Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1548

เซวี่ยชิงอีกล่าวจบก็เรียกตัวปี้เจี้ยนฉยงไว้ แล้วไล่ทุกคนในโถงใหญ่ออกไป

“อาจารย์อาเข้าใจเจตนาที่ข้าทำเช่นนี้หรือไม่”

จนกระทั่งในโถงใหญ่ไม่มีใคร เซวี่ยชิงอีจึงเอ่ยปากกล่าว

ปี้เจี้ยนฉยงครุ่นคิดเนิ่นนาน นัยน์ตาพลันสว่างวาบขึ้นมา กล่าวว่า “รักษาความแข็งแกร่ง ยืมดาบฆ่าคน?”

เซวี่ยชิงอีร้องอืมคราหนึ่ง ถอนหายใจเบาๆ กล่าวว่า “ครั้งนี้ค่ายทัพดินแดนโบราณมารโลหิตของพวกเรา เมื่อรวมกับพวกเล่อเซวี่ยซิวด้วย รวมทั้งสิ้นมีมกุฎอริยะสามสิบคนร่วงหล่น ความสูญเสียนี้… ไม่อาจเรียกว่าไม่ใหญ่!”

“ต่อไประหว่างพวกเราแปดดินแดนจะต้องทำการต่อสู้ ลำพังแค่ความเสียหายนี้ก็สามารถทำให้ดินแดนโบราณมารโลหิตของพวกเราอยู่ในสภาพเสียเปรียบได้แล้ว”

“ภายใต้สถานการณ์ระดับนี้ ขืนข้ายังไม่สนใจทุกสิ่ง ไปโจมตีสังหารหลินสวินนั่นอีก ถ้าสามารถฆ่าเขาตายในคราวเดียวได้นั่นย่อมดีกว่าอยู่แล้ว แต่ถ้าเกิดฆ่าไม่ตายล่ะ”

ปี้เจี้ยนฉยงอดกล่าวไม่ได้ “ชิงอี จากพลังในตอนนี้ของเจ้า หลินสวินนั่นมีหรือจะใช่คู่ต่อสู้ของเจ้า”

นัยน์ตาสีแดงฉานของเซวี่ยชิงอีทอประกายน่าสยดสยอง “ท่านคิดว่าด้วยนิสัยหลินสวินนั่น จะรอให้ข้าไปฆ่าเขาหรือ”

“ยิ่งไม่ต้องพูดถึง…”

สายตาเขาจับจ้องปี้เจี้ยนฉยง กล่าวว่า “อาจารย์อา ท่านเคยเห็นฝีมือของหลินสวินกับตาตัวเอง ตอนนี้ยังไม่เข้าใจอีกหรือว่าหากต้องการฆ่าคนผู้นี้ ใช่เรื่องง่ายดายขนาดนั้นเสียที่ไหน”

“เล่อเซวี่ยซิวร่วมกันลงมือเจ็ดคนยังพ่ายแพ้”

“เล่อเทียนเหิงลงมือกันสามคนยังพ่ายแพ้”

“เลี่ยอวี้ลงมือกันห้าคน รวมถึงมกุฎอริยะคนอื่นๆ อีกสิบหกคนออกโจมตีพร้อมกัน ก็ยังลงเอยด้วยความพ่ายแพ้”

“เมืองอารักษ์มรรคอันกว้างใหญ่ ถูกเขาคนเดียวปิดล้อมไว้แน่นหนา!”

พูดถึงตรงนี้ในสายตาเซวี่ยชิงอีทอประกายน่าสยดสยองออกมา น้ำเสียงต่ำลึกชวนผวา “อาจารย์อา ท่านยังคิดว่าการไปแก้แค้นตอนนี้เป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดอยู่อีกหรือ”

ปี้เจี้ยนฉยงสั่นเทิ้มทั่วร่าง แผ่นหลังผุดไอหนาวเหน็บขึ้นมา

เซวี่ยชิงอีเก็บสายตากลับมา สีหน้ากลับสู่แววเรียบเฉยกล่าวว่า “ข้าบอกแล้ว เจ้าหลินสวินนี่ก็คือดาบเล่มหนึ่ง ในเมื่อทำร้ายพวกเราได้ ก็สามารถตัดชิ้นเนื้อเจ็ดดินแดนอื่นทิ้งได้เหมือนกัน! ดินแดนอื่นอยากเห็นเรื่องตลกไม่ใช่หรือ ข้าจะไม่ยอมให้พวกเขาสมปรารถนาแน่”

“ถ้าจะสูญเสีย ทุกคนก็ต้องสูญเสียด้วยกัน ใครก็หนีไม่พ้น!”

กล่าวถึงตอนท้ายทั่วร่างเซวี่ยชิงอีก็แผ่อานุภาพบีบคั้นออกมาวูบหนึ่ง สีหน้าเปี่ยมด้วยแววเย็นเยียบ

ปี้เจี้ยนฉยงอดถามไม่ได้ “เช่นนั้น… พวกเราจะอดทนเช่นนี้ ไม่ทำอะไรเลยหรือ”

เซวี่ยชิงอีกล่าวอย่างใคร่ครวญ “แน่นอนว่าจะไม่ทำอะไรเลยคงไม่ได้”

ปี้เจี้ยนฉยงพลันเหิมฮึก

กลับได้ยินเซวี่ยชิงอีกล่าวอย่างมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว “เรียกกองกำลังดินแดนโบราณมารโลหิตของพวกเราถอนทัพกลับจากโลกรกร้างโบราณให้หมด ต่อไปหากไม่มีคำสั่งจากข้า ห้ามเหยียบเข้าสู่โลกรกร้างโบราณอีกแม้แต่ก้าวเดียว!”

อะไรนะ

ปี้เจี้ยนฉยงงงเป็นไก่ตาแตก เกือบจะร้องออกมาแล้ว นี่ไม่ใช่เป็นการบอกขุมอำนาจดินแดนอื่น ว่าดินแดนโบราณมารโลหิตของพวกเรากำลังก้มหัวให้ดินแดนรกร้างโบราณหรอกหรือ

“อาจารย์อา เรื่องนี้แน่นอนว่าจะกลับมาแบบเปิดเผยโจ่งแจ้งไม่ได้”

เซวี่ยชิงอีถอนหายใจเบาๆ ค่อนข้างผิดหวังต่อปฏิกิริยาตกอกตกใจของปี้เจี้ยนฉยง และคร้านจะอธิบายอีก กล่าวว่า “ไปเถอะ แค่ทำตามที่ข้าบอก”

ถึงแม้ในใจปี้เจี้ยนฉยงจะยังคงกังขาอยู่บ้าง แต่ก็ยังรับคำสั่งจากไป

เซวี่ยชิงอียืนตระหง่านอยู่ในโถงใหญ่คนเดียว นิ่งเงียบเนิ่นนาน บนร่างผุดไอสังหารน่าสะพรึงที่ไม่อาจควบคุมได้ออกมา

ประสบกับความอัปยศใหญ่หลวงระดับนี้ มีหรือเขาจะไม่เดือดดาล

“หลินสวิน! จะยอมให้เจ้ากระโดดโลดเต้นอีกสักระยะ ก็ดูว่าดาบอย่างเจ้าจะคมสักแค่ไหน ต่อไปข้าจะค่อยๆ คิดบัญชีนี้กับเจ้า!”

เสียงชัดถ้อยชัดคำ ไอสังหารพวยพุ่ง เผยความแค้นอันไร้สิ้นสุดออกมา ก้องสะท้อนโถงใหญ่อันเงียบสงัดว่างเปล่าแห่งนี้

“อะไรนะ เซวี่ยชิงอีถึงกับอดทนไว้?”

“อย่าบอกนะว่าครั้งนี้ความสูญเสียของโลกมารโลหิตใหญ่โตเกินไป ทำให้เซวี่ยชิงอีไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามอีก”

“เฮอะ เซวี่ยชิงอีนี่ต้องมีอุบายอย่างอื่นอีกเป็นแน่”

“ฮ่าๆ เซวี่ยชิงอีเจ้าหมอนี่ เห็นได้ชัดว่าไม่ยินดีถูกผู้อื่นใช้เป็นปืนใหญ่”

ไม่ทันไรการตัดสินของเซวี่ยชิงอีก็แพร่สะพัดออกไป ถูกบุคคลชั้นนำของดินแดนอื่นรู้กันทั่ว

ชั่วขณะเดียวทุกคนล้วนรู้สึกตกใจสงสัยไม่หาย ต่างฝ่ายต่างทำการสันนิษฐาน

แค้นใหญ่ระดับนี้ เซวี่ยชิงอีถึงกับอดทนไว้ได้ ในหัวเจ้าหมอนี่คิดจะทำอะไรกันแน่

และก็เพราะข่าวนี้ทำให้ผู้แข็งแกร่งของดินแดนอื่นไม่มีใครไม่หัวเราะผสมโรง คิดว่าบุคคลระดับผู้นำของดินแดนยิ่งใหญ่แห่งหนึ่ง บุคคลแห่งยุคหนึ่งในแปดยอดนภาครามอย่างเซวี่ยชิงอี เวลาแบบนี้กลับอดทนอดกลั้นเอาไว้ ออกจะขี้ขลาดและไม่เอาไหนเกินไป

“เซวี่ยชิงอีนี่ใจเสาะเกินไปแล้วชัดๆ ข้าล่ะสงสัยนักว่าเขากลายเป็นหนึ่งในแปดยอดนภาครามได้อย่างไร”

“นี่เขายังรังเกียจว่าดินแดนโบราณมารโลหิตขายหน้าไม่พออีกหรือ”

“ถึงกับถูกมกุฎอริยะดินแดนรกร้างโบราณคนหนึ่งข่มขวัญเอาได้ เซวี่ยชิงอีนี่… ช่างทำให้คนผิดหวังเกินไปแล้ว”

เมื่อข่าวนี้ถูกรับรู้มากขึ้นเรื่อยๆ ในดินแดนอื่นเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะเยาะทุกรูปแบบ ทำให้เกียรติยศชื่อเสียงของเซวี่ยชิงอีเสียหายอย่างที่สุด

เซวี่ยชิงอีไม่ได้อธิบายอะไร หลังจากวันนั้นเป็นต้นมาเขาก็เอาแต่นั่งสมาธิฝึกปราณ เก็บตัวอยู่ในห้องไม่ค่อยออกมา

นิ่งเฉยไม่สะทกสะท้าน

ไม่ว่าอย่างไรคลื่นลมที่หลินสวินกระพือขึ้นฉากนี้ก็เงียบลงไปทั้งอย่างนี้ ภายใต้ความอดกลั้นของเซวี่ยชิงอี

แต่ชื่อเสียงของหลินสวินก็พลอยเข้าสู่ครรลองสายตาของแปดดินแดน เป็นที่รู้จักของทุกคน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์