บรรดากึ่งจักรพรรดิล้วนไม่อาจสงบลงได้
ความแข็งแกร่งของพลังต่อสู้ที่ตัวดุร้ายน่าสะพรึงเหล่านั้นสำแดงออกมาไม่ได้ด้อยไปกว่ากึ่งจักรพรรดิคนใดสักนิด ถึงขั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่าด้วย
นกทมิฬปีกขาวหิมะเป็นถึงพวกอำมหิตตัวหนึ่ง เป็นสิ่งมีชีวิตต่างเผ่าพันธุ์ตามธรรมชาติอย่างหนึ่งที่แจ้งมรรคมาตั้งแต่สมัยบรรพกาล
แต่มันกลับถูกหงส์เซียนกระดูกขาวตัวนั้นซัดปลิวในการโจมตีเดียว
ภูมิหลังของลิงยักษ์สีดำนั้นยิ่งใหญ่โต พลังต่อสู้ก็ยิ่งกร้าวแกร่งดุดัน ตอนที่แจ้งมรรคกึ่งจักรพรรดิ เคยสังหารศัตรูแข็งแกร่งไปไม่รู้เท่าไร
ทว่าแม้แต่มันก็ยังตกใจจนถอยโดยไม่สู้!
“ภูตผีวิญญาณเดียวดายพวกนี้จำศีลอยู่ในเหวลึกหมื่นเคราะห์ ถูกพลังต้องห้ามควบคุมอยู่ตลอด เหตุใด… ถึงได้โผล่มาในวันนี้ได้”
มีคนพึมพำเสียงเบา
“เป็นพลังจากโคมนั่น”
มีคนคล้ายสัมผัสได้ ทอดสายตามองไปยังโคมไร้มลทินในมือหลินสวิน ปรากฏแววลุกโชติช่วง
ทันใดนั้นคนอื่นๆ ก็พากันตอบสนอง ทอดสายตามองไปตามๆ กัน
ตูม!
เพียงแต่ไม่รอให้จิตรับรู้พวกเขารวมตัวเข้าไป ก็ถูกพลังไร้รูปซัดทลาย กีดขวางการสำรวจของพวกเขา
เหตุผลนั้นง่ายดายมาก จิตรับรู้และสายตาของกึ่งจักรพรรดิพวกนี้ล้วนสามารถฆ่าคนได้ หากตกมาที่ตัวหลินสวินหมด เขาจะต้องทนรับการกดดันน่าสะพรึงระดับนั้นไม่ได้ และตายอนาถคาที่เป็นแน่!
ดังนั้นหัวใจที่มีรูพรุนยับเยินนั้นจึงเข้าช่วยเหลือตั้งแต่จังหวะแรก นี่ไม่ใช่เพราะมีจิตรับรู้ แต่สัญชาตญาณอย่างหนึ่งสั่งการให้มันทำเช่นนี้
หากโคมไร้มลทินเป็นความหวังของพวกเขา หลินสวินที่ถือโคมไร้มลทินอยู่ในมือก็เปรียบเสมือนผู้นำทาง!
เห็นเช่นนี้กึ่งจักรพรรดิพวกนั้นก็หน้าเปลี่ยนสีอีกครั้ง สายตาวับวาบไม่นิ่ง
บางทีอาจเพราะความต่างชั้นของพลังที่มากเกินไป หลินสวินจึงไม่อาจสัมผัสได้ถึงความผิดปกติอะไร จิตใจของเขาลอยไปถึงสนามรบที่อยู่ไม่ไกลแล้ว
“ฆ่า!”
หลินสวินตะโกนลั่น พุ่งโฉบไปทางอูจิ่วฉง
หากเป็นยามปกติ ถูกมดปลวกอย่างหลินสวินยุแหย่ อูจิ่วฉงสามารถสังหารเขาได้ด้วยความคิดเดียว ไม่ต้องชายตามองสักแวบด้วยซ้ำ
แต่เวลานี้สีหน้าของเขากลับเปลี่ยนไปฉับพลัน
เพราะพร้อมๆ กับการพุ่งเข้ามาของหลินสวิน ตัวดุร้ายน่าสะพรึงเจ็ดตัวนั้นก็ตามเข้ามาด้วย
“เฮอะ!”
อูจิ่วฉงสีหน้าเยียบเย็น เรียกกระบี่กระดูกเล่มหนึ่งออกมา ฟันใส่หลินสวินผ่านห้วงอากาศ
ปึง!
คนยักษ์กระดูกขาวที่ร่างสวมเกราะแตกพังออกมือ ฟันกระบี่หักบนหลังลงมา ตัดเฉือนออกไปได้ง่ายๆ ด้วยกระบี่เดียว
กระบี่เดียวราวกับพลังที่บีบอัดหมื่นมรรควัฏจักร กดดันจนห้วงอากาศพังทลายส่งเสียงระเบิด ปราณกระบี่ไร้เทียมทานนั้นตัดกระบี่กระดูกหักตรงๆ จนแหลกละเอียด
หนำซ้ำปราณกระบี่ที่เหลืออานุภาพไม่ได้ลดทอน กวาดเข้าใส่อูจิ่วฉงที่อยู่ไกลๆ!
อูจิ่วฉงหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย ใช้พลังฝ่ามือกดลงไปอย่างแรงกว่าจะสลายปราณกระบี่เสี้ยวนี้ได้ แต่ตัวเขากลับถูกซัดสะเทือนจนโซเซ
แข็งแกร่งนัก!
ในใจอูจิ่วฉงสั่นสะท้าน เจ้าตัวที่ไม่มีแม้แต่เลือดเนื้อ เหลือแค่โครงกระดูกแตกหัก ถึงกับมีมรรคกระบี่สะท้านโลกเช่นนี้ ช่างน่าเหลือเชื่อชัดๆ!
“ฆ่า!”
หลินสวินไม่สนใจสิ่งใด พุ่งเข้าไปในสนามรบ
ชั่วขณะนั้นเสียงตะโกนเดือดดาลก็ดังขึ้น ผู้แข็งแกร่งกึ่งจักรพรรดิอย่างจวี้เทียนสิง เจียวหลงเขียวมรกต มดสำริด ก็ลงมือโดยไม่ลังเลแต่อย่างใด
สภาพการณ์เช่นนั้นเพียงพอจะทำให้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดสิ้นหวังอย่างสิ้นเชิง
แต่หลินสวินไม่ได้รับการจู่โจมแต่อย่างใด เหล่าตัวดุร้ายน่าสะพรึงที่อยู่ข้างหลังเขาลงมือตั้งแต่แรก แต่ละตัวแผ่กลิ่นอายสะท้านฟ้าออกมาจากประหนึ่งทวยเทพที่ตื่นจากการหลับใหล
ชั่วขณะนั้นในลานปั่นป่วนอย่างสิ้นเชิง
เดิมทีการห้ำหั่นครั้งนี้ถูกกำหนดให้ปิดฉากลงด้วยการร่วงหล่นของพวกจ้าวหยวนจี๋ แต่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสุดท้ายนี้ ตัวแปรก็อุบัติขึ้น
ตัวแปรที่มาจากเจ้าตัวเล็กจ้อยคนหนึ่งที่กึ่งจักรพรรดิคนใดล้วนไม่เห็นอยู่ในสายตา นี่เห็นได้ชัดว่าน่าเหลือเชื่ออย่างยิ่ง
แต่ทุกอย่างนี้ก็เกิดขึ้นแล้ว
สิ่งมีชีวิตน่าสะพรึงที่เฝ้าดูด้วยสายตาเย็นชาอยู่ไกลๆ ต่างอดขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้
ในสนามรบ พวกอูจิ่วฉง จวี้เทียนสิงโมโหจนหน้าเขียวคล้ำ ท่าทางแทบกระอักเลือด อัดอั้นตันใจเจียนบ้า
พวกจ้าวหยวนจี๋ต่างลอบโล่งอก หว่างคิ้วเจือแววทอดถอนใจ ความรู้สึกรอดชีวิตหลังพิบัติเคราะห์ย่อมดีที่สุดแน่นอน
เพียงแต่กระทั่งพวกเขายังคิดไม่ถึงว่าในช่วงวิกฤตชี้เป็นชี้ตายเช่นนี้ คนที่ทำให้พวกเขามองเห็นทางรอดเสี้ยวหนึ่งจะเป็นหลินสวินเสียได้
คนหนุ่มที่ยังไม่กลายเป็นอริยะคนหนึ่ง!
กึ่งจักรพรรดิในลานมีมากปานใด การห้ำหั่นเช่นนี้ ขนาดอริยะ มหาอริยะ หรือแม้แต่ราชันอริยะยังไม่อยากเข้ามามีส่วนร่วม
แต่หลินสวินมาแล้ว ซ้ำยังพาตัวดุร้ายน่าสะพรึงกลุ่มหนึ่งมาด้วย ปั่นป่วนคลื่นลม!
พวกจ้าวหยวนจี๋ไม่ทอดถอนใจมากมายอะไร ถือโอกาสนี้โต้กลับ บุกพิฆาตพวกอูจิ่วฉงพร้อมกับตัวดุร้ายข้างกายหลินสวิน
ตูม!
การต่อสู้ยิ่งน่าสะพรึงขึ้นทุกขณะ
เพียงแต่สถานการณ์โดยรวมต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง พวกจ้าวหยวนจี๋หลุดพ้นจากวงล้อมสังหาร ซ้ำยังมีแนวโน้มพลิกผัน
ส่วนพวกกึ่งจักรพรรดิอย่างอูจิ่วฉง ต่อให้ไม่ยินยอมแค่ไหน เดือดดาลปานใด เวลานี้ก็ไม่อาจไม่ยอมรับความจริงข้อนี้
เดิมทีหลินสวินยังรู้สึกประหม่าอยู่บ้าง อย่างไรเสียนี่ก็เป็นถึงศึกกึ่งจักรพรรดิ ทอดสายตามองออกไปล้วนมีแต่กระแสมหามรรคเชี่ยวกรากน่าสะพรึง
กล่าวอย่างไม่เกินจริง แม้จะเป็นกลิ่นอายต่อสู้เพียงเสี้ยวเดียวตกกระทบตัวเขา ก็สามารถกำจัดเขาให้สิ้นซากได้!
แต่ยังดีที่ทุกอย่างนี้ไม่ได้เกิดขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์