สะท้านสะเทือน!
ใครเลยจะคาดคิด ราชันเกราะทองที่เคยขู่ว่าจะจับหลินสวินไปเป็นข้ารับใช้ กลับถูกหลินสวินตัดหัวตั้งแต่วันแรกที่มาถึงมณฑลซีหนานเสียได้
แม้แต่เขาวิญญาณหยินซึ่งเป็นแหล่งกบดานของเจ้าตัวยังถูกหลินสวินกำจัดสิ้นซากในคราวเดียว ทัพใหญ่สัตว์อสูรมารหลายแสนล้วนตายอนาถกลางป่าเขา
เมื่อข่าวนี้แพร่ออกไปก็สะท้านฟ้าสะเทือนดินราวกับอสนีฟาดสรวงสวรรค์ ทำให้ทั่วหล้าเดือดพล่าน
“คุณชายหลิน… ช่างห้าวหาญเกินไปแล้ว!”
อย่าว่าแต่คนทั่วไป กระทั่งขุมอำนาจใหญ่ทุกแห่งในจักรวรรดิ รวมถึงชนชั้นนำที่กุมอำนาจสูงสุดในกองทัพยังพากันสะท้านสะเทือน
หากบอกว่าเมื่อหนึ่งเดือนก่อน ผลกระทบที่หลินสวินเหยียบทำลายสองตระกูลจั่วและฉิน และตัดหัวผู้นำตระกูลทรงอิทธิพลสิบเก้าคนทำให้ผู้คนพรั่นพรึงและกริ่งเกรง
เช่นนั้นการต่อสู้ครั้งนี้ก็ทำให้คนตื่นเต้นและฮึกเหิม!
เพราะหลินสวินกำลังช่วยจะจักรวรรดิกำจัดสัตว์อสูรมาร ซ้ำยังทำลายค่ายใหญ่ของขุมอำนาจสัตว์อสูรมารในมณฑลซีหนานของจักรวรรดิตัวคนเดียวอีกด้วย
ช่างสะใจเกินไปแล้ว!
ช่วงสิบกว่าปีมานี้จักรวรรดิปั่นป่วน ลมฝนโหมซัด จวนจะถูกขุมอำนาจสัตว์อสูรมารพวกนั้นกดข่มจนหายใจหายคอไม่ออก
แต่ยามนี้ความแข็งแกร่งและเฉียบขาดที่หลินสวินสำแดงในการต่อสู่ครั้งนี้ ก็ทำให้ทุกคนในจักรวรรดิแซ่ซ้องสรรเสริญ ปรีติยินดี
“จักรวรรดิมีเทพมนุษย์อย่างคุณชายหลิน ช่างโชคดีปานใด!”
ผู้คนมากมายหัวเราะลั่น จิตใจเบิกบาน ช่วงหลายปีมานี้จักรวรรดิต้องสูญชีวิตไม่รู้เท่าไหร่ภายใต้ความเหิมเกริมของทัพใหญ่สัตว์อสูรมาร
ตอนนี้ดียิ่ง หลินสวินบุกตีกร้าวแกร่ง ทำลายทัพใหญ่สัตว์อสูรมาร ตัดหัวราชันเกราะทอง ล้างบางเขาวิญญาณหยิน เหยียบหายนะตัวฉกาจในมณฑลซีหนานของจักรวรรดิราบคาบด้วยตัวคนเดียวอย่างง่ายดาย!
ทิวทัศน์ส่วนหนึ่งของเขาวิญญาณหยินถูกผู้ฝึกปราณใช้ม้วนหยกร่างเงาบันทึกเอาไว้ ไม่นานก็แพร่สะพัดทั่วจักรวรรดิ
เมื่อมองเห็นเทือกเขาวิญญาณหยินที่เหมือนถูกเหยียบราบ ทุกคนต่างตะลึงงัน ที่ตรงนั้นซากศพเกลื่อนรอบทิศ เลือดนองย้อมแผ่นดินเป็นสีแดงฉาน เต็มไปด้วยความพินาศย่อยยับ
โดยเฉพาะหัวราชันเกราะทองที่แขวนไว้นอกเมืองหมอกอำพราง ยิ่งชวนขนพองสยองเกล้ามากกว่าเดิม!
“ราชันอสูรมารพวกนั้นไม่ได้ร้องแรกแหกกระเชอ บอกว่าการที่คุณชายหลินไปกำจัดอสูรมารเป็นการไม่รู้จักความเป็นความตายหรือ ตอนนี้พวกเขายังจะกล้าโผล่หน้ามาอีกหรือ”
“สะใจโว้ย! พวกข้าผู้ฝึกปราณยกย่องคุณชายหลินเป็นแบบอย่างในเรื่องลงมือฆ่าฟันเฉียบขาด ทวงคืนสันติสุขเพื่อปวงชีวิตในจักรวรรดิ!”
ในจักรวรรดิข่าวการต่อสู้ครั้งนี้แพร่สะพัดไปทั่ว ผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วนต่างได้รับผลกระทบ ในใจเกิดความเลื่อมใสศรัทธาต่อหลินสวิน
อิทธิพลของเรื่องนี้มากมายเกินไปจริงๆ ซัดพาหมอกควันที่จักรวรรดิประสบมานานสิบกว่าปีในคราเดียว ทำให้พลทหารทั่วจักรวรรดิมีขวัญกำลังใจ สถานการณ์โกลาหลล้วนทุเลาลงไปไม่น้อย
ราชวังจักรวรรดิ เมื่อจ้าวจิ่งเซวียนรู้เรื่องนี้เข้าก็รีบบัญชาลงไป ตกรางวัลแก่ตระกูลหลินแห่งภูเขาชำระจิตอย่างงามในนามของจักรวรรดิทันที!
ว่ากันว่าความมั่งคั่งของรางวัลที่ราชวังส่งไปให้ตระกูลหลินในวันนั้น แม้แต่ขุมอำนาจตระกูลทรงอิทธิพลชั้นสูงพวกนั้นยังพากันอิจฉาตาร้อนไม่จบไม่สิ้น
ไม่มีใครกล้าวิจารณ์เรื่องนี้!
และจ้าวจิ่งเซวียนก็ไม่ได้ตระหนี่ถี่เหนียว ถือโอกาสนี้บัญชาลงไปอีกครั้งความว่า “ไม่ว่าผู้ใดก็ตามที่สังหารศัตรูเพื่อจักรวรรดิ ล้วนสามารถได้รับรางวัลทำนองเดียวกันทั้งสิ้น!”
ชั่วขณะเดียวจักรวรรดิทั้งเบื้องบนเบื้องล่างล้วนสั่นสะเทือน ผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วนต่างฮึกเหิมเลือดสูบฉีด กระโจนเข้าสนามรบเอาอย่างหลินสวิน เริ่มลงมือสังหารอสูรมาร
“ไม่ยอมเห็นทีจะไม่ได้แล้ว…”
ณ ตระกูลฉือ ฉือหลิงเซียวถอนใจเฮือกยาว จากนั้นเขาเหลือบมองฉือฉางเหมยที่อยู่ข้างๆ ปราดหนึ่ง กล่าวว่า “เจ้าออกหน้าเอง ไปที่ตระกูลหลินอีกครั้ง ช่วงชิงการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กับตระกูลหลินให้ได้!”
“แต่งงานเชื่อมสัมพันธ์?”
ฉือฉางเหมยตะลึงงัน “ข้าจะไม่แต่งกับหลินสวินเชียว!”
ฉือหลิงเซียวไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดีอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนกล่าวว่า “เจ้าคิดว่าทั่วจักรวรรดินี้ นอกจากองค์หญิงจิ่งเซวียนแล้วยังมีใครคู่ควรกับหลินสวินอีกหรือ”
นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนเขาจะกล่าวต่อไปว่า “ปีนี้น้องสาวของเจ้าคงสิบหกปีแล้วกระมัง เจ้าไปดูที่ตระกูลหลินที เด็กหนุ่มตระกูลหลินคนไหนที่พอจะเข้าตาเจ้าบ้าง ต่อให้ข้าต้องฉีกหน้าออกมาก็ต้องส่งน้องสาวเจ้าแต่งเข้าไปให้ได้ เพื่อเติมเต็มความสัมพันธ์ระหว่างพวกเราสองตระกูลฉือและหลิน”
ฉือฉางเหมยทอดถอนใจในใจ ถึงแม้นางไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ แต่ก็รู้ว่าไม่สามารถเปลี่ยนความตั้งใจของท่านพ่อได้ นี่เขากำลังมองหาอนาคตเพื่อตระกูลฉืออยู่ และสิ่งที่เสียสละไปก็คือความสุขของน้องสาวหนึ่งคน…
“เจ้าควรคิดไปในทางที่ดี ต่อไปหากน้องสาวเจ้าแต่งเข้าตระกูลหลินได้ ไม่แน่ว่า… โชคชะตาก็จะแตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิงเลยก็ได้”
ฉือหลิงเซียวเอ่ยปลอบเสียงนุ่มคราหนึ่ง
และในเวลาเดียวกันนี้ ตระกูลทรงอิทธิพลชั้นสูงในนครต้องห้ามอย่างตระกูลฮวา ซ่ง ฉี และเซี่ยก็กำลังไตร่ตรองและพิจารณา ว่าควรเชื่อมสัมพันธ์กับตระกูลหลินอย่างไรดี
การแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์เป็นวิธีที่ได้ผลที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาปวดหัวคือ จากอำนาจบารมีของตระกูลหลินในยามนี้ จะตอบตกลงหรือไม่
……
เรื่องนี้ยังก่อให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ในหมู่ขุมอำนาจสัตว์อสูรมารเช่นเดียวกัน
คำกล่าวที่ว่ากระต่ายสิ้นจิ้งจอกตรม ราชันอสูรมารตนหนึ่งร่วงหล่น สะเทือนถึงราชันอสูรมารไม่น้อยอย่างจัง ทำให้พวกเขารู้สึกถึงภัยคุกคาม ร่างกายยังเริ่มหนาวสั่นขึ้นมา
“ราชันเกราะทองเป็นถึงพวกร้ายกาจระดับอมตะเคราะห์ด่านเจ็ด ระมัดระวังตัวเรื่อยมา แต่กลับถูกไอ้เด็กแซ่หลินนั่นสังหาร นี่มัน… น่ากลัวเกินไปแล้ว”
“นี่คือบุคคลอันตรายอย่างที่สุดคนหนึ่ง จะต้องมองเขาเป็นศัตรูตัวฉกาจอันดับต้นๆ!”
“ลองตรวจสอบดู หลินสวินนี่มีที่มาที่ไปอย่างไรกันแน่ เหตุใดถึงไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าในจักรวรรดินี้ยังมีตัวปัญหาร้ายกาจเช่นนี้อยู่ด้วย”
ไม่นานข้อมูลส่วนหนึ่งเกี่ยวกับหลินสวินก็ปรากฏต่อหน้าราชันอสูรมารทุกคน ถูกรับรู้และศึกษาอย่างจริงจัง ทำความเข้าใจถึงชาติกำเนิด บุคลิก นิสัยใจคอ พลังปราณ และประสบการณ์ของเขา
ระดับราชันเผ่ามนุษย์คนหนึ่งที่สามารถสยบสังหารราชันเกราะทองได้ ก็ควรค่าพอจะให้ขุมอำนาจใหญ่ใดๆ ให้ความสำคัญได้แล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลินสวินยังไม่ธรรมดา ตัวคนเดียวก็สังหารราชันเกราะทองได้ดุจผ่าลำไผ่ ฝีมือช่างแข็งแกร่งและน่ากลัวเกินไปแล้ว!
“ในจักรวรรดิถึงกับมีคนร้ายกาจเช่นนี้เชียวหรือ”
“สมควรตาย! อีกไม่กี่ปีจักรวรรคินี้ก็จวนจะย่อยยับแล้วแท้ๆ กลับดันมีตัวแปรสำคัญเช่นนี้โผล่ออกมาเสียได้ หลินสวินนี่… ต้องตาย!”
แม้แต่ขุมอำนาจพ่อมดเถื่อนเก้าสายก็ยังตกใจ เริ่มระวังและศึกษาข่าวทุกอย่างที่เกี่ยวกับหลินสวิน ปฏิบัติต่อเขาเหมือนเป็นภัยคุกคามใหญ่หลวงที่แฝงตัวอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์