ดวงหน้างดงามยั่วยวนของจู๋อิ้งเสวี่ยบวมแดงราวกับหัวหมู เผ้าผมยุ่งเหยิง ชิงชังจนแทบจะคลั่งแล้ว
นางจะดูไม่ออกได้อย่างไรว่าหลินสวินจงใจเย้ยหยันนาง เหยียบย้ำเกียรติของนาง!
แต่นางกลับไร้เรี่ยวแรงจะต่อต้าน
แม้ข้างกายมีพวกพ้องมากมายออกโจมตีพร้อมกันก็ล้วนไม่มีประโยชน์!
“รุนแรงเกินไปแล้ว!”
ทุกคนในลานอดไม่ได้ที่จะตะโกนลั่นอย่างตื่นเต้น
ก่อนหน้านี้พวกเขาต่างกังวลมาก เป็นห่วงหลินสวิน ไม่แน่ใจว่าหลินสวินจะเป็นคู่ต่อสู้ของเหล่าศัตรูได้หรือไม่
แต่ตอนนี้ขอเพียงแค่ไม่ใช่คนโง่ต่างรู้ว่า หลินสวินไร้เทียมทาน!
ความมากน้อยของคู่ต่อสู้ เมื่ออยู่ภายใต้การโจมตีอย่างเด็ดขาดของเขาก็ไม่สำคัญอีกแล้ว
ในใจของเหล่าผู้ยิ่งใหญ่ดินแดนรกร้างโบราณมีเพียงความคิดเดียว บนมกุฎมรรคาระดับอมตะเคราะห์ จะมีพลังต่อสู้ที่น่ากลัวเหลือเชื่อขนาดนี้ได้อย่างไร
แม้ว่าประสบการณ์ของพวกเขาจะหลากหลายเพียงใด ก็ไม่สามารถกระจ่างและไม่สามารถเข้าใจได้
แต่พวกเขาต่างรู้ดีว่า มกุฎมรรคาของหลินสวินแตกต่างจากความหมายทางโลก และแตกต่างจากความเข้าใจ การรับรู้ของพวกเขา!
เพี๊ยะ!
ในสนามรบ เสียงตบกกหูคราหนึ่งดังก้องขึ้น หลังจากจู๋อิ้งเสวี่ยส่งเสียงกรีดร้องก็ปลิวถอยออกไปทั้งตัว
ทันใดนั้นนางเองก็ไม่รู้ว่าเพราะยอมรับความอับอายเช่นนี้ไม่ได้ หรือเพราะได้รับบาดเจ็บหนักเกินไป จึงหมดสติไปในทันใด
ภาพที่เหนือความคาดหมายนี้ทำให้ในลานอึ้งจนอ้าปากค้างอีกครั้ง
บุคคลชั้นยอดที่มาจากเผ่าจู๋หลงคนหนึ่ง กลับถูกหลินสวินง้างมือสะบัดใส่หน้าจนหมดสติไปดื้อๆ!
จนถึงตอนนี้ลั่งเชียนเหิงและมู่ไจซิงบาดเจ็บสาหัส จู๋อิ้งเสวี่ยหมดสติไป ในสนามเหลือเพียงแขกคนอื่นๆ จากต่างดินแดนอีกห้าคนที่กำลังต้านทานอย่างยากลำบาก
ส่วนหลินสวิน อานุภาพราวกับรุ้ง สง่างามอย่างมาก!
“ก่อนการประลอง ใครจะกล้าเชื่อ”
องค์ชายเซ่าเฮ่าส่งเสียงถอนหายใจ
สภาวะจิตของเขาไม่สามารถสงบได้ ในฐานะองค์ชาย เขาเองก็เป็นบุคคลชั้นผู้นำคนหนึ่งในมกุฎมรรคาแห่งดินแดนรกร้างโบราณ อีกทั้งเป็นที่นับถือของผู้คน ชื่อเสียงและความสามารถไม่ได้ด้อยไปกว่าหลินสวิน
แม้ไม่เคยประลองฝีมือกับหลินสวินอย่างจริงจัง แต่ตอนนี้พอเห็นความองอาจของหลินสวินในการต่อสู้ครั้งนี้ แม้แต่เขาเองก็อดนับถือไม่ได้
คนที่มีความคิดเช่นเดียวกับเขายังมีพวกเทพธิดารั่วอู่ แต่ละคนจิตใจกระเพื่อมไหว
ในเวลาเดียวกัน บนอากาศผู้แข็งแกร่งจากดินแดนอื่นอีกห้าคนสีหน้าอึมครึม หว่างคิ้วเต็มไปด้วยความตะลึงเคร่งเครียด
จิตต่อสู้ของพวกเขากำลังสั่นคลอนแล้ว!
ฟึ่บ!
หลินสวินไม่เคยหยุดมือ หลังจากโจมตีจู๋อิ้งเสวี่ยจนพ่ายแพ้ เงาร่างของเขาราวกับสายฟ้า จับจ้องชายที่สูงถึงสามจั้ง กล้ามเนื้อกำยำ ทั้งร่างอาบอยู่ในแสงวารีพวยพุ่งผู้หนึ่ง
คนผู้นี้นามว่าคุนเส่าจวิ้น มาจากเผ่าจักรพรรดิตระกูลคุนแห่งดินแดนโบราณขุมอุดร ไม่ด้อยกว่ามู่ไจซิงและจู๋อิ้งเสวี่ยเลยสักนิด
อีกทั้งเขาครอบครองอภินิหารพรสวรรค์ซึ่งเป็นหนึ่งในมรรคแห่งวังวนกลืนกิน มีส่วนคล้ายกับหุบเหวกลืนกิน
เผ่าคุน ลงทะเลเป็นคุน ขึ้นฟ้าเป็นเผิง ท่องทะยานในฟ้าดินเก้าหมื่นลี้ พลังแห่งพรสวรรค์เหนือกว่าเผ่าโบราณมากมาย รากฐานพลังแข็งแกร่งและเก่าแก่อย่างยิ่ง
และคุนเส่าจวิ้นคนนี้ก็คือบุคคลที่โดดเด่นในบรรดาคนรุ่นเยาว์ของเผ่านี้
“เจ้าคนแซ่หลิน กล้าประลองพลังมหามรรคกับข้าหรือไม่”
เห็นหลินสวินพุ่งมา คุนเส่าจวิ้นส่งเสียงตวาดออกมา สะเทือนใต้ท้องฟ้าราวกับฟ้าคำราม
ตูม!
ตอนที่พูดรอบตัวเขาพลันมีวังวนกระแสน้ำขนาดใหญ่พุ่งออกมา กลืนฟ้าบังดิน ฉีกทึ้งห้วงอากาศรอบๆ
สามารถมองเห็นได้รางๆ ว่าในวังวนกระแสน้ำนั่นมีคุนยักษ์ตัวหนึ่งกำลังแหวกว่าย กลืนกินหมื่นกระแส พัดพาลมคลื่น
ในลานเสียงอุทานด้วยความตกใจดังขึ้นระลอกหนึ่ง ในสายตาของหลายคนคล้ายมองเห็นคุนที่ใหญ่ไม่รู้กี่หมื่นลี้กำลังแหวกว่ายอยู่บนท้องฟ้า บดบังท้องฟ้าสุริยัน ทำให้คนหายใจไม่ออก
แน่นอนว่านี่เป็นเพียงแค่ปรากฏการณ์ประหลาดมหามรรค
ทว่าแม้จะเป็นเช่นนี้ก็ยังทำให้ผู้คนจิตใจสั่นไหว
“ทำไมจะไม่กล้า”
ดวงตาดำของหลินสวินราวกับสายฟ้า รอบๆ ร่างสูงโปร่งสง่างามพลันปรากฏหุบเหวใหญ่แห่งหนึ่ง ทั้งใหญ่และไม่มีที่สิ้นสุด ลึกไม่อาจคาดเดา มีดวงดาวดับสลายอยู่ในนั้น
ทันใดนั้นมหามรรคกระแสน้ำวนและมรรคแห่งหุบเหวกลืนกินปรากฏขึ้นพร้อมกัน ทั้งสองชนิดล้วนเรียกได้ว่าเป็นพลังมหามรรคที่ไม่เป็นสองรองใครในโลก แปรเปลี่ยนเป็นกฎเกณฑ์อมตะ ประชันกันกลางอากาศ!
ตูม โครม โครม!
ชั่วขณะเดียวตรงนั้นพายุโหมกระหน่ำ กระแสน้ำซัดสาด ห้วงอากาศล้วนยุบตัว ปรากฏภาพโกลาหล พังทลาย และล่มจม
ผู้แข็งแกร่งหลายคนต่างหยุดหายใจ สีหน้าเปลี่ยนไปกะทันหัน
การประชันมหามรรคง่ายที่สุด ตรงไปตรงมาที่สุด สิ่งที่แข่งกันคือความแตกฉานในการควบคุมมรรคของผู้แข็งแกร่งสองคน แต่การประลองเช่นนี้ก็อันตรายที่สุดเช่นกัน
หากไม่ระวังก็มีความเป็นไปได้ที่จะทำให้มรรควิถีในตัวได้รับความเสียหายอย่างหนัก!
“คนรุ่นเยาว์ปัจจุบัน ช่างเหี้ยมจริงๆ…” ในที่มืด เฒ่าดึกดำบรรพ์คนหนึ่งที่มีอายุมาแล้วไม่รู้นานเท่าไหร่ลอบถอนหายใจ
ทันใดนั้นในความปั่นป่วนที่สะเทือนหู เสียงหัวเราะยาวของหลินสวินดังขึ้น “ดูเหมือนว่าเจ้าก็ไม่ไหว”
ยังไม่ทันสิ้นเสียง
เสียงตูมรุนแรงดังขึ้น วังวนกระแสน้ำที่ราวกับกลืนท้องฟ้าระเบิดแหลก
ในเวลาเดียวกันคุนเส่าจวิ้นกระอักเลือด ร่างที่สูงใหญ่ราวกับภูเขาถูกซัดจนเซถอย กว่าจะยืนมั่นก็ห่างไปหลายสิบจั้ง
เขาหน้าซีดเผือด สีหน้ามีความไม่จำยอม หวาดกลัว และงุนงง ราวกับไม่เชื่อว่าเหตุใดตนถึงแพ้ไวขนาดนี้
“ตาพวกเจ้าแล้ว”
หลินสวินไม่สนใจคุนเส่าจวิ้นอีกต่อไป มองไปทางคู่ต่อสู้คนอื่นๆ
เดิมทีเป็นการโจมตีหมู่ แต่สถานการณ์ตอนนี้คือผู้แข็งแกร่งต่างดินแดนกำลังถูกหลินสวินกำราบทีละคน!
เหล่าผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณถูกกระตุ้นจนเลือดร้อนพลุ่งพล่านตั้งนานแล้ว หากไม่ใช่เพราะการต่อสู้ยังไม่จบลงอย่างแท้จริง พวกเขาคงโห่ร้องออกมาด้วยความดีใจตั้งนานแล้ว
“พวกเขาจะแพ้แล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์