Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1389

หลังจากศึกใหญ่จบลง พวกหลินสวินก็ได้รับการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ที่สุดจากซ่งจวินกุย

ทว่าหลินสวินไม่คิดจะร่ำไร เขากังวลว่าหลังจากราชันเกราะทองได้ข่าวจะไปซ่อนตัว ถ้าเป็นเช่นนั้นจะไปเสาะหาก็คงยุ่งยาก

สุดท้ายหลินสวินตัดสินใจว่าจะให้หลินเสวี่ยเฟิงนำเหล่าลูกหลานตระกูลหลินสิบคนหยุดอยู่ที่นี่เพื่อเข้าร่วมสังหารอสูรมารกับพลทหารจักรวรรดิ

ภัยพิบัติสัตว์อสูรมารกระจายไปทั่วพื้นที่ต่างๆ ของมณฑลซีหนาน แม้ตอนนี้จะได้รับชัยชนะยิ่งใหญ่ แต่ต่อไปยังต้องต่อสู้อีกมาก

ทว่าเรื่องเหล่านี้เพียงมอบให้กองทัพจักรวรรดิจัดการก็พอแล้ว

“ข้าต้องการรู้ข่าวเกี่ยวกับราชันเกราะทองผู้นี้สักหน่อย”

หลินสวินไปหาซ่งจวินกุยเพื่อสอบถาม

“ราชันอสูรมารตนนี้ยึดครองส่วนลึกของเทือกเขาวิญญาณหยินนอกเมืองดาราโรยมาโดยตลอด…”

ซ่งจวินกุยบอกข้อมูลที่รู้ให้หลินสวินฟังทีละเรื่อง แต่ต่างเป็นข้อมูลที่ไม่สำคัญ

ฐานะ ประวัติความเป็นมา และศักยภาพของราชันเกราะทอง แม้แต่ซ่งจวินกุยก็ไม่รู้

สาเหตุก็เพราะหลายปีมานี้ราชันเกราะทองผู้นี้ปรากฏตัวน้อยครั้งนัก ควบคุมกองทัพสัตว์อสูรมารอย่างลับๆ มาโดยตลอด

“จริงสิ ก่อนหน้านี้ไม่นานราชันเกราะทองผู้นี้เคยคุยโวว่าหากคุณชายหลินกล้ามาที่มณฑลซีหนาน เขาจะ…”

พอพูดจบซ่งจวินกุยก็ลังเลไปครู่หนึ่ง

“จะอะไร”

หลินสวินถาม

“รับท่านเป็นข้ารับใช้”

ซ่งจวินกุยกัดฟันครั้งหนึ่งแล้วพูดความจริงออกไป

หลินสวินอึ้งไป ทันใดนั้นก็ยิ้มขึ้นอย่างอดไม่ได้ พยักหน้าเอ่ยว่า “ข้ารู้แล้ว ข้าล่ะอยากเห็นจริงๆ ว่าเดรัจฉานนี่มีความสามารถอะไรถึงได้กล้าคุยโวแบบนี้”

รังสีเย็นเยียบไหวเคลื่อนในดวงตาดำคู่นั้นของเขา

ผ่านไปสองชั่วยาม

ตอนนี้หลินสวินปรากฏตัวอยู่นอกเมืองดาราโรย

ขณะนี้เป็นเวลาเที่ยงวันพอดี แต่ฟ้าดินกลับไม่มีชีวิตชีวาสักนิด เมืองดาราโรยที่ใหญ่โตกลายเป็นซากปรักหักพัง มองเห็นกระดูกแห้งและรอยเลือดได้ทุกที่

นอกเมืองหลายร้อยลี้ ทิวเขาแนวหนึ่งยาวต่อเนื่องไปเหมือนไร้สิ้นสุด เมฆทะมึนโอบล้อม

ตามคำพูดของซ่งจวินกุย เขาวิญญาณหยินปรากฏขึ้นบนโลกหลังฟ้าดินแปรผันฉับพลัน ราชันเกราะทองก็เป็นราชันอสูรมารผู้แข็งแกร่งตนหนึ่งที่ผงาดขึ้นจากที่นี่

หลายปีมานี้พร้อมๆ กับที่ภัยพิบัติสัตว์อสูรมารเกิดขึ้นไม่ว่างเว้น เขาวิญญาณหยินแห่งนี้ก็เหมือนกลายเป็นค่ายใหญ่ของสัตว์อสูรมารเหล่านั้น

กองทัพจักรวรรดิเคยเข้าโจมตีที่นี่หลายครั้ง แต่ล้วนจบลงด้วยความล้มเหลว ไม่อาจเหยียบย่างเข้าไปในเขาวิญญาณหยินแห่งนั้นสักก้าว!

ถึงกับยังมีผู้แข็งแกร่งระดับราชันของจักรวรรดิหลายคนสิ้นชีพที่นี่

จากจุดนี้ก็รับรู้ได้ถึงความน่ากลัวของเขาวิญญาณหยินแล้ว

‘ถ้าสามารถฆ่าสัตว์อสูรมารที่นี่ให้ตายพร้อมกันในคราวเดียวได้ คงเพียงพอจะคลี่คลายภัยพิบัติอสูรมารของมณฑลซีหนานได้แล้วกระมัง…’

หลินสวินลุกขึ้นยืน ก้าวย่างไปในห้วงอากาศ เคลื่อนไปยังเขาวิญญาณหยินที่อยู่ไกลออกไป

“หืม?”

“ถึงกับมีมนุษย์เข้าประชิด!”

“ฆ่า!”

เพียงแต่ยังไม่ทันที่หลินสวินจะเข้าใกล้ ในพื้นที่ใกล้เคียงนั้นก็มีกำลังพลสัตว์อสูรมารกองหนึ่งพุ่งออกมา บางตนยังกลายร่างเป็นคนกระโจนมาทางนี้อย่างดุร้ายน่ากลัว

ที่นี่เป็นอาณาเขตของจักรวรรดิ แต่ตอนนี้สัตว์อสูรมารพวกนี้กลับอ้างตัวเป็นราชัน ทำตัวเหมือนเป็นเจ้าของที่!

ในจักรวรรดิสัตว์อสูรมารที่ทัดเทียมผู้แข็งแกร่งระดับหยั่งสัจจะเป็นศัตรูอันตรายที่รับมือได้ยากถึงที่สุดไปแล้ว แต่สำหรับหลินสวินก็ไม่ได้เก่งกาจเลย

ปึงๆๆ!

การโจมตีของพวกมันมาถึงครึ่งทางก็ถูกกลิ่นอายบนตัวหลินสวินบดขยี้ไป

“แย่แล้ว!”

สัตว์อสูรมารเหล่านั้นตกตะลึงยกใหญ่ รับรู้ได้ว่าพบเข้ากับศัตรูแข็งแกร่ง พอกำลังจะตอบสนองกลับไป ก็เพียงรู้สึกว่าอานุภาพน่าหวาดหวั่นไร้รูปสายหนึ่งเข้าปกคลุม

ครู่ต่อมาร่างของพวกมันก็สลายกลายเป็นฝุ่นผง!

หลินสวินเดินเยื้องย่างไปในห้วงอากาศโดยไม่ปิดบังสักนิด เข้าประชิดเขาวิญญาณหยินที่อยู่ไกลออกไปเช่นนี้

“เร็วเข้า! มีศัตรูจู่โจม!”

“กล้าจังนะ เจ้าพวกไม่รู้ดีชั่วคนไหนกล้าแจ้นมาที่อาณาเขตของพวกเรา”

ชั่วขณะหนึ่งในบริเวณใกล้เคียงสัตว์อสูรมารที่จำศีลอยู่ในนั้นต่างตื่นตระหนก พากันพุ่งตัวออกมา

ทอดสายตามองไปก็เห็นว่าไออสูรมารถาโถม เงาร่างไหววูบ มีแต่เงาร่างของสัตว์อสูรมารไปทั่วทุกแห่งหน

หลินสวินประหลาดใจไปครู่หนึ่งอย่างอดไม่ได้ แต่ก็ยิ่งทำให้เขาตั้งใจแน่วแน่ว่าจะทำลายที่นี่!

ครืน!

หลินสวินสะบัดแขนเสื้อครั้งหนึ่ง พลังแผ่ออกมาเหมือนพายุคลั่งม้วนตลบโลกา ทุกที่ที่พัดผ่าน หินผาระเบิดแหลก ต้นไม้ใบหญ้ากลายเป็นฝุ่น

ตลอดทางสัตว์อสูรมารที่กระโจนเข้ามาต่างถูกฉีกทึ้งเหมือนเศษกระดาษ แปรสภาพเป็นฝนเลือดสาดกระเซ็นเต็มฟ้า

“นี่… จะน่ากลัวเกินไปแล้ว”

สัตว์อสูรมารเหล่านั้นร้องเสียงแหลม ตัวสั่นงันงกไม่หยุด

“เร็ว เข้าไปพร้อมกัน จะต้องสกัดเขาไว้ให้ได้!”

ในเขาวิญญาณหยินที่อยู่ไกลออกไปมีเสียงตะคอกดังราวอสนีบาตระลอกแล้วระลอกเล่าดังขึ้น

ทันใดนั้นภาพอัศจรรย์ภาพหนึ่งปรากฏสู่สายตาหลินสวิน ก็เห็นว่าภายในเขาวิญญาณหยินมีนกปีศาจสัตว์สี่เท้าไหลหลั่งออกมาภายนอกอย่างสะเทือนเลื่อนลั่นเหมือนเมฆดำมืดฟ้ามัวดิน

แน่นขนัดเบียดเสียด นับหมื่นนับพัน คล้ายไหลมาไม่ขาดสาย

มากเกินไปแล้ว!

หลินสวินคิดไม่ถึงว่าในเขาวิญญาณหยินลูกเดียวจะมีสัตว์อสูรมารมากมายปานนี้ยึดครองอยู่

ดวงตาเย็นชาของเขาวาบประกายสายฟ้า คร้านจะติดพันกับเดรัจฉานราวมดตัวจ้อยพวกนี้

ก็เห็นเขาพลันสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง เพียงเฮือกเดียวเท่านั้นกลับเหมือนคุนเผิงกลืนสมุทร ในห้วงอากาศราวกับมีพายุลูกหนึ่งถูกกลืนเข้าไปในปากหลินสวิน

ห้วงอากาศบิดเบี้ยวยุบตัว

สัตว์อสูรมารเหล่านั้นต่างตื่นตะลึง ในหัวงุนงงไปหมด เจ้าหมอนี่จะทำอะไร

ก็เห็นว่าขณะนี้หลินสวินพลันแหงนหน้าขึ้นคำราม!

เสียงคำรามผูเหลา!

เสียงคำรามนี้กลายเป็นคลื่นกราดเกรี้ยวสีทองราวมหาสมุทร ครึกโครมดุจอสนีบาต แผ่กระจายไปทั่วทิศโดยมีหลินสวินเป็นศูนย์กลาง

หนำซ้ำพร้อมกับที่เสียงคำรามที่ยิ่งดังขึ้น ฟ้าดินแถบนี้ต่างคล้ายรับไม่ไหว ถล่มพังทลาย ส่งเสียงระเบิดและยุบตัวไปทุกกระเบียด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์