Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1574

มกุฎอริยะลงมือพร้อมกัน อานุภาพระดับนั้นจะธรรมดาได้อย่างไร

กลางฟ้าดิน เต็มไปด้วยไอสังหารหนาแน่นราวกับแก่นแท้ แผ่เสียงสังหารอริยมรรคมากมายที่สะเทือนจิตวิญญาณออกมา

ภูผาธาราพันลี้ ล้วนทรุดทลายอย่างไร้สุ้มเสียง!

เพียงแค่กลิ่นอายก็เพียงพอจะทำให้อริยะแท้รู้สึกถึงความสิ้นหวัง สำหรับผู้แข็งแกร่งที่ต่ำกว่าระดับอริยะ หากถูกม้วนเข้าไปจะต้องตายอย่างแน่นอน

และในบรรยากาศที่กดดันอย่างที่สุดนี้ หลินสวินสะบัดแขนเสื้อ ก้าวย่างกลางห้วงอากาศ

ชิ้ง!

กระบี่ยอดสังหารที่เตรียมพร้อมรอลงมือนานแล้วส่งเสียงกราดเกรี้ยวออกมา ราวกับเสียงร้องด้วยความดีใจที่หมายจะได้ดื่มเลือดอริยะ ไอเข่นฆ่าดุดันปลดปล่อยออกมา

“จำนวนคนเท่านี้ยังคิดหยั่งเชิงพลังเบื้องลึกของข้าหรือ”

เสียงหัวเราะที่แฝงรสชาติเย้ยหยันดังขึ้น หลินสวินก้าวออกมา เงาร่างสูงโปร่งมีแสงมรรคคลุมเครือไหลเวียน ดวงตาดำเย็นเยียบ ราวกับเทพมารองค์หนึ่ง

“ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง!”

“เจ้าบ้า ตายซะ!”

“ฆ่า!”

ในเสียงตะโกนแต่ละระลอก มกุฎอริยะสามสิบคนที่ล้อมเข้ามาราวกับพัด ถือสมบัติอริยะหลากสี ต่างสำแดงวิชาของตน โจมตีออกมา

ฟ้าดินพลิกตลบ สุริยันจันทราไร้แสง ชั่วพริบตาเดียวหลินสวินก็ถูกการโจมตีมากมายราวกับคลื่นมหาสมุทรโถมซัดปกคลุม

ตึง!

คนที่โจมตีเข้ามาเป็นคนแรกคือสงฆ์เฒ่าที่ท่าทางเคร่งขรึม ผิวหนังราวกับหล่อขึ้นจากหยกทอง ในมือถือคทาขักขระทองคำโจมตีหลินสวินจากด้านหน้า

คทาขักขระนั่นปรากฏเงามายาของมุนินทร์ สำแดงอานุภาพมังกรฟ้าที่ไพศาลดุดันสะเทือนฟ้าดิน

อีกด้านยังมีมกุฎอริยะหลายคนโจมตีขนาบมา

เด็กหนุ่มชุดขาวที่บนร่างพรั่งพรูเพลิงเทพสีม่วง เปลี่ยนเป็นกิเลนเพลิงม่วงที่ราวกับมีชีวิตตัวหนึ่ง ดูเสมือนจริง พลังล้นฟ้า มีอานุภาพพลิกแม่น้ำคว่ำสมุทร สะท้านสะเทือนภูผาธารา

เหนือศีรษะของนักพรตชุดดำคนหนึ่งมี ‘ระฆังจรัสควบคุมฟ้า’ ลอยอยู่ ตัวระฆังมีเงาร่างนักพรตนั่งอยู่ ปากระฆังสาดแสงขาวพันหมื่นสาย แสงขาวทุกสายล้วนรวมตัวจากกฎเกณฑ์อริยมรรคไร้สิ้นสุด สามารถชำระจักรวาล สังหารเทพผีจนสิ้น

นอกจากนี้ยังมีหญิงชุดเลือดที่ครอบครองพิณโบราณคนหนึ่ง และชายกลางคนหนวดโง้งที่ถือทวนอสรพิษอีกคน

นี่เป็นเพียงแค่การโจมตีระลอกแรกเท่านั้น บรรยากาศก็ครัดเคร่งแล้ว มืดฟ้ามัวดิน ดุดันท่วมฟ้า

หากเป็นมกุฎอริยะคนอื่นอยู่ที่นี่ ความคิดแรกก็คงเป็นหนี ไม่กล้าปะทะ

แต่หลินสวินกลับเป็นข้อยกเว้น

ชิ้ง!

เขาไม่ถอยกลับยังเดินหน้า ก้าวไปข้างหน้า กระบี่ยอดสังหารในมือชักนำประกายกระบี่นองเลือดยาวพันจั้ง ราวกับแม่น้ำนรกสายหนึ่งไหลลู่จากเก้าชั้นฟ้า

ตูม!

เสียงกึกก้องระเบิดดังกะทันหัน

ประกายกระบี่สีเลือดและคทาขักขระทองคำปะทะกัน คลื่นน่าหวาดหวั่นสองสายพุ่งชน เกิดเสียงดังปานฟ้าร้อง

สงฆ์เฒ่าคนนั้นรู้สึกเพียงว่ากำลังเผชิญการโจมตีจากแม่น้ำนรก คทาขักขระทองคำส่งเสียงครวญรุนแรง จะปลิวหลุดมืออยู่หลายครั้ง ซัดจนเขาจำต้องถอยหนี แม้แต่เลือดลมรอบตัวยังพลิกตลบ

สงฆ์เฒ่าตะลึง วิชาลับหลอมกายในมรรคธรรมที่เขาฝึก กายหยาบบรรลุอริยะ แข็งแกร่งอย่างที่สุด ไม่คิดว่ากลับถูกกำราบโดยสมบูรณ์ตั้งแต่การโจมตีแรกของการปะทะซึ่งหน้า!

หลินสวินดีดนิ้วหนึ่งออกมา วสันต์สารทชั่วพริบตายิงพุ่ง กิเลนเพลิงม่วงของเด็กหนุ่มชุดขาวยังไม่ทันเข้าใกล้ ก็ถูกหนึ่งดรรชนีนี้ดีดจนปลิว ส่งเสียงร้องอนาถ

แต่ในเวลาเดียวกันระฆังจรัสควบคุมฟ้าของนักพรตชุดดำก็ทะยานลงมาจากฟ้าแล้ว ในระฆังแผ่ประกายขาวพันหมื่นออกมา ล้วนควบรวมจากกฎเกณฑ์อริยมรรค เป็นประกายระยิบระยับ ราวกับระเบียบมหามรรคอย่างไรอย่างนั้น

ชั่วพริบตาก็ปกคลุมร่างกายของหลินสวินเอาไว้

“ฆ่า!”

ฉวยโอกาสนี้ หญิงที่ควบคุมพิณโบราณ และชายกลางคนที่ถือทวนอสรพิษโจมตีขนาบมาจากสองฝั่งอย่างไม่ลังเลสักนิด

“กลอุบายแค่นี้ก็คิดอยากกักตัวข้าไว้หรือ ไสหัวไป!”

ร่างหลินสวินปรากฏแสงใสที่น่าสะพรึงในบัดดล เลือดลมเดือดพล่านราวกับมังกรเดือดดาลออกจากหุบเหว เมื่อตวาดออกมา พลังที่ปกคลุมรอบตัวราวกับแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ

ตูมโครม!

ในประกายศักดิ์สิทธิ์ที่ถาโถม ระฆังจรัสควบคุมฟ้าที่ลงมาเยือน หญิงที่ควบคุมพิณ และชายวัยกลางคนหนวดโง้งที่โจมตีเข้ามา ยังไม่ทันเข้าใกล้ก็ถูกพลังซึ่งปลดปล่อยจากร่างของหลินสวินซัดจนถอยไปอย่างแรง

เสียงอุทานด้วยความตกใจดังขึ้น

ก็เห็นระฆังจรัสควบคุมฟ้าส่ายไปมา กระเด็นลอยไป

มุมปากของหญิงที่ควบคุมพิณหลั่งเลือด ชายกลางคนหนวดโง้งถูกซัดถอยไป ทุกก้าวย่างแม้แต่อากาศยังถล่มทลาย เลือดลมรอบตัวพลิกตลบ ทรมานจนแทบกระอักเลือด

การประมือในพริบตานั้น การล้อมโจมตีของอริยะห้าคนอย่างพวกสงฆ์เฒ่า นักพรตชุดดำ เด็กหนุ่มชุดขาว ถูกซัดจนสลายอย่างง่ายดาย!

มกุฎอริยะที่โจมตีมาจากทิศทางอื่นก็นัยน์ตาหดรัดลง สู้กันซึ่งหน้ายังคงแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนั้น ความน่ากลัวของหลินสวินเหนือกว่าที่พวกเขาจินตนาการเอาไว้เสียอีก

ทว่าเพียงชั่วพริบตาเท่านั้นร่างของหลินสวินก็ราวกับถูกปกคลุมอีกครั้ง เพราะคนที่ล้อมโจมตีคราวนี้ไม่ได้มีเพียงห้าคน แต่เป็นมกุฎอริยะถึงสามสิบคน!

ตูมโครม!

ชั่วขณะเดียวในที่นั้นประกายแสงระเบิดออก วิชามรรคสลับทับซ้อน แสงสมบัติอริยะแพรวพราว ปรากฏการณ์ประหลาดตะลึงโลกมากมายซ้อนทับไปมา

ฟ้าดินราวกับถล่มทลายในตอนนี้ ด้วยการต่อสู้ชั้นยอดที่น่าสะพรึงกลัว

ผู้แข็งแกร่งที่หลบชมการต่อสู้อยู่ในกระบวนค่ายกลใหญ่ใบหน้าเปี่ยมด้วยความตกใจ พวกเขาต่างดูรายละเอียดการต่อสู้ไม่ชัด ทว่าแม้จะเป็นเช่นนี้ก็ยังคงทำให้พวกเขายากจะสงบใจ

นี่เป็นถึงมกุฎอริยะสามสิบคนเชียวนะ!

ส่วนคู่ต่อสู้คือชายหนุ่มที่เพิ่งก้าวสู่ระดับมกุฎอริยะเพียงปีเดียวเท่านั้น แค่ความต่างเรื่องจำนวนคนก็เหลือเชื่อพอแล้ว เรียกได้ว่าตะลึงโลก

จ้าวจิ่งเซวียนใจจดใจจ่อ ดวงตาคู่งามจ้องบนร่างหลินสวินที่ถูกปิดล้อมอยู่ในนั้นตลอดเวลา ใบหน้าหยกที่งดงามไร้ที่ตินิ่งสงบ

ทว่าแม้จะมั่นใจในพลังต่อสู้ของหลินสวิน ในใจก็อดกังวลไม่ได้

ปราณกระบี่ไท่เสวียน…

จนสุดท้ายรอบตัวหลินสวินปรากฏหุบเหวใหญ่แห่งหนึ่งพาดขวางฟ้า ราวกับจะกลืนกินท้องฟ้าแถบหนึ่งอย่างไรอย่างนั้น กลิ่นอายทำลายล้างที่ปลดปล่อยออกมาอัดแน่นเต็มฟ้าดินแถบนี้

ห้วงอากาศในรัศมีพันลี้ล้วนส่งเสียงระเบิดพังทลายออกมา พลังที่น่าสะพรึงราวกับธารดาราโถมซัด เปลี่ยนเป็นลมพายุลูกใหญ่รวมตัวอยู่ตรงเหวใหญ่ด้านหลังหลินสวิน

ก็เห็นใต้ผืนฟ้าสรรพสิ่งบิดเบี้ยวถล่มทลาย สะท้อนปรากฏการณ์ประหลาดที่น่ากลัวออกมา เพียงพอจะทำให้คนบนโลกตัวสั่นด้วยความสิ้นหวัง ราวกับวันสิ้นโลกมาเยือน

มกุฎอริยะสามสิบคนล้วนสีหน้าเปลี่ยนไป ต่างคิดไม่ถึงว่าหลินสวินไม่เพียงสามารถยืนหยัดได้ถึงตอนนี้ กลับดูเหมือนจะพลิกสถานการณ์ กลายเป็นฝ่ายบุก

พวกเขาทุกคนต่างใช้ทุกวิธี โจมตีเต็มกำลัง แต่ละคนราวกับเทพที่เดือดดาล

นี่ทำให้คนที่ชมการต่อสู้อยู่ห่างไปอดสูดหายใจด้วยความตกใจไม่ได้ ตกอยู่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ยังสามารถต่อสู้ได้อย่างดุเดือด ถึงขั้นจะพลิกสถานการณ์ ความยากจะรับมือและความร้ายกาจของหลินสวินทำให้พวกเขาใจสั่นและตกตะลึง

แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาลอบโล่งอกคือ ไม่นานในที่สุดหลินสวินก็บาดเจ็บแล้ว

ฉัวะ!

ปราณกระบี่ดำสนิทสายหนึ่งกวาดผ่านไหล่ของหลินสวินเป็นรอยเลือด

ไม่ทันไรแผลที่สอง สามและสี่ก็ปรากฏติดๆ กัน แม้บอกว่ามีพลังหลอมกายและนัยเร้นลับไร้มรณะซ่อมแซม ไม่นานแผลก็ประสานแล้ว

แต่ใครก็ดูออกว่าเขาจะต้านไม่ไหวแล้ว!

“ถึงอย่างไรก็เป็นการล้อมโจมตีของมกุฎอริยะสามสิบคน เขายังจะพลิกฟ้าคว่ำดินได้อย่างไร”

ผู้ชมไม่น้อยประหนึ่งยกภูเขาออกจากอก ในใจต่างคิดว่าสถานการณ์ได้ถูกกำหนดแล้ว การตายของหลินสวินขึ้นอยู่กับเวลาว่าเร็วหรือช้าเท่านั้น

มีเพียงจ้าวจิ่งเซวียนที่พึมพำในใจ ‘แผลเล็กน้อยเท่านั้น หากสามารถทำอะไรเขาได้ ฉายาเทพมารหลินก็ไม่สมคำร่ำลือแล้วมิใช่หรือ’

และตอนนี้เอง หลินสวินที่อยู่ท่ามกลางการโจมตีดุเดือดส่งเสียงคำรามยาวทีหนึ่ง ฝ่ามือกดลง หุบเหวใหญ่ที่ปรากฏด้านหลังกดทับลงมาอย่างแรง

ครืน!

ห้วงอากาศว่างเปล่าแตกทลาย ความวุ่นวายปรากฏ

ความน่าสะพรึงกลัวของการโจมตีนี้ราวกับท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นเหวใหญ่ หมายจะกลืนกินจักรวาล บดขยี้ฟ้าดิน

พื้นดินใกล้ๆ ล้วนถล่มลงโดยพลัน ราวกับรับแรงกดดันของพลังอันน่าสยดสยองนั่นไม่ไหว

ตูม!

วิชามรรคทั้งหมดที่จู่โจมมาทางหลินสวินล้วนดับสลายราวกับฟองสบู่อย่างไม่มีข้อยกเว้น

สมบัติอริยะที่อัศจรรย์เหนือธรรมดาทุกชิ้นไม่มีชิ้นใดไม่สะเทือนถอยท่ามกลางเสียงครวญ

มกุฎอริยะสามสิบคนที่พุ่งโจมตีเต็มกำลังเหล่านั้นเพียงรู้สึกหายใจไม่ออก ร่างกายพลันสั่นสะท้านขึ้นมา ถูกพลังน่าสะพรึงอย่างหนึ่งฉีกทึ้ง ล้วนหน้าเปลี่ยนสีกันไปหมด

หุบเหวใหญ่ราวกับฝาครอบ ลงมาเยือนจากฟากฟ้า อานุภาพของการโจมตีนี้สะเทือนเลื่อนลั่น!

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์