ชายหนุ่มจักจั่นทองจ้องมองหลินสวิน ในส่วนลึกนัยน์ตาที่ใสสะอาดราวเด็กทารกนั่นปรากฏแสงลึกลับไร้สิ้นสุดออกมา ราวสามารถหยั่งรู้สรรพสิ่ง
เพียงแค่ไม่กี่ลมหายใจ เขาก็เก็บสายตาอย่างหมดจด สีหน้ามึนงง
เขามองออกว่าผ่านการเคี่ยวกรำของพลังบันไดมรรคเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าขั้น ในกระบวนการนี้มรรควิถีของหลินสวินได้รับประโยชน์อย่างไม่อาจประเมินแล้ว
และเขาก็มองออกว่าแม้พลังปราณของหลินสวินยามนี้จะแห้งเหือด แต่กลับปลุกอภินิหารพรสวรรค์ในสายเลือดภายใต้การขัดเกลาถึงขีดสุดแล้ว
เพียงแต่…
กลิ่นอายของอภินิหารพรสวรรค์นั้น เขาไม่อาจหยั่งรู้ได้!
นี่เพียงพิสูจน์ได้ว่า พลังอภินิหารพรสวรรค์ที่หลินสวินปลุกขึ้นมานั้นไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง!
นี่ก็คือสาเหตุที่ทำให้ชายหนุ่มจักจั่นทองมึนงง
‘หุบเหวกลืนกิน… ปีนั้นอภินิหารพรสวรรค์ที่เจ้าคนดุร้ายชื่อซิงเยียนนั่นครอบครองก็คือ ‘วิชาดับดารา’ จู่โจมคราเดียวยิงดาวทลายจันทร์ ดับสลายพลังชีวิต ทรงพลังหาใดเปรียบ…’
นัยน์ตาของชายหนุ่มจักจั่นทองเจือความรู้สึกหวนถึงความหลัง ‘เพียงแต่อภินิหารพรสวรรค์ที่เจ้าหนูนี่ปลุกขึ้นมาในตอนนี้ เหมือนจะต่างกับดับดาราอย่างสิ้นเชิง…’
‘น่าสนใจ พลังสายเลือดแบบเดียวกัน อภินิหารพรสวรรค์ที่ตื่นขึ้นมากลับแตกต่าง พลังสายเลือดเช่นนี้พบเห็นได้น้อยนัก’
วู้ม…
ยามชายหนุ่มจักจั่นทองใคร่ครวญ บนตัวหลินสวินที่นั่งขัดสมาธิกับพื้นกลับแผ่คลื่นประหลาดส่องประกายออกมา
จิตรับรู้ที่เดิมว่างเปล่าของเขาราวกับลอยล่องอยู่ในสายน้ำที่กว้างใหญ่ไพศาล ฟองคลื่นม้วนตลบไม่หยุด
และจิตรับรู้ของเขาก็อยู่ในฟองคลื่นไหลไปตามกระแส
เขาได้เห็นภาพที่คาดไม่ถึงมากมาย
กาลเวลาสับเปลี่ยน สี่ฤดูหมุนเวียน ทั่วแดนเปลี่ยนแปลง ประวัติศาสตร์เจริญและเสื่อมถอย…
สรรพชีวิตผ่านการเกิดแก่เจ็บตาย ฟ้าดินผ่านประสบการณ์โชกโชนปรวนแปร สรรพสิ่งทั่วหล้าดับสลายและเกิดใหม่ไปมาตามลำดับ…
ในความรางเลือนคือหนึ่งฤดูกาล
ชั่วดีดนิ้วคือหนึ่งปีแสง
เหมือนผ่านเส้นทางแห่งทัศนียภาพที่หลายหลากแปลกตาในกาลเวลา
ตูม!
ไม่นานทุกอย่างนี้ก็แตกระเบิดดังสนั่น แม่น้ำกว้างใหญ่ไพศาลถูกหุบเหวหนึ่งกลืนกิน เกิดเป็นภาพแห่งการดับสูญปั่นป่วนที่ไม่อาจบรรยายทันที
เวลานี้ร่างกายหลินสวินเกิดการตอบสนองโดยสัญชาตญาณอย่างหนึ่ง ‘พลังเร้นชะตาสวรรค์’ ที่เดิมผนึกอยู่ในห้วงนิมิตพุ่งลงไปยังเส้นปราณหัวใจ
พลังเร้นชะตาสวรรค์คือหนึ่งในรางวัลที่ได้มาหลังจากทะลวงด่านในห้องโถงมรรคาสวรรค์ มีอานุภาพอัศจรรย์ในการกระตุ้นพรสวรรค์ ปลุกพลังต้นกำเนิด
เวลานี้ทุกอย่างในพลังนี้กำลังถูกชีพจรปราณวิญญาณต้นกำเนิดของหลินสวินกลืนกิน
จากนั้นในจิตรับรู้ของหลินสวินก็เห็นภาพหนึ่งที่เรียกได้ว่าไร้ใดเปรียบ
ในแม่น้ำที่กว้างใหญ่ไพศาลนั้น กลิ่นอายของกาลเวลาถูกหุบเหวใหญ่กลืนกิน!
กาลเวลาก็คือช่วงเวลา เวลาคือระเบียบแห่งปวงสวรรค์สูงสุด เป็นพลังซึ่งสามารถทำให้ผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิต่างอับจนหนทาง
แต่ยามนี้ในหุบเหวหนึ่งกลับเก็บกลิ่นอายของกาลเวลาไว้!
จิตรับรู้ของหลินสวินพลันเจ็บปวดสาหัส ทุกการมองเห็นและความรู้สึกเหมือนเครื่องแก้วที่แตกละเอียด กลายเป็นเศษเสี้ยวแล้วหายไป
ตูม!
จากนั้นจิตรับรู้ของเขาก็กลับคืนสู่ร่างอีกครั้ง ทั้งตัวสั่นสะท้านขึ้นมาทันที จุดชีพจร ผิวหนัง เส้นลมปราณ ห้วงนิมิต อวัยวะตันห้ากลวงหก… ทุกส่วนไม่มีตรงไหนไม่อัดแน่นด้วยพลังเรืองรองแปลกประหลาดที่ซัดโหม
และตรงเส้นปราณหัวใจ ชีพจรปราณวิญญาณต้นกำเนิดท่อนหนึ่งเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างสมบูรณ์ เหมือนภาพมายาจนราวกับแสงสายหนึ่ง ในเงาแสงนั้นมีลายมรรคประหลาดผลุบโผล่อยู่คลุมเครือ
ลายมรรคนี้พิเศษไม่เหมือนใครเกินไป ลักษณะคล้ายขนนก ขาวกระจ่างพร่างพราย กลิ่นอายเร้นลับคลุมเครือหลายสายแผ่อบอวล ในความรางเลือนเหมือนมีร่องรอยของกาลเวลาไหลวนอยู่ในลายมรรค เดี๋ยวชัดเดี๋ยวหายไม่นิ่ง
หยุดเวลา!
ในใจหลินสวินเกิดการรู้แจ้ง
นี่ก็คืออภินิหารพรสวรรค์ที่ตนปลุกขึ้นมา จากชื่อก็รู้แล้วว่าเป็นพลังหยุดการเคลื่อนคล้อยของเวลา
เพียงแต่ในใจเขากลับไม่อาจสงบได้
ด้วยพลังพันธนาการของ ‘หยุดเวลา’ ช่างสะเทือนใต้หล้า น่าอกสั่นขวัญแขวนและคาดไม่ถึงเกินไป
หยุดเวลาได้หนึ่งพริบตา!
นี่ก็คืออานุภาพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอภินิหารพรสวรรค์ ‘หยุดเวลา’
มีเพียงบรรลุระดับอริยะจึงจะควบคุมนัยเร้นลับแห่งห้วงอากาศว่างเปล่า ครองวิธีเคลื่อนผ่านห้วงอากาศได้
แต่ต่อให้เป็นระดับจักรพรรดิ เมื่ออยู่ต่อหน้ากฎเกณฑ์แห่งเวลาก็ยากจะสัมผัส ไร้แรงต้านทาน!
ไม่ว่าระดับจักรพรรดิหรือมดปลวก ทันทีที่ตายไปก็ต้องถูกพลังของกาลเวลากัดกร่อน จากนั้นก็ถูกกำจัด
ถึงแม้ระดับจักรพรรดิจะปรารถนาการคงอยู่ชั่วนิรันดร์ แต่ก็ต้องเผชิญหน้ากับภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุด ก็คือเวลา!
และอภินิหารหยุดเวลาก็สามารถหยุดการเคลื่อนคล้อยของเวลาได้หนึ่งพริบตา พลังนี้ช่างน่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว น่ากลัวถึงขั้นทำให้หลินสวินยังยากจะเชื่อ
กระทั่งผ่านไปครู่ใหญ่เขาจึงค่อยใจเย็นลง สัมผัสอย่างละเอียด
ภาพมายาที่ดูประหนึ่งขนนกนั้น ลายมรรคประหลาดที่ขาวกระจ่างงามตระการ ลึกลับและยากหยั่งถึง แต่ยามหลินสวินไปสัมผัส กลับรู้สึกเพียงเหมือนเข้าไปในหุบเหวหนึ่ง ยิ่งใหญ่ไร้ขอบเขต ลึกล้ำยากหยั่งถึง
นอกจากนี้ก็ไม่มีอะไรอีก
หลินสวินอึ้งงัน ยิ้มเยาะตนเองในใจ พลังพรสวรรค์ของตัวเอง แต่แม้แต่ตัวเองยังสัมผัสความอัศจรรย์ที่อยู่ข้างในไม่ได้ นี่… ช่างแปลกประหลาดผิดธรรมดาจริงๆ
แต่เมื่อคิดดูแล้วหลินสวินก็ปล่อยวาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์