เด็กสาวจักจั่นขาวบันดาลโทสะ บนหน้างามหาใดเปรียบเต็มไปด้วยความดุดันเย็นชา
นางเหลือแค่ก้าวสุดท้ายก็จะทะลวงนรกหมื่นเคราะห์ทั้งหมดผ่านแล้ว เดิมคิดว่ามีชายหนุ่มจักจั่นทองคอยช่วย จุดเปลี่ยนใหญ่นี้ต้องได้มาอย่างง่ายดายแน่
ไหนเลยจะคิดว่าจุดเปลี่ยนใหญ่นี้จะถูกคนชิงไปก่อน!
“ข้าจำศีลอยู่ที่นี่กับเจ้ามาเนิ่นนาน แต่เจ้ากลับทำกับข้าเช่นนี้หรือ”
เด็กสาวจักจั่นขาวตะโกนด้วยความเดือดดาล
นางเรียกตัวเองว่าไป๋ตี้ (จักรพรรดิขาว) สิ่งที่มุ่งหวังในใจมาตลอดแน่นอนว่าคือการบรรลุจักรพรรดิ แต่ตอนนี้ความหวังที่เฝ้ารอมานานอย่างยากลำบากหายไปหมดแล้ว
นี่จะให้นางพอใจได้อย่างไร
นางรู้ว่าชายหนุ่มจักจั่นทองต้องได้ยินแน่
“ข้าเคยบอกว่าจุดเปลี่ยนใหญ่นี้ไม่ใช่ของเจ้า ครั้งนี้ที่พาเจ้ามาก็ด้วยอยากพิสูจน์ในจุดนี้ เพื่อให้เจ้าไม่ยึดมั่นกับเรื่องนี้”
ไม่ทันไรเสียงทอดถอนใจของชายหนุ่มจักจั่นทองก็ดังขึ้นดังคาด “อาไป๋ หากเจ้ายังเชื่อข้าเหมือนตอนนั้น รอเมื่อออกไปจากที่นี่แล้ว ข้าจะเสาะหาจุดเปลี่ยนบรรลุจักรพรรดิให้เจ้า”
เด็กสาวจักจั่นขาวขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน แค้นเสียจนสั่นไปทั้งตัว “จุดเปลี่ยนบรรลุจักรพรรดิครั้งต่อไป? ยังต้องทนรอผ่านกาลเวลาไร้สิ้นสุดอย่างยากลำบากอีกหรือไม่”
“ไม่ ไม่นานแล้ว”
เสียงของชายหนุ่มจักจั่นทองเจือความเด็ดเดี่ยว “มหายุคในตอนนี้ต่างจากอดีตอย่างสิ้นเชิงแล้ว”
เด็กสาวจักจั่นขาวเงียบไปครู่ใหญ่ ควบคุมความโกรธและหดหู่ในใจแล้วกล่าวเย็นชา “ตั้งแต่วันนี้ไป ข้าไม่บรรลุจักรพรรดิ ก็ไม่อนุญาตให้เจ้าเรียกข้าว่าอาไป๋อีก!”
ชายหนุ่มจักจั่นทองที่ยืนอยู่ในตำหนักจักรพรรดิหมื่นเคราะห์เงียบไปสักครู่ ในที่สุดก็ถอนใจเบาๆ ไม่กล่าวอะไรอีก
…
หลินสวินไม่รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงประหลาดทั้งหมด
เขากำลังต้านเคราะห์มรรคตัดขาดเต็มกำลัง
แม้จะรู้ดีว่ามหาเคราะห์นี้ถูกผู้แข็งแกร่งระดับกึ่งจักรพรรดิคนอื่นแบกรับอานุภาพส่วนใหญ่ไปแล้ว แต่เขากลับไม่กล้าประมาทเลินเล่อใดๆ
ต่างจากเคราะห์ของการบำเพ็ญ การข้ามเคราะห์มรรคตัดขาดไม่ได้ให้ประโยชน์อะไรแก่พลังปราณของหลินสวิน
เพียงแต่หากทำลายเคราะห์นี้ได้ เขาก็จะฝึกมกุฎไตรมรรคพร้อมกันต่อไปได้ สามารถเสาะหามรรคาที่ก้าวสู่ระดับมกุฎอริยะโดยการฝึกมรรคาทั้งสามสายอย่างการหลอมปราณ หลอมจิต หลอมกายด้วยกันได้!
นี่ก็คือสิ่งที่หลินสวินมุ่งหวังปรารถนา
แต่สำหรับเหล่ากึ่งจักรพรรดิที่กระจายอยู่ในแดนลับต่างๆ ของนรกหมื่นเคราะห์พวกนั้น มหาเคราะห์นี้กลับเหมือนหายนะไม่คาดฝันอย่างหนึ่ง ทำให้พวกเขาหน้าดำราวก้นหม้อ ในใจไม่รู้ด่าโคตรเหง้าตระกูลของหลินสวินไปถึงไหน
น่าอดสูจริงๆ
ถ้าถูกคู่ต่อสู้ระดับเดียวกันลอบวางแผนใส่เช่นนี้ พวกเขาคงไม่มีทางหัวเสียเช่นนี้แน่ แต่เมื่อถูกมดปลวกที่พวกเขาไม่เห็นอยู่ในสายตาตัวหนึ่งขี้เยี่ยวรดหัว รสชาตินั้นไม่ต้องพูดเลยว่าน่ารังเกียจแค่ไหน
“อย่าให้ข้าจับเจ้าได้แล้วกัน!”
ดวงตาทั้งคู่ของบรรพจารย์บัวโลหิตดุจเปลวเพลิงร้อนระอุ
“มารดามันเถอะ!”
กึ่งจักรพรรดิที่ใจดีและจิตใจมั่นคงบางส่วนยังโกรธจนหลุดปากด่ายกใหญ่อย่างอดไม่อยู่
“ทำไมเจ้าเด็กนี่ถึงดิ้นรนเก่งแบบนี้ ทำไมเคราะห์มรรคตัดขาดไม่ผ่าเขาให้ตายเล่า”
พวกอูจิ่วฉง จวี้เทียนสิงแต่ละคนเดือดดาล
ความจริงแล้วสาเหตุที่แท้จริงอยู่ที่ครั้งนี้ไม่เพียงถูกหลินสวินหลอกใช้ สิ่งสำคัญยังอยู่ที่ทำให้พวกเขาพลาดจุดเปลี่ยนใหญ่ในการบรรลุจักรพรรดิตอนนี้ไปด้วย!
นี่ก็คือสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้สภาวะจิตของพวกเขาเดือดจัดและไม่พอใจ
พวกเขาแค่นำต้นเหตุของบทสรุปไปลงที่หลินสวินเท่านั้น คิดว่าหากหลินสวินไม่ชักนำเคราะห์มรรคตัดขาดนี้มากะทันหัน จนทำให้พวกเขาไม่อาจไม่ถูกดึงไปต้านพิบัติเคราะห์ด้วย คงไม่มีทางทำให้จุดเปลี่ยนใหญ่นี้หลุดมือไปต่อหน้าต่อตาแน่!
ในที่สุดเคราะห์มรรคตัดขาดก็หายไป ถูกคลี่คลายได้อย่างไร้อันตราย
ทั้งไม่เกิดเหตุไม่คาดฝัน
การข้ามด่านเคราะห์ในโลกลึกลับไม่ธรรมดาอย่างนรกหมื่นเคราะห์ ทั้งมีกึ่งจักรพรรดิมากมายร่วมแบกรับอานุภาพของมหาเคราะห์พร้อมกัน หากข้ามด่านเคราะห์นี้ไม่พ้นอีก นั่นก็เรียกว่าผิดปกติแล้ว
เพียงแต่ยังไม่รอให้กึ่งจักรพรรดิพวกนั้นโล่งอก ก็พลันสังเกตเห็นว่าช่องโหว่มหึมาราวถูกแหวกบนเวิ้งฟ้านั่นไม่ได้หายไป
กลิ่นอายพิบัติเคราะห์ต้องห้ามชวนประหวั่นที่อัดแน่นอยู่ในรอยแยกนั้น กลับน่ากลัวยิ่งกว่าก่อนหน้านี้ไม่ใช่แค่ร้อยเท่าพันเท่า!
แม้เป็นพลังปราณระดับกึ่งจักรพรรดิของพวกเขาก็ยังรู้สึกจิตใจสะท้านไหว ขนลุกไปทั้งตัว
“นี่…”
“เคราะห์พิฆาตมรรค!”
“นี่เป็นเรื่องจริง จุดเปลี่ยนใหญ่นั่นถูกคนชิงไปแล้ว…”
เพียงพริบตากึ่งจักรพรรดิทุกคนสีหน้าแปรเปลี่ยนยกใหญ่ หน้าประเดี๋ยวเขียวประเดี๋ยวขาว ในใจมีความรู้สึกคับข้องราวมีฝูงม้าห้อตะบึงคำรามก้อง โกรธจนแทบกระอักเลือด
เคราะห์พิฆาตมรรค นี่คือพิบัติเคราะห์ต้องห้ามอันน่ากลัวที่สุดที่ผู้แข็งแกร่งระดับอริยะทุกคนต้องเจอก่อนกลายเป็นจักรพรรดิ
ตั้งแต่สมัยบรรพกาลจนถึงปัจจุบัน ผู้แข็งแกร่งที่ฝีมือล้ำเลิศไม่รู้เท่าไรต่างหยุดอยู่ตรงนี้ ไร้วาสนาได้กลายเป็นจักรพรรดิ!
กึ่งจักรพรรดิแม้จะอยู่เหนือระดับอริยะ แต่ถ้าว่ากันตามจริงแล้วกลับอยู่ระหว่างระดับอริยะและระดับจักรพรรดิ ต้องเผชิญหน้ากับเคราะห์พิฆาตมรรคเหมือนกัน
อีกทั้งหากพวกเขาเหล่ากึ่งจักรพรรดิเดาไม่ผิด อานุภาพของเคราะห์พิฆาตมรรคครั้งนี้ เป็นไปได้สูงว่าจะถูกพวกเขาแบ่งไปทีละน้อยเหมือนกับเคราะห์มรรคตัดขาดก่อนหน้านี้ด้วย
เพียงพริบตาพวกเขาต่างมีความรู้สึกเหมือนอยากร้องไห้แต่ร้องไม่ออก นี่ไม่ใช่แค่ถูกหลอกแล้ว หากแต่เข้าทำนองลำบากทำแทนคนอื่น!
ช่วงชิงจุดเปลี่ยนใหญ่ไม่ได้ก็ทำให้พวกเขาหดหู่ใจและเคียดแค้นชิงชังแล้ว ตอนนี้ยังต้องมาช่วยเจ้าคนที่ได้จุดเปลี่ยนใหญ่ไปนั่นแบ่งเบาความเสี่ยงของการข้ามด่านเคราะห์อีก นี่…
ช่างน่าอัดอั้นจริงๆ!
“จำศีลอย่างยากลำบากมาถึงวันนี้ ในที่สุดก็จะมาแล้ว…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์