Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1468

กึ่งจักรพรรดิไม่น้อยต่างเผยยิ้มยินดีผ่อนคลายออกมาอย่างอดไม่อยู่

เผชิญหน้ากับความหวังบรรลุจักรพรรดิที่ใจยึดมั่นและมุ่งหวังปรารถนามาเนิ่นนาน ไม่ว่าใครก็เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง เนื่องด้วยประหม่าและให้ความสนใจเกินไป จึงทำให้ความรู้สึกในสภาวะจิตพวกเขาขึ้นๆ ลงๆ

“ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าไม่มีทางดูดายข้า”

บนหน้างามดั่งภาพวาดของเด็กสาวจักจั่นขาวระบายยิ้ม นางรู้ว่าขอเพียงจักจั่นทองช่วยนาง จุดเปลี่ยนใหญ่นี้จะต้องเป็นของนางแน่

“ไม่ใช่เคราะห์พิฆาตมรรค…”

จ้าวหยวนจี๋ลอบเป่าปากโล่งอก

“ฮ่าๆๆ เช่นนั้นก็ดียิ่ง!”

บรรพจารย์บัวโลหิตหัวเราะลั่นขึ้นมา

เพียงแต่ในใจพวกเขายังมีข้อสงสัยเสี้ยวหนึ่ง ในเมื่อไม่ใช่เคราะห์พิฆาตมรรค แล้วเหตุใดกลางฟ้าดินจึงปรากฏกลิ่นอายราวสิ่งต้องห้ามเช่นนั้น

เวลานี้เสียงของชายหนุ่มจักจั่นทองดังขึ้นอีกครั้ง…

“แต่นี่เป็นมหาเคราะห์ที่มีชื่อเรียกว่าเคราะห์มรรคตัดขาดจริง มาจากสหายน้อยคนหนึ่ง แต่กลับต้องให้ทุกท่านมาร่วมแบกรับพร้อมกัน เชื่อว่าด้วยคุณธรรมอันสูงส่งของทุกท่านต้องยินดีอุ้มชูคนรุ่นหลังเป็นแน่ ข้าจักจั่นทองขอขอบคุณทุกท่านล่วงหน้ามา ณ ที่นี้”

ประโยคเดียวพาให้กึ่งจักรพรรดิทุกคนตื่นตะลึงกันหมด

เคราะห์มรรคตัดขาด?

เพียงพริบตาพวกเขานึกถึงคนผู้หนึ่งขึ้นมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย หลินสวิน!

สีหน้าของกึ่งจักรพรรดิไม่น้อยอึมครึมลงในชั่วขณะเดียว

ร่วมแบกรับ?

เห็นชัดว่านี่เป็นการโยนเคราะห์ให้พวกเขา ใช้พลังของพวกเขามาช่วยเจ้าหนูนั่นสลายเคราะห์!

พอคิดถึงว่าถูกลอบวางแผนใส่อย่างคาดไม่ถึง กึ่งจักรพรรดิบางส่วนล้วนหน้าดำทะมึน

สัตว์ประหลาดเฒ่าอย่างอูจิ่วฉง ดอกกระบี่พันปีกที่เคยถูกหลินสวินด่าสาดเสียเทเสีย ก็โกรธจนควันออกจมูกแล้ว

แม้แต่กึ่งจักรพรรดิบางส่วนที่ไม่เคยมีปมกับหลินสวิน ในใจก็ไม่พอใจนัก ถูกมดปลวกที่แม้แต่พวกเขายังไม่เห็นอยู่ในสายตาตัวหนึ่งหลอกใช้ รสชาตินี้ช่างทำให้คนรังเกียจเกินไปแล้ว พาให้ผู้คนเดือดดาล

ส่วนพวกจ้าวหยวนจี๋ จักรพรรดินี จ้าวไท่ไหล เจ้าสำนักมฤคมรกตก็สีหน้าพิกล ล้วนคิดไม่ถึงว่าเวลานี้หลินสวินจะทำเรื่องเช่นนี้ได้

ถึงกับยืมมือกึ่งจักรพรรดิทั้งหมด มาสลายเคราะห์มรรคตัดขาด!

วิธีนี้กลับทำให้พวกจ้าวหยวนจี๋ชื่นชมยิ่งนัก เอ่ยปากชมไม่หยุด

“ต้องเป็นความคิดของจักจั่นทองแน่”

เฟยหลันชายชุดขาวที่กลายร่างจากผีเสื้อราตรีสีเลือดเดาความจริงออกตั้งแต่พริบตาแรก ในกาลเวลาไร้สิ้นสุดที่ป่าต้นหม่อนนี้ คนที่เขาดูไม่ออกที่สุดก็คือจักจั่นทอง

ถึงขั้นที่ว่าในสายตาสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในป่าต้นหม่อน จักจั่นทองคือคนผู้เดียวที่เก็บซ่อนตัวตนแนบเนียน ลึกล้ำยากหยั่งถึงที่สุด

“คุณธรรมสูงส่ง อุ้มชูคนรุ่นหลังบ้าอะไร ข้าแทบอยากจะสังหารเจ้าเด็กนี่ คิดจะให้ข้าช่วยเขารึ ไม่มีทาง!”

ดอกกระบี่พันปีกแผดเสียงคำราม

“ฮึ เรื่องนี้ข้าก็ไม่มีทางรับปากแน่”

บรรพจารย์บัวโลหิตแค่นเสียงเย็นชา

“ไม่รับปากเกรงว่าคงไม่ได้แล้ว หลังจากเคราะห์นี้มาเยือน จะชักนำมาซึ่งพิบัติเคราะห์นานัปการเต็มแน่นทั่วนรกหมื่นเคราะห์ พวกเจ้า… ไม่อาจไม่เผชิญหน้า ในเมื่อเป็นเช่นนี้ทำไมไม่ทนรับชะตากรรม ถือเป็นการผูกวาสนาจะดีกว่า”

เสียงของชายหนุ่มจักจั่นทองดังขึ้นอีกครั้ง

ชั่วขณะเดียวทำเอาสีหน้าของพวกสัตว์ประหลาดเฒ่าอย่างดอกกระบี่พันปีก บรรพจารย์บัวโลหิต อูจิ่วฉง จวี้เทียนสิงทั้งหมดเปลี่ยนเป็นไม่น่าดูขึ้นมาทันที

ทนรับชะตากรรม?

เห็นพวกเขาเหล่ากึ่งจักรพรรดิเป็นอะไร

แล้วยังจะผูกวาสนาอีก นี่เห็นพวกเขาเป็นผู้ใจบุญ เอาชนะความโกรธด้วยคุณธรรมหรือไร

นี่ช่างทำให้ผู้คนคับข้องใจเกินไปแล้ว

ก่อนหน้านี้ที่หน้าตำหนักจักรพรรดิหมื่นเคราะห์ การปรากฏตัวของหลินสวินคนเดียวก็ทำลายปฏิบัติการล้อมโจมตีพวกจ้าวหยวนจี๋ของพวกเขา ถึงขั้นทำให้ตอนนี้จ้าวหยวนจี๋เป็นฝ่ายได้เปรียบในนรกหมื่นเคราะห์แล้ว

และเป็นหลินสวินที่ชักนำให้เฟยหลันปรากฏตัว ใช้ธนูวิญญาณไร้แก่นสารทะลวงกลีบดอกหนึ่งของดอกกระบี่พันปีก สยบเหล่ากึ่งจักรพรรดิ

แต่ไม่ว่าพวกเขาจะเกรี้ยวกราดอย่างไรก็ทำอะไรหลินสวินไม่ได้ เพราะไม่ได้มีแค่เฟยหลัน ข้างกายหลินสวินยังมีตัวดุร้ายน่ากลัวเจ็ดตัวคุ้มครองด้วย ทำให้พวกเขาอยากบิดขยี้มดปลวกตัวนี้แค่ไหนก็ไม่สามารถทำได้

และตอนนี้เจ้าเด็กนี่ยังกล้าหลอกใช้พวกเขา คิดจะยืมพลังของพวกเขามาสลายเคราะห์มรรคตัดขาด นี่เขาแม่ง…

ไม่เห็นกึ่งจักรพรรดิอยู่ในสายตาแล้วใช่ไหม

ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่มดปลวกตัวหนึ่งกล้าท้าทาย ทั้งลอบวางแผนใส่พวกเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ในใจเขามองกึ่งจักรพรรดิเป็นอะไร

ยิ่งคิดในใจของสัตว์ประหลาดเฒ่าพวกนี้ก็ยิ่งหัวเสีย ยากจะรับเหมือนกินแมลงวันตายเข้าไป

สิ่งที่ทำให้พวกเขารับไม่ได้ที่สุดคือ พวกเขาไม่อาจไม่ยอมรับที่ต้องเป็นฝ่ายถูกกระทำซะอย่างนั้น…

ต่อให้ใจดี ควบคุมอารมณ์ได้หรือจิตใจเข้มแข็งแค่ไหน ยามนี้ก็ทำให้พวกเขามีความรู้สึกเหมือนจะเป็นบ้าอย่างอดไม่ได้

ส่วนพวกจ้าวหยวนจี๋แต่ละคนกลับหัวเราะชอบใจ

ว่าไปแล้วตั้งแต่หลินสวินปรากฏตัว พวกเขาก็เหมือนบุญพาวาสนาส่ง ไม่เพียงคลี่คลายสถานการณ์คับขันยังเดินมาได้ถึงตอนนี้ นี่จะไม่ให้พวกเขาดีใจได้อย่างไร

กึ่งจักรพรรดิก็เป็นคน มีเจ็ดอารมณ์ หกปรารถนา ดีชั่วชื่นชอบเหมือนกัน!

ยิ่งปราณสูงพลังแข็งแกร่ง ก็ยิ่งปิดบังความรู้สึกและความรักชอบเดียดฉันท์ของตนไม่อยู่ เพราะแข็งแกร่งพอ จึงไม่หวาดกลัวสิ่งใด!

หากคิดว่าบุคคลสำคัญที่สูงส่งเหนือผู้อื่นเหล่านั้นมองการหยามเหยียดและยั่วยุราวสิ่งไร้ค่า อุปนิสัยเย็นชาสันโดษ ไม่มีคลื่นความรู้สึก นั่นก็เรียกได้ว่าผิดมหันต์

แต่เวลานี้หลินสวินไม่อาจคิดมากความแล้ว จิตใจของเขากำลังตึงเครียด หน้าตาจริงจังและระแวดระวังอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

ในรอยแยกแคบยาวบนเวิ้งฟ้านั่น พลังต้องห้ามเร้นลับชวนประหวั่นรวมตัวกันอย่างต่อเนื่อง น่าหวาดกลัวยิ่งกว่าเดิมแล้ว

ตอนนี้หลินสวินถึงได้ตระหนักว่า ต่อให้ตนเตรียมตัวมาพอแล้ว ก็ยังดูเบาความน่ากลัวของเคราะห์มรรคตัดขาดอยู่มาก

ด่านเคราะห์นี้ไม่ใช่สิ่งที่ผู้แข็งแกร่งบนมรรคาอมตะคนใดสามารถสลายได้จริงๆ!

ตูม!

ทวนเล่มหนึ่งที่วิวัฒน์จากกลิ่นอายของด่านเคราะห์ต้องห้ามรวมตัวกันแล้วพุ่งออกมาจากรอยแยกทันใด เต็มไปด้วยพลังกฎระเบียบต้องห้ามราวกับจะทำลายล้าง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์