Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1463

บนป้ายคำสั่งสลักอักษรโบราณเหนี่ยวจ้วน[1] ว่า ‘อวี่’ อยู่หนึ่งคำ

เมื่อรับมาไว้ในมือก็ไม่มีอะไรพิเศษ แต่สีหน้าของชายหนุ่มจักจั่นทองกลับดูแปลกออกไป ยิ้มแล้วไม่พูดอะไรมากอีก

“ขอลา”

ชายชราชุดนักพรตหันหลัง ก้าวเข้าไปในส่วนลึกของเงาแสงแพรวพราวที่วิวัฒน์จากโคมไร้มลทินนั่น

“นี่คือผู้อาวุโสคนหนึ่งของเผ่าจักรพรรดิตระกูลอวี่บนทางเดินโบราณฟ้าดารา นิสัยหยิ่งทะนงเย็นชาที่สุด เป็นเพื่อนสนิทของมหาจักรพรรดิหมื่นเคราะห์ สักวันหนึ่งหากสหายน้อยไปเยือนทางเดินโบราณฟ้าดาราแล้วเจอเรื่องยุ่งยากอะไร ก็สามารถนำป้ายคำสั่งนี้ออกมาได้”

ในที่สุดชายหนุ่มจักจั่นทองก็อดไม่ได้ กล่าวแนะนำหลินสวินประโยคหนึ่ง

เผ่าจักรพรรดิ!

ทั้งยังมาจากทางเดินโบราณฟ้าดาราด้วย!

นัยน์ตาดำของหลินสวินพลันหดรัด เก็บป้ายคำสั่งลงไป

พรึ่บ!

หงส์เซียนกระดูกขาวร่ายรำ แปลงเป็นหญิงงามชุดรุ้งมวยผมเหนือศีรษะคนหนึ่ง ท่าทางบริสุทธิ์ผุดผ่อง เยียบเย็นหยิ่งทะนง

เพียงแต่ยามนี้นางกลับค้อมตัวเล็กน้อยไปทางหลินสวินและชายหนุ่มจักจั่นทอง “ขอบคุณท่านทั้งสองที่ช่วยเหลือ นี่คือขนปีกเสี้ยวหนึ่งของเผ่าข้า ขอสหายน้อยโปรดรับไว้”

ฟุ่บ!

ขนนกที่สาดแสงสว่างไสวเสมือนภาพมายาเพริศแพร้วท่อนหนึ่งปรากฏขึ้นในมือของหญิงสาว ส่งมอบแก่หลินสวิน

หลินสวินหันไปมองชายหนุ่มจักจั่นทอง ฝ่ายหลังยิ้มกล่าว “เจ้าช่วยพวกเขาให้หลุดพ้น พวกเขาตอบแทนก็สมควรแล้ว”

หลินสวินจึงรับขนปีกหงส์เซียนที่เรียกได้ว่าไม่อาจประเมินค่านี้มาพลางกล่าว “ขอบคุณมาก”

ไม่นานหญิงสาวก็เดินจากไป

“เจ้าน่าจะมองออก หญิงคนนี้มาจากเผ่าหงส์เซียน ลำดับความอาวุโสของนางในตระกูลอาจไม่ถึงขั้นสูงส่ง แต่พลังปราณและรากฐานกลับเป็นอันดับหนึ่ง น่าเสียดาย หากไม่ใช่ว่าปีนั้นถูกพลังต้องห้ามนั่นขังอยู่ที่นี่ ด้วยพรสวรรค์ของนาง การก้าวสู่ระดับจักรพรรดิน่าจะไม่ใช่เรื่องยาก”

ชายหนุ่มจักจั่นทองทอดถอนใจ

หลังจากนั้นคนยักษ์กระดูกขาวที่หลังสะพายกระบี่หักก้าวเข้ามา แปลงเป็นชายฉกรรจ์เครางอนคนหนึ่ง ท่าทางองอาจผึ่งผาย มาจากเผ่ามหัตหลวง มอบฝักกระบี่สีเขียวเจ็ดชุ่นเล่มหนึ่งแก่หลินสวิน

ต้นไม้ใหญ่แห้งเกรียมแปลงเป็นหญิงงามปักปิ่นไม้ชุดผ้าหยาบคนหนึ่ง กิริยาท่าทางสุภาพอ่อนโยน ร่างเดิมคือต้นมรรคหมื่นเพลิงต้นหนึ่ง มอบใบไม้สีแดงเพลิงใบหนึ่งแก่หลินสวิน

จิ้งจอกกระดูกขาวเปลี่ยนเป็นจิ้งจอกเขียวที่เกิดมามีแปดหางตัวหนึ่ง หน้าตาอรชรปานล่มเมือง เย้ายวนไม่เป็นสองรองใคร มาจากเผ่าจิ้งจอกเทพเก้าทวาร มอบกระพรวนหยกเขียวที่ส่องประกายแวววาวกระพรวนหนึ่งแก่หลินสวิน

งูใหญ่กระดูกขาวกลายเป็นชายวัยกลางคนหน้าเหี้ยมคนหนึ่ง กลิ่นอายเคร่งขรึม มาจากเผ่างูสวรรค์ปีกนิล มอบเขี้ยวขาวกระจ่างดุจหิมะเขี้ยวหนึ่งแก่หลินสวิน

ตะพาบกระดูกขาวแปลงเป็นชายชราร่างเล็กที่ท่าทางซื่อๆ เนิบๆ คนหนึ่ง มาจากเผ่าตะพาบมังกรมหามายา มอบกระดองขาวขนาดเท่ามือทารกกระดองหนึ่งแก่หลินสวิน

ในกระบวนการนี้ พวกเขาทยอยแสดงความขอบคุณต่อหลินสวินและชายหนุ่มจักจั่นทองอย่างต่อเนื่อง จากนั้นก็เดินเข้าไปในแสงแพรวพราวของโคมไร้มลทินนั้นทีละคน ก่อนหายลับจากไป

ชายหนุ่มจักจั่นทองยืนอยู่ข้างๆ กล่าวแนะนำแก่หลินสวินเป็นพักๆ

ตอนนี้หลินสวินถึงได้รู้ว่า ตัวดุร้ายน่ากลัวเจ็ดตัวที่ติดตามข้างกายตนมาตลอดทางแทบไม่มีพวกที่ธรรมดาสักคน!

อย่างผู้อาวุโสของเผ่าจักรพรรดิตระกูลอวี่ ก็เป็นบุคคลระดับจักรพรรดิที่สมชื่อคู่ควรคนหนึ่ง!

คนอื่นก็เป็นบุคคลสำคัญน่ากลัวซึ่งมาจากแต่ละเผ่า

ปีนั้นพวกเขาเคยปกป้องมหาจักรพรรดิหมื่นเคราะห์ในแดนบ่อเกิดแรกกำเนิดนี้ แต่ด้วยเหตุนี้จึงประสบทุกข์ ถูกพลังต้องห้ามกำราบ มรรควิถีถูกทำลาย ถึงได้เปลี่ยนเป็นคนก็ไม่ใช่ผีก็ไม่เชิงเช่นนี้

แต่ด้วยการปรากฏตัวของโคมไร้มลทินจึงทำให้พวกเขาสลายแรงกดดันของพลังต้องห้าม ได้รับการปลดปล่อยจากหุบเหวหมื่นเคราะห์นั่น

สำหรับพวกเขาโคมไร้มลทินก็คือความหวังเดียวที่สามารถทำให้พวกเขากลับไปได้ มาจากที่ไหนก็กลับไปที่นั่น ไม่อย่างนั้นพวกเขาที่ร่างกายถูกพลังต้องห้ามทำลาย ตลอดชีวิตคงได้แต่หลงทางอยู่กลางฟ้าดินเหมือนวิญญาณเร่ร่อนพเนจร คนก็ไม่ใช่ผีก็ไม่เชิง ไม่อาจปลุกจิตสำนึกให้ตื่นขึ้นมาได้

“เก็บรักษาสิ่งที่พวกเขามอบให้ไว้ให้ดี ภายหน้าต้องมีเวลาที่ได้ใช้แน่”

ชายหนุ่มจักจั่นทองพูดพลางคืนโคมไร้มลทินให้หลินสวิน “สิ่งที่สำคัญที่สุดคือรักษาโคมนี้ไว้ให้ดี นี่เป็นถึงแรงกายแรงใจของจักรพรรดิคนหนึ่ง”

หลินสวินนึกถึงฝีพายโครงกระดูกที่พายเรืออยู่บนแม่น้ำนรกคนนั้นขึ้นมา หรือคนผู้นั้น… ก็คือระดับจักรพรรดิคนหนึ่ง

เขาเก็บโคมไร้มลทินลงไปอย่างระมัดระวัง

ความมหัศจรรย์ของโคมนี้เขารู้ซึ้งมาก่อนแล้ว รู้ชัดว่านี่คือสมบัติชิ้นหนึ่งที่อัศจรรย์ระดับใด

“ไปเถอะ พวกเราไปดูกัน”

ชายหนุ่มจักจั่นทองนำหน้า ก้าวขึ้นไปบนบันไดหินทีละก้าว

หลินสวินเร่งตามหลังเขาขึ้นไป

บันไดมีเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าขั้น ทันทีที่ก้าวขึ้นไปบนนั้น หลินสวินรู้สึกแค่มีแรงสั่นสะเทือนประหลาดหนึ่งแผ่อบอวล ทำให้ร่างกายเขาสั่นสะท้านไปหมด

ฮูม…

เขาโคจรพลังหลอมกายอย่างเงียบเชียบ ถึงคลี่คลายแรงสะเทือนประหลาดนี้ได้

เมื่อมองชายหนุ่มจักจั่นทองที่อยู่ข้างหน้าอีกครั้ง ก็เห็นเขาก้าวสบายๆ ประหนึ่งเดินเล่นบนทางราบ

หลินสวินถอนสายตากลับ เดินตามต่อไป

ยิ่งก้าวขึ้นไปบนบันไดที่สูงขึ้น แรงสะเทือนประหลาดที่อบอวลออกมาก็ยิ่งเปลี่ยนเป็นแข็งแกร่ง

แรกเริ่มเหมือนธารสายเล็กไหลเอื่อย แม้จะมีแรงสั่นสะเทือนก็ไม่ส่งผลกระทบต่อหลินสวินแม้แต่น้อย

แต่ไม่นานกระแสธารน้อยๆ นี้ก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นคลื่นยักษ์ถาโถมโหมกระหน่ำ แรงสะเทือนที่จู่โจมเริ่มเปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งดุดัน

ต่อจากนั้นคลื่นยักษ์เริ่มเปลี่ยนเป็นซัดโหม ก็เหมือนธารสายเล็กเปลี่ยนเป็นแม่น้ำใหญ่ คลื่นซัดกระแทกฝั่ง กระแสน้ำไหลเชี่ยวดุดันหาใดเปรียบ

แต่…

ยังคงทำอะไรหลินสวินไม่ได้ ในขั้นตอนการขึ้นบันไดเขาแค่โคจรพลังหลอมกายอย่างต่อเนื่อง เมื่อแข็งแกร่งขึ้นไม่หยุดก็สลายพลังโจมตีของแรงสะเทือนนั้นได้แล้ว

เพียงแต่เมื่อก้าวสู่บันไดหินขั้นที่หนึ่งพัน สีหน้าหลินสวินก็เปลี่ยนเป็นจริงจังอยู่บ้าง ยามก้าวไปข้างหน้าก็เหมือนกำลังเดินทวนอยู่ในกระแสน้ำหลากโหมกระหน่ำ แรงสะเทือนชวนประหวั่นบีบกดลงมาเหมือนกองกำลังพันหมื่นกำลังบุกตะลุยโจมตีข้าศึก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์