดาย!

นี่จะไม่ทำให้จ่างซุนสยงตื่นเต้นได้อย่างไร

“ฆ่า!”

“ฆ่าไอ้สวะพ่อมดเถื่อนพวกนั้น!”

ฝั่งกองทัพจักรวรรดิไล่กวดพวกศัตรูที่ถอยหนี เปิดฉากโจมตีกลับ เสียงเป่าเขาสัตว์ก้องสะท้อนอยู่กลางฟ้าดิน

พลทหารจักรวรรดิทุกคนต่างกำลังใจเต็มเปี่ยม!

“คุณชาย ขอคุยด้วยได้ไหม”

สายตาจ่างซุนสยงมองที่หลินสวิน เจือไปด้วยความเคารพจากภายในจิตใจ

ด้วยประสบการณ์และสายตาของเขา ปราดเดียวก็ดูออกว่าหลินสวินย่อมไม่ใช่สัตว์ประหลาดเฒ่าที่มีชีวิตมานานปี

และเพราะเป็นเช่นนี้ถึงทำให้ในใจเขายิ่งสะท้าน ลอบพึมพำในใจว่าหรือนี่จะเป็นสัตว์ประหลาดน้อยที่สำนักศึกษามฤคมรกตแห่งจักรวรรดิบ่มเพาะออกมาคนหนึ่ง

พอฟ้าดินแปรผันฉับพลัน หลายปีมานี้ในจักรวรรดิก็มีคนหนุ่มสาวที่โดดเด่นสะดุดตาจำนวนมากปรากฏตัว ผงาดขึ้นอย่างก้าวกระโดด เหยียบย่างสู่ระดับราชัน ชื่อเสียงสะท้านใต้หล้าไปด้วย

ในหมู่คนหนุ่มสาวเหล่านี้ กว่าครึ่งมาจากสำนักศึกษามฤคมรกต!

ดังนั้นจ่างซุนสยงถึงได้สันนิษฐานเช่นนี้

หลินสวินพยักหน้า ออกจากสนามรบแห่งนี้ไปกับจ่างซุนสยง

เขาเพิ่งกลับมาที่โลกชั้นล่าง จึงมีเรื่องที่จำเป็นต้องรู้มากมาย ถึงอย่างไรก็ไม่ได้กลับมาสิบกว่าปี โลกชั้นล่างแห่งนี้ไม่รู้ว่าเปลี่ยนไปเป็นเช่นไรแล้ว

……

งานเลี้ยงจัดขึ้นในกระโจมหลังหนึ่ง หลินสวินถูกเชิญให้นั่งในตำแหน่งสูงสุด โดยมีจ่างซุนสยงนั่งเคียงข้าง

บนที่นั่งสองฝั่งล้วนเป็นคนใหญ่คนโตในกองทัพแนวป้องกันเหนือสุดของจักรวรรดิ

“ขอเรียนถามว่าคุณชายมีชื่อเสียงเรียงนามว่ากระไร”

จ่างซุนสยงดื่มคารวะหลินสวินจอกหนึ่ง ตอนนี้ถึงเอ่ยถาม

“เรียกข้าว่าหลินสือเอ้อร์ก็ได้”

หลินสวินเอ่ย นี่เป็นรหัสแทนตัวที่เขาใช้สมัยฝึกที่ค่ายกระหายเลือด ตอนอยู่ในสมรภูมิกระหายเลือดเขาก็ใช้ชื่อนี้เช่นกัน

‘หลินสือเอ้อร์…’

จ่างซุนสยงทวนซ้ำเงียบๆ ในใจ ชั่วพริบตาก็นึกถึงค่ายกระหายเลือด แต่ไม่ว่าคิดจนหัวแตกอย่างไรก็คิดไม่ออก ว่าในค่ายกระหายเลือดไปมีชายหนุ่มเย้ยฟ้าเช่นนี้ปรากฏตัวขึ้นตอนไหน

หลินสวินไม่ได้คิดมากขนาดนั้น เอ่ยว่า “ท่านแม่ทัพ หลายปีมานี้ข้าผู้แซ่หลินรอนแรมในดินแดนรกร้างโบราณมาโดยตลอด และเพิ่งกลับมาวันนี้ ยังไม่รู้ว่าสถานการณ์ในจักรวรรดิตอนนี้เป็นอย่างไร ขอท่านชี้แนะด้วย”

รอนแรมในดินแดนรกร้างโบราณ!

จ่างซุนสยงกับทุกคนที่อยู่ในงานเลี้ยงสะท้านใจอย่างรุนแรง ตอนนี้ถึงรับรู้ได้ทันทีว่าพวกเขาต่างทายผิดหมดแล้ว ชายหนุ่มตรงหน้านี้ถึงกับกลับมาจากดินแดนรกร้างโบราณ!

“มิน่าคุณชายหลินถึงได้แข็งแกร่งปานนี้ เคยไปฝึกปราณที่โลกชั้นบนหรือนี่” จ่างซุนซยงเอ่ยเสียงค่อย

สำหรับคนใหญ่คนโตในจักรวรรดิเหล่านั้นแล้ว ย่อมรู้ถึงการมีอยู่ของดินแดนรกร้างโบราณไม่มากก็น้อย ที่นั่นถูกมองว่าเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ในการฝึกปราณ เป็นสถานที่ที่ผู้ฝึกปราณทุกคนเฝ้าฝันจะไปเยือน

และหลินสวินกลับมาจากดินแดนรกร้างโบราณ ทำให้สายตาที่ทุกคนมองมาที่เขาไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว

พวกเขาต่างรู้ดีว่าผู้ที่สามารถไปฝึกปราณที่ดินแดนรกร้างโบราณจากโลกชั้นล่างได้ แทบไม่มีใครธรรมดาสักคน!

ในการพูดคุยต่อมา หลินสวินก็พอจะเข้าใจเรื่องราวในโลกชั้นล่างบ้างแล้ว

อย่างเช่นผลกระทบที่มีต่อจักรวรรดิจากการเปลี่ยนแปลงของฟ้าดิน

อย่างเช่นความวุ่นวายโกลาหลที่สัตว์อสูรมารปีศาจก่อขึ้นอย่างเหิมเกริมในอาณาเขตจักรวรรดิ

อย่างเช่นสนามรบรอบด้านที่พ่อมดเถื่อนเก้าสายชักนำให้เกิดขึ้นได้กลายเป็นไฟลามทุ่ง แผ่ขยายไปตามชายแดนใหญ่แต่ละแห่งในจักรวรรดิแล้ว

…พอถึงท้ายที่สุด ก็ทำให้หลินสวินลอบถอนใจในใจอย่างห้ามไม่ได้ หลังจากไปสิบกว่าปี โลกชั้นล่างก็แตกต่างไปจากเดิมเสียแล้ว

อย่างน้อยตอนที่เขาจากไป ภายในจักรวรรดิก็ยังสงบสุข แต่ตอนนี้กลับมีทั้งศึกในศึกนอก ไพร่พลพสกนิกรประสบเภทภัยไม่ว่างเว้น!

ทั้งหมดนี้ว่ากันถึงแก่นแล้วล้วนเป็นเพราะ ‘ฟ้าดินแปรผันฉับพลัน’

ตั้งแต่ตอนออกจากดินแดนรกร้างโบราณ หลินสวินก็เคยได้ยินเรื่องฟ้าดินแปรผันฉับพลัน กระทั่งรู้ว่า ‘ฟ้าดินแปรผันฉับพลัน’ ที่ว่านี้ แท้จริงแล้วก็คือตัวแปรที่เกิดขึ้นหลังจากมหายุคมาเยือน

เพียงแต่ต่างจากดินแดนรกร้างโบราณ ในมหายุคครั้งนี้จักรวรรดิตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่อาจมองในแง่ดีได้ ภายในมีสัตว์อสูรมารปีศาจเหิมเกริม ภายนอกมีพ่อมดเถื่อนเก้าสายรุกรานชายแดน เรียกได้ว่าอยู่กลางพายุฝน โกลาหลไม่สงบ

“ท่านแม่ทัพ ข้าลาล่ะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์