คิดอยากให้คนธรรมดาทั่วไปยกย่องว่าเป็นผู้นำ ง่ายดายยิ่ง เพียงแค่หยิบยื่นผลประโยชน์ให้อีกฝ่าย สนองความต้องการของเขา และมีวิธีบังคับควบคุมชุดหนึ่งก็พอแล้ว
คิดอยากให้เหล่าผู้ฝึกปราณยกย่องเป็นผู้นำ นี่กลับยาก ก็เปรียบเหมือนปกครองสำนักแห่งหนึ่ง หากหมายจะรวมผู้แข็งแกร่งทั้งหมดเป็นปึกแผ่น ย่อมต้องมีพลัง สติปัญญา และความน่าเกรงขาม
และหากอยากให้มกุฎอริยะอย่างเซ่าเฮ่า รวมถึงรั่วอู่ต่างเต็มใจทำงานร่วมกับเขา ยกย่องเขาเป็นผู้นำ…
ยากยิ่งกว่าขึ้นสวรรค์ชัดๆ!
ถึงอย่างไรในดินแดนรกร้างโบราณ อริยะล้วนเรียกได้ว่าเป็นยักษ์ใหญ่ฝ่ายหนึ่ง ยืนตระหง่านอยู่เหนือโลก
ส่วนมกุฎอริยะยิ่งต่างกันไปอีก อย่างน้อยในกาลเวลาตั้งแต่ยุคบรรพกาลจวบจนปัจจุบัน ภายในดินแดนรกร้างโบราณก็ไม่เคยปรากฏมกุฎอริยะมาก่อน
และในช่วงเวลาที่สมรภูมิเก้าดินแดนเปิดออก ถึงทำให้เซ่าเฮ่าและรั่วอู่ต่างพากันเหยียบย่างระดับมกุฎอริยะ กลายเป็นบุคคลมหัศจรรย์ที่โดดเด่นสะดุดตายิ่งกว่าอริยะแท้ทั่วไป
ส่วนหลินสวิน เห็นได้ชัดว่าแต่ไหนแต่ไรไม่เคยพยายามเพื่อสิ่งนี้มาก่อน แต่กลับทำเรื่องที่ยากยิ่งกว่าปีนป่ายขึ้นฟ้าได้สำเร็จโดยไม่รู้ตัว!
อย่างเช่นตอนนี้ เซ่าเฮ่า รั่วอู่ต่างก็ทำตามคำสั่งของเขาอยู่ในที
นี่ทำให้รั่วอู่ไม่อยากยอมรับยังไม่ได้
…
เวลาผันผ่าน หนึ่งเดือนเคลื่อนคล้อยไปอย่างรวดเร็ว
ในหนึ่งเดือนนี้เซ่าเฮ่านำทัพผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณทั้งกลุ่มห้อตะบึงตามพื้นที่ต่างๆ โลกรกร้างโบราณ พัดกระพือพายุนองเลือดฉากแล้วฉากเล่า
ขุมอำนาจศัตรูแปดดินแดนที่ท่องทั่วโลกรกร้างโบราณไม่รู้เท่าไหร่ถูกกวาดล้างหมดเกลี้ยง
มีมกุฎอริยะอย่างเซ่าเฮ่าคอบควบคุมดูแล การเข่นฆ่าตลอดทางนี้ล้วนโจมตีไม่มีพ่าย ไม่มีศึกไหนไม่ชนะ!
และจากจุดนี้ ศพและเลือดของศัตรูที่ใช้เป็นวัสดุสร้างเมืองกองแล้วกองเล่าจึงถูกลำเลียงเข้ามาในค่ายประจำการชั่วคราว
ซากศพถูกกองเป็นภูเขาเล็กกองแล้วกองเล่า
เลือดถูกเทลงในบ่อน้ำที่ถูกขุดเจาะไว้เป็นอย่างดีบ่อแล้วบ่อเล่า
ในค่ายชั่วคราวขนาดใหญ่ ปรากฏภาพนองเลือดจำพวก ‘ภูเขาศพบ่อเลือด’ เพิ่มขึ้นมาในชั่วขณะ
เพราะนองเลือดเกินไป ฟากฟ้าเหนือภูเขาศพบ่อเลือดถึงขั้นปรากฏลักษณ์ประหลาดเกรี้ยวกราดมากมาย ดุจดั่งพายุอสนี เสียงเทพผีโหยหวนลากยาวไม่หยุด
ควรรู้ว่าในหมู่ศัตรูที่ถูกล้างบางเหล่านี้ แทบจะเป็นราชันระดับอมตะเคราะห์ทั้งสิ้น ส่วนหนึ่งในนั้นยิ่งมีพวกระดับอริยะแท้ด้วย
แม้จะถูกสังหาร ในเลือดและซากศพของพวกเขาก็ยังหลงเหลือความแค้นและความอาฆาตอยู่ และตอนนี้ถูกกองสะสมเข้าด้วยกัน จะเกิดลักษณ์ประหลาดน่าสะพรึงชวนผวาบ้างก็ไม่แปลก
เพื่อสิ่งนี้ หลินสวินวางผนึกควบคุมเป็นการเฉพาะ ทำการกดกำราบ หาไม่ความน่าเวทนาอาฆาตที่เลือดและซากศพซึ่งกองรวมกันอยู่ในจุดเดียวเหล่านี้แผ่ออกมา อาจถึงขั้นอาจกระทบต่อสภาพจิตใจคนเลยก็ได้!
ในเวลาเหล่านี้ผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณแต่ละคนดุจดั่งหาเสาหลักพบ ไม่สิ้นหวังและลนลานเหมือนก่อนหน้านี้อีก แต่ละคนล้วนฮึกเหิม เต็มไปด้วยปณิธานต่อสู้โหมกระพือ
บ้างพากเพียรเคี่ยวกรำแข่งกับเวลา
บ้างช่วยเสาะหาทรัพยากรฝึกปราณตามสถานที่ต่างๆ ในโลกรกร้างโบราณ
สมรภูมิเก้าดินแดนไพศาลไร้ขอบเขต มีแดนลับมากมายอยู่ในนั้น แดนลับบางแห่งเปี่ยมด้วยภัยอันตราย แต่ก็มีบางแห่งเต็มไปด้วยวาสนาที่ยากจะจินตนาการ
ในวาสนาเหล่านี้ ส่วนใหญ่เป็นสมบัติอย่างวัตถุดิบเทพ โอสถสมบัติ สมบัติล้ำค่าที่หาได้ยากจากโลกภายนอก ความล้ำค่าของสมบัติบางอย่าง แม้แต่อริยะก็ยังน้ำลายไหลไม่หยุด
กล่าวง่ายๆ คือ ในระยะนี้ทั่วทั้งค่ายชั่วคราว ทุกวันล้วนปรากฏภาพ ‘เพลิงระอุเสียดฟ้า พลังงานเต็มเปี่ยม’
รั่วอู่เห็นทุกอย่างอยู่ในสายตา ในใจก็ตื่นเต้นไม่หยุด
ก่อนหน้านี้นางถึงขั้นไม่กล้าคิด
การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้ ล้วนเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดือนกว่าสั้นๆ นี้!
ไกลออกไปเซ่าเฮ่านำทัพผู้แข็งแกร่งทั้งกลุ่มมุ่งหน้าย้อนกลับค่าย สีหน้าแต่ละคนล้วนเจือแววภาคภูมิ
เห็นได้ชัดว่าผลเก็บเกี่ยวในวันนี้ไม่เลวอย่างยิ่ง
รั่วอู่อดมองไปไกลอีกไม่ได้ ที่แห่งนั้นหลินสวินยังเหมือนเดิมทุกประการ พิจารณาและอนุมานด้วยสีหน้าจดจ่อเปี่ยมสมาธิ ลืมเลือนตัวตนอย่างสิ้นเชิง
หว่างคิ้วของนางเจือแววสับสน พึมพำในใจ ‘ไม่ต้องรหกระเหินอีก และไม่ต้องหนีตายอุตลุดอีกต่อไปแล้ว… ถ้าหากเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ได้ นั่นจะดีแค่ไหนกันนะ…’
หลังจากนั้นรั่วอู่ก็นิ่งเงียบไป
นี่คือสมรภูมิเก้าดินแดน ความสงบเงียบชั่วคราวอย่างไรก็ต้องถูกทำลายลง การเข่นฆ่าทารุณนองเลือด จึงจะเป็นสถานการณ์ปกติของสมรภูมิเก้าดินแดน!
…
“สำเร็จแล้ว!”
ในวันนี้หลินสวินตื่นจากการอนุมาน พ่นลมหายใจหนักหน่วงออกมาเฮือกหนึ่ง นัยน์ตาดำทอประกาย ทั้งตัวล้วนผ่อนคลายขึ้นมา
ในใจของเขา ได้อนุมานกระบวนค่ายกลอริยะพิทักษ์เมืองที่ซับซ้อน ไพศาล เร้นลับหาใดเปรียบเป็นรูปร่างสมบูรณ์แล้ว
กระบวนค่ายกลนี้ ใช้ ‘ค่ายกลวัฏจักรดารา’ เป็นรากฐาน ทั้งถูกหลินสวินแบ่งจัดวางออกเป็นสี่ค่ายกลสังหารหลักอย่าง ‘ยอดนภา’ ‘แดนพิฆาต’ ‘ทลายเทพ’ ‘ดับวิญญาณ’
ค่ายกลสังหารหลักแต่ละแห่งล้วนปกคลุมด้วยกระบวนสลักลายมรรคมากมาย แต่ละกระบวนสลักประทับพลังลายมรรคนับหมื่น!
เหมือนอย่าง ‘ค่ายกลสังหารยอดนภา’ ที่อานุภาพแข็งแกร่งที่สุด ใช้หกสิบสี่กระบวนสลักลายมรรค และแปดล้านสี่แสนลายมรรควาดออกมา ทันทีที่โคจร ต่อให้เป็นอริยะแท้มุ่งหน้ามาก็จะต้องถูกสังหารทิ้งง่ายๆ!
นอกจากสี่ค่ายกลสังหารหลักแล้ว ยังมีค่ายกลป้องกันอีกแปดแห่งทำการต้านทาน
ค่ายกลป้องกันแปดแห่งนี้จะถูกวางคลุมอยู่ที่คูเมืองแปดฝั่งกำแพงเมืองสี่ทิศ เบื้องบนเชื่อมสวรรค์ เบื้องล่างจรดดิน
การอนุมานและใคร่ครวญไม่หลับไม่นอนที่กินเวลาเกือบสองเดือน ในที่สุดรายละเอียดทุกอณูของกระบวนค่ายกลนี้ก็ประกอบกันอย่างสมบูรณ์แบบเสียที ทำให้เวลานี้หลินสวินมีความรู้สึกเหนื่อยล้าเหลือทน
ไม่มีใครรู้แน่ชัด ว่าจิตใจและเลือดเนื้อที่เขาทุ่มเทเพื่อสิ่งนี้ยิ่งใหญ่ขนาดไหน!
นี่ยังดีที่เขาเคยได้รับนัยเร้นลับมรดกสมบูรณ์ของ ‘ค่ายกลวัฏจักรดารา’ ไม่เช่นนั้นหากอยากตรึกตรองถึงผนึกต้องห้ามอริยะขนาดใหญ่ที่ทั้งโจมตีและป้องกันได้เช่นนี้ เวลาสองเดือนสั้นๆ ไม่มีทางทำได้อย่างแน่นอน
ย้อนคิดถึงปีนั้นที่ริมฝั่งทะเลหมากดารา หลินสวินเพียงแค่หยิบยืมพลังของ ‘ค่ายกลวัฏจักรดารา’ ก็สังหารเหล่าราชัน ฆ่าจนเลือดไหลพันลี้ ฟ้าดินมืดมัว
ต่อให้เป็นอริยะมารุกราน ล้วนเพราะกริ่งเกรงพลังของ ‘ค่ายกลวัฏจักรดารา’ ไม่กล้าล้วงล้ำแม้แต่ก้าวเดียว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์