เงาเลือดพันจั้งถูกเพลิงปทุมเผาจนสลายไปสิ้น!
และไกลออกไป ธงเล็กสีเลือดสิบแปดธงที่อยู่ในการควบคุมของราชันอสูรมารสิบแปดตนก็แหลกละเอียดไปพร้อมกัน!
ตูม!
กลางฟ้าดินแสงพุทธไพศาล ไอกระหายเลือดชั่วร้ายถูกชะล้างออกไปจนหมด
“นี่เป็นไปไม่ได้!”
เมื่อเห็นภาพนี้เข้า ราชันอินทรีอสนีเขียวก็ตื่นตระหนกจนลูกตาแทบหลุดจากเบ้า ร้องเสียงหลงดังลั่น
ค่ายกลเงาโลหิตนรกเทพเป็นกระบวนค่ายกลใหญ่น่ากลัวที่สามารถสังหารผู้แข็งแกร่งระดับอมตะเคราะห์ด่านแปดได้ มีที่มาที่ไปน่าหวาดหวั่นถึงที่สุด
แต่ตอนนี้การโจมตีเดียวก็ตีพ่ายไป!
“ชายหนุ่มคนนั้นเป็นใคร”
ไม่เพียงแค่ราชันอินทรีอสนีเขียว ตอนนี้ราชันอสูรมารสิบแปดตนนั้นกับเหล่ากองทัพสัตว์อสูรมารที่อยู่ไกลออกไปต่างหวาดผวา จิตใจสั่นระรัว
เดิมทีด้วยการตีเมืองหมอกอำพรางแตก ทั้งมณฑลซีหนานแห่งจักรวรรดิก็จะถูกยึดครองโดยสมบูรณ์ ถูกพวกเขากองทัพสัตว์อสูรมารยึดครองอาณาเขต
หนำซ้ำก่อนหน้านี้พวกเขาใกล้จะทำสำเร็จแล้ว!
แต่ตอนนี้ เพียงเพราะการปรากฏตัวขึ้นของชายหนุ่มคนหนึ่งกลับทำให้สถานการณ์พลิกผันทันที
การโจมตีแรก ฟ้าดินรัศมีสามพันจั้งนองเลือดดั่งภาพวาด หมื่นอสูรวอดวาย
การโจมตีที่สอง เพลิงโทสะพุทธปทุมมาเยือนโลกา ส่องแสงยิ่งใหญ่ ทำลายกระบวนค่ายกลลงในคราวเดียว!
สถานการณ์พลิกผันจากจุดนี้!
ตอนนี้เหนือสนามรบกว้างใหญ่ไพศาลนั้นมีเพียงแสงพุทธสว่างไสว กลิ่นอายไพศาลธำรงชั่วนิรันดร์!
เหนือหอประตูเมือง พวกซ่งจวินกุยต่างอึ้งงันอยู่เช่นนั้น ในใจตื่นเต้นยิ่งนัก
อะไรคือทวยเทพ
พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ตอนนี้ในสายตาของพวกเขา ชายหนุ่มที่ยืนลำพังเบื้องหน้าหอประตูเมืองคนนั้นก็เป็นดั่งทวยเทพ!
ใกล้กับกำแพงเมือง พลทหารจักรวรรดิต่างสั่นสะท้าน
“ภัยพิบัติอสูรมารครั้งนี้… ควรสิ้นสุดลงแล้ว”
ดวงตาดำของหลินสวินลุ่มลึก ภาพที่เห็นระหว่างทางก่อนหน้านี้ภาพแล้วภาพเล่าอุบัติขึ้นในสมอง
ราษฎรในจักรวรรดิที่หลบหนีอย่างลนลานเหล่านั้น พลทหารจักรวรรดิที่เสียสละยอมตายเหล่านั้น เมืองใหญ่โตที่เหมือนถูกทิ้งร้างนั้น…
หลินสวินโกรธเข้าจริงๆ แล้ว
พอเสียงพูดเงียบลง เงาร่างของเขาก็ทะลวงอากาศขึ้นไป เบื้องหลังมีเจินหลงท่องไปเหนือฟ้าดารา ชูคอส่งเสียงคำราม แผ่พลานุภาพน่าหวาดหวั่นข่มสรรพชีวิต
สำหรับสิ่งมีชีวิตอย่างสัตว์อสูรมารแล้ว มังกรเจินหลงก็เป็นดั่งนักล่าที่อยู่ปลายยอด เจือกลิ่นอายควบคุมสรรพสัตว์ ผงาดผยองเหนือเหล่าอสูรมารแต่กำเนิด
และตอนนี้เมื่อออกเคลื่อนไหวไปกับหลินสวิน เหนือสนามรบอันใหญ่โต กองทัพอสูรมารจำนวนมหาศาลต่างรู้สึกถึงแรงกดดันจนหายใจไม่ออก
ในสายตาของพวกเขา หลินสวินที่โผล่มากลางอากาศไม่ใช่คนสักนิด แต่เป็นมังกรเจินหลงที่ทำได้ทุกอย่างตัวหนึ่ง เคลื่อนออกมาจากฟ้าดาราในวัฏจักรแล้วลงมาเยือนโลก!
ตูม!
ฟ้าดินถูกกลิ่นอายเจินหลงอันน่าหวาดหวั่นปกคลุม สุริยันจันทราอับแสง ดินทรายปลิวว่อน
สัตว์อสูรมารมากมายเพียงรู้สึกว่าสติแตกกระเจิง ส่งเสียงร้องโหยหวน กายอ่อนยวบลงไปตัวสั่นงันงกกับพื้น ปลุกความคิดจะต้านทานขึ้นมาไม่ได้สักนิด
ต่อให้มีพลังปราณแกร่งกล้าเหมือนราชันอินทรีอสนีเขียว ขณะนี้ยังสูดหายใจเย็นอย่างเลี่ยงไม่ได้ ตามข่าวที่เขารู้มา ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าในจักรวรรดิตอนนี้ถึงกับยังมีพวกร้ายกาจไร้เทียมทานเช่นนี้คนหนึ่ง
“เร็ว! ขวางเขาไว้!”
ราชันอินทรีอสนีเขียวคำรามคลั่ง
ไกลออกไปราชันอสูรมารสิบแปดตนก็รับรู้ได้ว่าสถานการณ์ไม่สู้ดี จึงสำแดงการโจมตีโดยไม่ลังเล แต่ละตนต่างพลังปราณน่ากลัวคับฟ้า
ใครก็รู้ดีว่าหากหลินสวินโจมตีเช่นนี้ต่อไป กองทัพสัตว์อสูรมารต้องแพ้แน่!
ตอนนี้แม้แต่ราชันอินทรีอสนีเขียวยังเริ่มสู้สุดชีวิต มันแปลงกายเป็นสายฟ้าไหววูบสีเขียวเจิดจ้าสายหนึ่งฉีกทึ้งห้วงอากาศ ยื่นกรงเล็บยักษ์ออกไปลอบโจมตีหลินสวินจากระยะไกล
ฉึบ!
ก็เห็นว่าหลินสวินไม่หลบไม่หนี ยื่นแขนออกมาข้างหนึ่ง ฝ่ามือมหึมามือหนึ่งก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ บังฟ้าเร้นตะวัน
ไม่ทันไรร่างใหญ่ยักษ์ของราชันอินทรีอสนีเขียวก็ถูกมือใหญ่จับไว้อย่างง่ายดายเหมือนคว้าใบไม้ร่วงสักใบ
“แย่แล้ว!”
ราชันอินทรีอสนีเขียววิญญาณแทบหลุดจากร่าง ตอนนี้มันถึงรู้ได้ทันทีว่าตนผิดตั้งแต่เริ่มแล้ว ความน่ากลัวในศักยภาพของชายหนุ่มผู้นั้น ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะเทียบได้เลย!
“โง่เง่า”
หลินสวินสีหน้าเย็นชา
เขาออกแรงที่นิ้วมือ
ปึง!
ตอนนี้ผู้ทรงพลังระดับอมตะเคราะห์ด่านสี่อย่างราชันอินทรีเขียวผู้นี้กลับเหมือนมดตัวหนึ่ง ถูกมือใหญ่บี้ตาย ฝนเลือดเทลงมาเหมือนน้ำตก
ก่อนตายมันยังไม่อาจเชื่อได้ ว่าแม้แต่ดิ้นรนต้านทานตนยังทำไม่ได้ได้อย่างไร!
“อะไรน่ะ”
เหนือหอประตูเมือง ผู้แข็งแกร่งแห่งจักรวรรดิทุกคนต่างตกตะลึงอ้าปากค้าง
สำหรับพวกเขาแล้ว ราชันอินทรีอสนีเขียวเรียกได้ว่าเป็นผู้ที่น่ากลัวไม่มีที่สิ้นสุดไปแล้ว พลังแข็งแกร่งจนไม่อาจจินตนาการได้
ทว่าตอนนี้ด้วยมือหลินสวิน เพียงชั่วพลิกฝ่ามือก็ถูกสังหาร!
แต่พวกเขาไม่รู้ว่า ถ้าไม่ห่วงว่าจะทำลายเมืองและภูผาธาราที่อยู่ใกล้เคียงไป หากลงมือเต็มกำลังด้วยพลังต่อสู้ของหลินสวิน ก็ไม่ต้องวุ่นวายขนาดนี้สักนิด
“ถอยเร็ว!”
ไกลออกไปพอได้เห็นสภาพน่าอนาถของราชันอินทรีอสนีเขียว ราชันอสูรมารสิบแปดตนต่างมือเท้าเย็นเฉียบ จะไม่รู้ได้อย่างไรว่าหากการต่อสู้นี้ดำเนินต่อไปอีกก็ไม่มีอะไรให้ลุ้นแล้ว
“หนี!”
“หนีสิ!”
กองทัพสัตว์อสูรมารพังทลายโดยสมบูรณ์แล้ว
คนผู้เดียวราวกับมังกรเจินหลงมาเยือนโลก กำราบสนามรบทั้งแถบ ท่วงท่าไร้ศัตรูใดต้านทานได้เช่นนั้น สามารถทำให้ไม่ว่าอสูรมารตนใดก็สติกระเจิงได้
เจ้าไม่เห็นหรอกหรือว่าราชันอินทรีอสนีเขียวถูกสังหารในชั่วพลิกฝ่ามือ
“กำราบ!”
ทันใดนั้นหลินสวินเปล่งเสียงธรรม ยื่นมือกดลงไป ประทับปี้อั้นสิบแปดอันก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ แต่ละอันราวกับภูเขาเทพร่วงหล่นลงมาจากสวรรค์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์