โลกในชามแปลกประหลาดยิ่ง แบ่งเป็นแดนลับเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าแดน
แต่ละแดนลับล้วนปรากฏทัศนียภาพต่างกันไป
ภาพมหามรรคที่ต่างกันไปอย่างลม สายฟ้า ดิน ไฟ ทอง ไม้ น้ำ… อัดแน่นอยู่ในทุกแดนลับ วิวัฒน์เป็นภูผาธาราต้นไม้ใบหญ้า สุริยันจันทราดวงดาว
หลินสวินมองลงไป ก็เห็นว่าโลกนี้เหมือนบันไดที่ทอดยาวลงไปหลายขั้นหน้าประตูใหญ่ตำหนักจักรพรรดิหมื่นเคราะห์นั่น
แดนลับเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าแดนเรียงขึ้นไปเป็นชั้นๆ ซ้อนทับอยู่ในโลกกลางชามนั้น ช่างพิเศษไม่เหมือนใครยิ่งนัก
“ชามนี้มีชื่อว่า ‘หมื่นเคราะห์แปรนภา’ โลกในชามนามว่า ‘นรกหมื่นเคราะห์’ แบ่งเป็นเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าขั้น”
ชายหนุ่มจักจั่นทองกล่าวอธิบาย “นี่ก็คือศาสตราจักรพรรดิบริสุทธิ์ของมหาจักรพรรดิหมื่นเคราะห์ เคยกรำศึกเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดินพร้อมมหาจักรพรรดิหมื่นเคราะห์ อานุภาพเกินคาดเดา แต่ปัจจุบันชามใบนี้กลับกลายเป็นที่แหล่งสรรสร้างจุดเปลี่ยนใหญ่”
ไม่นานหลินสวินก็เห็นเงาร่างมากมายหลายหลาก
มีพวกอูจิ่วฉงขุมอำนาจพ่อมดเถื่อน พวกจวี้เทียนสิงพันธมิตรหมื่นเผ่า
และมีสิ่งมีชีวิตน่ากลัวที่อาศัยอยู่ในป่าต้นหม่อนอย่างดอกกระบี่พันปีก บรรพจารย์บัวโลหิต ผีเสื้อราตรีสีเลือด เจียวหลงเขียวมรกต มดสำริดเป็นต้น
พวกจ้าวหยวนจี๋ก็อยู่ในนั้นด้วย
เพียงแต่การเข่นฆ่าคลั่งระห่ำในการคาดเดาของหลินสวินกลับไม่เกิดขึ้น
บุคคลสำคัญระดับกึ่งจักรพรรดิพวกนี้แทบจะกระจายอยู่ในแดนลับต่างบริเวณ เหมือนกระจายอยู่ในผืนพิภพที่ต่างกันไป
พวกจ้าวไท่ไหล จักรพรรดินี เจ้าสำนักสำนักศึกษามฤคมรกตอยู่ในแดนลับเกือบล่างสุด เหนือขึ้นไปอีกคือพวกค่ายพ่อมดเถื่อน พันธมิตรหมื่นเผ่า รวมถึงสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวพวกนั้นด้วย
ส่วนจ้าวหยวนจี๋ยามนี้นำหน้า ยืนอยู่ในอาณาเขตที่อยู่เหนือแดนลับมากมาย
“นรกหมื่นเคราะห์ ทุกแดนลับล้วนเต็มไปด้วยด่านเคราะห์ ก็เหมือนนรกขุมต่างๆ วิธีชิงจุดเปลี่ยนใหญ่นี้ง่ายมาก สลายเคราะห์ ทะลวงโลกันตร์ ก้าวขึ้นไปทีละขั้น”
ชายหนุ่มจักจั่นทองยิ้มกล่าว “ความจริงไม่ต่างกับการขึ้นบันไดหินของเจ้าเมื่อครู่เท่าไรนัก เพียงแต่พิบัติเคราะห์ในนรกหมื่นเคราะห์นี้ มีเพียงกึ่งจักรพรรดิที่สามารถคลี่คลายได้ก็เท่านั้น”
ตอนนี้หลินสวินถึงได้กระจ่าง เข้าใจแล้ว
เขาเห็นจ้าวไท่ไหลยืนกระหืดกระหอบอยู่ในแดนลับที่หนึ่งพันสามร้อย สีหน้าไม่น่าดูยิ่ง
ด่านเคราะห์ที่เขาเผชิญก็คือพายุฝนแสงสีเขียวฉากหนึ่ง
ฝนแสงสีเขียวเหล่านั้นพร่างพรายและงามตา คล้ายกลุ่มดาวหางสีเขียวกำลังเริงระบำ
แต่ก็เป็นฝนแสงงดงามนี้ที่โจมตีจนจ้าวไท่ไหลหนีหัวซุกหัวซุน หลีกหลบอเนจอนาถ หลุดปากด่ายกใหญ่เป็นพักๆ
ไม่นานหลินสวินก็เห็นดอกกระบี่พันปีกนั้นพลิ้วไหว ยิงปราณกระบี่สลัวรางมากมายออกมา บดขยี้ภูเขาใหญ่เทียมฟ้าที่ขวางอยู่ข้างหน้าในพริบตา!
จากนั้นเงาร่างของมันก็วูบหาย มาอยู่ในอีกแดนลับที่สูงกว่า
ท่าทีดุดันหาใดเปรียบนั่นทำให้หลินสวินสูดหายใจเย็นเยียบ
ไม่ทันไรหลินสวินก็เห็นกึ่งจักรพรรดิของเผ่าพ่อมดเถื่อนคนหนึ่งถูกสายฟ้าสีดำฟาดผ่า ทั้งตัวร่วงลงไปกองกับพื้น ผมเผ้ายุ่งเหยิง ร้องโหยหวนออกมาด้วยความไม่ยินยอม
จากนั้นกึ่งจักรพรรดิของเผ่าพ่อมดเถื่อนคนนี้ก็หายไปในพริบตา
“สลายเคราะห์ล้มเหลว ก็เสียสิทธิ์ในการช่วงชิงจุดเปลี่ยนใหญ่ครานี้”
ชายหนุ่มจักจั่นทองกล่าวลอยๆ “แต่ก็ไม่ถึงขั้นตาย ด้วยปณิธานและความอาจหาญของมหาจักรพรรดิหมื่นเคราะห์ คงไม่ถึงขั้นใช้ความตายไปเพ่งเล็งบุคคลระดับกึ่งจักรพรรดิพวกนั้น”
ถึงตอนนี้ในที่สุดหลินสวินก็เข้าใจแล้ว
ใน ‘นรกหมื่นเคราะห์’ นี้ กึ่งจักรพรรดิทุกคนล้วนมีโอกาสไปช่วงชิงจุดเปลี่ยนใหญ่ เงื่อนไขแรกคือบุกตะลุยแดนลับที่ราวกับนรกมากมายเป็นชั้นๆ นั่น
และหากหมายจะทะลวงแดนลับ ก็ต้องทำลายพิบัติเคราะห์ที่กระจายอยู่ในแดนลับนั้น!
ศักยภาพอ่อนแอกระจ้อยร่อย สลายเคราะห์ล้มเหลวจะถูกคัดออก
หากพลังแข็งแกร่งก็สามารถก้าวขึ้นไปทีละขั้น
หลินสวินสังเกตเห็นว่าพวกจ้าวไท่ไหล จักรพรรดินี และเจ้าสำนักมฤคมรกตสามคน ด้วยเหตุที่ก่อนหน้านี้บาดเจ็บหนัก ยามนี้เมื่ออยู่ในนรกหมื่นเคราะห์จึงอยู่ที่แดนลับด้านล่างสุดมาตลอด
จากสถานการณ์นี้ถ้าพวกเขาคิดจะช่วงชิงจุดเปลี่ยนใหญ่ คงถูกลิขิตให้เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้แล้ว
แต่หลินสวินก็รู้ว่าพวกเขามาที่นี่ครานี้ เดิมทีก็มาช่วยจ้าวหยวนจี๋ช่วงชิงพลังโอกาส ด้วยเหตุนี้ต่อให้ล้มเหลวก็เกรงว่าคงไม่ใส่ใจนัก
สิ่งที่ทำให้หลินสวินผิดคาดคือจ้าวหยวนจี๋ก็บาดเจ็บสาหัส แต่ตอนนี้เขากลับนำหน้าอยู่โข ปัจจุบันอยู่ในแดนลับขั้นที่เก้าพันเก้าร้อยแล้ว
ผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งที่อยู่ใกล้เขาที่สุดคือบรรพจารย์บัวโลหิตที่เหมือนเด็กชายคนนั้น อยู่ห่างจากเขาเป็นระยะสามร้อยกว่าแดน!
ที่เร่งตามหลังบรรพจารย์บัวโลหิตมาคือผีเสื้อราตรีสีเลือด
แต่พูดถึงความเร็วของการสลายเคราะห์ เห็นได้ชัดว่าผีเสื้อราตรีสีเลือดเหนือกว่าบรรพจารย์บัวโลหิตอยู่บ้าง กำลังค่อยๆ ร่นระยะห่างกับบรรพจารย์บัวโลหิตอยู่
ชายหนุ่มจักจั่นทองคล้ายมองความสงสัยในใจหลินสวินออก “จ้าวหยวนจี๋เป็นคนแรกที่ถูกเลือก ทันทีที่เข้ามาในนรกหมื่นเคราะห์ก็นำหน้าคนอื่นไปไกลแล้ว กลายเป็นฝ่ายได้เปรียบ”
คิดไปคิดมาชายหนุ่มจักจั่นทองก็กล่าวต่อ “แต่ความได้เปรียบของจ้าวหยวนจี๋กำลังถดถอย ด้วยคู่ต่อสู้ของเขาไม่มีสักคนที่เป็นพวกธรรมดา”
“ไม่แปลกที่ตอนแรกสัตว์ประหลาดเฒ่าพวกนั้นจะล้อมโจมตีหมายสังหารเขาโดยไม่คำนึงถึงอะไร ข้อได้เปรียบเช่นนี้ช่างเห็นได้ชัดเกินไปจริงๆ”
หลินสวินทอดถอนใจ
ชายหนุ่มจักจั่นทองยิ้มกล่าว “เจ้าคิดว่ามีเพียงคนแรกที่ตะลุยแดนลับทั้งหมดของนรกหมื่นเคราะห์นี้ผ่าน จึงจะสามารถชิงมหาศุภโชคนี้ได้หรือ”
หลินสวินชะงัก “ยังมีความลับอื่นอีกหรือ”
นัยน์ตาของชายหนุ่มจักจั่นทองใสกระจ่าง กล่าวเสียงอบอุ่น “บรรลุจักรพรรดิ ใช่ว่าใช้พลังสยบพลังก็สามารถบรรลุได้ หากแต่ต้องมีเจตจำนงว่า ‘ไร้คู่ต่อกร’ อย่างแท้จริง ไม่หวั่นเกรงหมื่นเคราะห์ ไม่หวาดกลัวอดีตอนาคต ไม่ยึดติดอยู่กับมหามรรค ไม่นึกเสียดายต่อหนทางแห่งตน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์