ตอน ตอนที่ 1575 อาจหาญสะท้านโลก จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
ตอนที่ 1575 อาจหาญสะท้านโลก คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
บนท้องฟ้า ด้านหลังหลินสวินเป็นหุบเหวใหญ่กดข่มลงมา ร่างของเขาพร่างพราวลุกโชน ถึงกับให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่ไร้ขอบเขต สูงใหญ่ราวกับลึกล้ำไร้ที่สิ้นสุด
นี่คือพลังของมรรคดับดารากลืนกิน ยิ่งเป็นการสำแดงพลังต่อสู้ของตัวหลินสวิน
หวนนึกถึงตอนแรก จักรพรรดิสงครามดับดาราข้ามผ่านวัฏจักรฟ้าดารา ทุกที่ที่ผ่านธารดาราระเบิดเป็นเสี่ยงๆ หมื่นดาราล่มจม อานุภาพระดับนั้นช่างน่ากลัวไร้ขอบเขต
บางทีหลินสวินเทียบกับจักรพรรดิสงครามดับดาราอาจยังห่างชั้นเกินไป แต่ในระดับมกุฎอริยะนี้ พลังมรรคดับดารากลืนกินที่ถูกเขาใช้จนถึงขีดสุด ยังคงแข็งแกร่งถึงขั้นสามารถทำให้ทั้งโลกหวาดผวา
“ฆ่า!”
“ลงมือพร้อมกัน!”
มกุฎอริยะทั้งสามสิบคนนั้นต่างรับรู้ได้ว่าสถานการณ์ไม่เข้าที เร่งเร้าพลังของตนโจมตีออกไปเต็มกำลัง อานุภาพอริยมรรคยิ่งใหญ่ที่รวบรวมปั่นป่วนฟ้าดิน พลังเดือดพล่านซัดกระหน่ำสิบด้านอย่างกำเริบเสิบสาน
แต่ไม่ว่าพวกเขาจะโจมตีอย่างไร ภายใต้การกดข่มของหุบเหวที่ยิ่งใหญ่ราวกับไม่มีที่สิ้นสุดและลึกล้ำไม่อาจคาดเดา ก็ถูกกลืนกินและบดขยี้เป็นฝุ่นผงทั้งหมด!
ตูม!
สุดท้ายพร้อมกับเสียงกึกก้องสะเทือนหูอย่างที่สุด มกุฎอริยะสามสิบคน แต่ละคนราวกับถูกพายุพัดม้วน ถูกโจมตีจนเงาร่างเซถอยกระจัดกระจายไปทั่ว
“เป็นไปได้อย่างไร!”
“นี่…”
“นี่มันพลังอะไร”
ในที่นั้นเสียงอุทานด้วยความตกใจดังขึ้นไม่รู้เท่าไหร่ ผู้ชมการต่อสู้ทุกคนล้วนหน้าเปลี่ยนสี จิตใจสั่นสะท้านขึ้นในตอนนี้
ก่อนหน้านี้ตอนที่เห็นหลินสวินบาดเจ็บอย่างต่อเนื่อง พวกเขาต่างมั่นใจเต็มเปี่ยม คิดว่าหลินสวินจะต้องตายอย่างแน่นอน แต่ไม่นานก็เกิดภาพน่าตระหนกที่น่ากลัวอย่างที่สุด!
เหตุใดเขาจึงแข็งแกร่งเพียงนี้
แม้แต่เซวี่ยชิงอี สือพั่วไห่ ฮว่าหงเซียวยังหัวใจบีบแน่น สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย ทำอะไรไม่ถูกนัก
ส่วนผู้แข็งแกร่งแปดดินแดนที่หลบอยู่ในกระบวนค่ายกลใหญ่ แต่ละคนต่างอึ้งจนอ้าปากค้าง หัวสมองมึนงง ล้วนคิดว่าปรากฏภาพลวงตา
มกุฎอริยะสามสิบคนยังไม่สามารถกำราบหลินสวินได้หรือ
“ฉายาเทพมารหลิน… ไม่ได้เรียกกันซี้ซั้วหรอกนะ”
มุมปากชุ่มชื้นของจ้าวจิ่งเซวียนเหยียดขึ้นเล็กน้อย
และในสนามรบตอนนี้ หลินสวินได้เปิดฉากการเข่นฆ่าแล้ว!
ก่อนหน้านี้ถูกมกุฎอริยะสามสิบคนปิดล้อม ทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกมัดมือมัดเท้า ต่อให้อาศัยการเคลื่อนย้ายก็ยังยากจะแสดงพลังโดยสิ้นเชิง ก็เหมือนปลาที่ติดแห
ตอนนี้กลับแตกต่างแล้ว เขาเหมือนกระโดดออกจากกรง ไม่มีพันธนาการและอุปสรรคอีกต่อไป
“ตาย!”
เงาร่างของหลินสวินพริบไหวไปปรากฏตรงหน้าสงฆ์เฒ่าคนนั้นกลางอากาศ กระบี่ยอดสังหารฟันออกไปอย่างเดือดดาลด้วยความเร็วที่คาดไม่ถึง
สงฆ์เฒ่าหวาดผวา ถือคทาขักขระทองคำฝืนต้าน แต่ตอนนี้เขาอยู่เพียงลำพัง ถูกหลินสวินโจมตีมากะทันหัน การฟันเต็มกำลังเช่นนี้เขาจะรับไหวได้อย่างไร
ปัง!
คทาขักขระทองคำหักเป็นอันดับแรก กลายเป็นสองท่อน ส่วนร่างของสงฆ์เฒ่าคนนี้ถูกแหวกออก ร่างแห่งระดับอริยะของเขาที่ได้ฉายาว่าแข็งแกร่งไม่เสื่อมสลาย ยังยากจะต้านการโจมตีนี้
“เจ้าฆ่าข้าไม่ตายหรอก!”
สงฆ์เฒ่าตะคอก
เนื่องจากเขาใช้กายหยาบบรรลุมกุฎอริยะ ทำให้ไม่มีความเกรงกลัว
แต่ครู่ต่อมาสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมาก ร่างกายที่ถูกแหวกออกถูกพลังมรรคดับดารากลืนกินของหลินสวินปกคลุมไปตรงๆ จากนั้นสลายไปทุกกระเบียด!
ตอนที่หลินสวินหมุนตัวจากไป อริยสงฆ์ที่นับได้ว่ามีวิชาบารมีสูงส่ง ครอบครองอริยมรรคในการบำเพ็ญธรรมผู้นี้ก็ร่างดับวิญญาณสลายไปแล้ว
และนี่ก็เป็นอริยะคนแรกที่ตายในมือหลินสวินตั้งแต่เปิดศึกมา
ทันใดนั้นทั้งสนามรบล้วนสะท้านสะเทือน แตกตื่นขึ้นมา แต่ละคนทั้งโกรธทั้งเดือดดาล
มกุฎอริยะสามสิบคนพุ่งโจมตี ไม่สามารถกำราบคู่ต่อสู้คนเดียวก็ช่างเถอะ ตอนนี้กลับยังถูกสังหารไปคนหนึ่ง ใครจะกล้าเชื่อ
และการเข่นฆ่าก็เพิ่งจะเริ่มขึ้น
ทันทีที่ฆ่าสงฆ์เฒ่าตายเงาร่างของหลินสวินกะพริบไหวพุ่งออกไปโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง ไม่คิดจะให้โอกาสอีกฝ่ายร่วมมือกันอีก
“ฆ่า!”
“ขวางเขาไว้!”
มกุฎอริยะห้าคนเคลื่อนเข้ามาขวาง แต่ละคนโจมตีเต็มกำลัง อานุภาพอริยะล้นฟ้า แสงสมบัติพาดกวาด
“อย่างกับมด”
ในเสียงเย็นชาหลินสวินก้าวออกไป ทุกจุดชีพจรในร่างมีปราณกระบี่เรืองรองพวยพุ่งออกไป ราวกับภูเขาถล่มสมุทรคำราม
ปราณกระบี่แน่นขนัดดุจดั่งมหาสมุทรปราณกระบี่ผืนหนึ่งบดบังท้องฟ้าแห่งนี้ ตอนที่ไหลพุ่งลงมาแสงกระบี่ที่สว่างไสวเป็นประกายส่องสว่างฟ้าดิน ทำเอาแสบตาอย่างที่สุด
มกุฎอริยะห้าคนถูกกลบอยู่ภายใน โหยหวนไม่หยุด แต่ละคนถูกฟาดฟันแหลกละเอียด ฝนเลือดโปรยปราย จิตวิญญาณถูกฉีกทึ้งกลายเป็นฝุ่นผง
ส่วนหลินสวินพุ่งโจมตีไปอีกทางนานแล้ว
ความเร็วของการเคลื่อนไหว ความรวดเร็วรุนแรงของการเข่นฆ่าเหมือนดาบคมเล่มหนึ่ง ทุกที่ที่ผ่านล้วนถูกทำลายล้าง ไม่สามารถขวางได้!
บนท้องฟ้าสีเลือดสดพลิกตลบ เสียงครวญแห่งอริยะร่วงหล่นเริ่มก้องกังวาน
เหล่าผู้แข็งแกร่งที่ดูการต่อสู้อยู่ห่างไปต่างตกตะลึงขึ้นมา สีหน้าเปลี่ยนไป อุทานด้วยความตกใจอย่างควบคุมไม่อยู่ ถูกภาพนองเลือดแต่ละภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้ากระตุ้น
การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นกะทันหัน ก่อนหน้านี้หลินสวินทั้งถูกปิดล้อม ทั้งถูกกดดัน แต่ตอนนี้เขาได้เปิดฉากโต้ตอบแล้ว กล้าหาญไร้สะท้านโลก!
“นี่ นี่… นี่เป็นไปได้อย่างไร”
ผู้แข็งแกร่งแปดดินแดนที่หลบอยู่ในกระบวนค่ายกลใหญ่หวาดผวากันถ้วนหน้า สั่นเทิ้มไปทั้งตัว
ในสนามรบ
ชายกลางคนหนวดโง้งที่ถือทวนอสรพิษทะลวงอากาศโจมตีเข้ามา อานุภาพดุดัน ตัวคนยังมาไม่ถึง พลังที่พุ่งออกจากทวนอสรพิษนั่นก็แทงมากลางอากาศแล้ว
ผู้ชมการต่อสู้ที่อยู่ห่างไปทั้งโกรธทั้งตกใจ หลินสวินที่อยู่ภายใต้การล้อมโจมตี เมื่อระเบิดพลังออกมากลับดุดันถึงเพียงนี้ นี่เหนือความคาดหมายของพวกเขา
“ลงมือพร้อมกัน จะถูกเขาโจมตีทุกคนไม่ได้เด็ดขาด!”
ในที่นั้นเสียงคำรามดังก้อง มกุฎอริยะเหล่านั้นราวกับบ้าคลั่ง การเข่นฆ่าของหลินสวินเด็ดขาดเผด็จการไร้ที่เปรียบ ทำให้พวกเขาล้วนถูกกระตุ้น
และในเวลาเดียวกันสีหน้าของเซวี่ยชิงอีก็มืดทะมึนลง สายตาวูบไหว แม้แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่ามกุฎอริยะสามสิบคนออกโจมตี กลับยังไม่สามารถกำราบหลินสวินได้ กลับถูกเขาฉวยโอกาสเปิดฉากเข่นฆ่าในตอนนี้
‘ต่อให้สู้กับเขาตัวต่อตัว ข้าก็ไม่มีความมั่นใจว่าจะชนะ’
สีหน้าของสือพั่วไห่หนักอึ้งอย่างที่สุด ตอนแรกเขาดูถูกและเย้ยหยันหลินสวินมาก จากนั้นก็เริ่มมองอย่างจริงจัง คิดว่าหลินสวินเป็นคู่ต่อสู้ที่สามารถเทียบเคียงตนได้
แต่ตอนนี้ สือพั่วไห่ไม่กล้าคิดเช่นนี้แล้ว!
ภายใต้การสังหารของมกุฎอริยะสามสิบคนยังสามารถพลิกสถานการณ์ได้ หากเปลี่ยนเป็นเขาสือพั่วไห่ ก็ใช่ว่าจะสามารถทำได้
“หยั่งเชิงมาถึงขนาดนี้แล้ว พวกเราควรลงมือหรือยัง”
ในสายตาของฮว่าหงเซียวไอสังหารวนเวียน มองมกุฎอริยะแต่ละคนที่ถูกหลินสวิงสังหาร นี่ทำให้เขาทนไม่ไหวแล้ว
“ช้าก่อน”
เซวี่ยชิงอีสูดหายใจเข้าลึกๆ คราหนึ่ง “ผู้สูงส่งย่อมถนอนตน สถานการณ์ตอนนี้ยังอยู่ในการควบคุม ยังไม่จำเป็นที่ต้องให้พวกเราสอดมือ”
“เจ้าจะทนดูพวกเขาถูกฆ่าโดยไม่ทำอะไรเลยหรือ”
สือพั่วไห่ขมวดคิ้ว เขาเองก็ออกจะทนดูไม่ไหวแล้ว
“ทั้งสองท่าน ดินแดนเบื้องหลังพวกเราสามารถสูญเสียมกุฎอริยะบางส่วนได้ แต่ไม่มีพวกเราไม่ได้เด็ดขาด”
เซวี่ยชิงอีพูดเสียงขรึม “ตอนที่สถานการณ์ควบคุมไม่ได้ จึงจะเป็นเวลาลงมือของพวกเรา”
ว่าแล้วเขาก็ตะโกนคำหนึ่ง ออกคำสั่งเหล่ามกุฎอริยะที่ดูการต่อสู้มาโดยตลอด “พวกเจ้าลงมือพร้อมกัน! ข้าอยากเห็นนักว่าหลินสวินจะสามารถยืนหยัดได้ถึงเมื่อไหร่!”
มกุฎอริยะเหล่านี้มีถึงหกสิบกว่าคน พลันเคลื่อนไหวตามคำสั่งพุ่งเข้าสนามรบ
ทันใดนั้นสถานการณ์เปลี่ยนไปกะทันหัน
ก่อนหน้านี้มกุฎอริยะสามสิบคนลงมือพร้อมกันก็เรียกได้ว่าตะลึงโลกแล้ว
ตอนนี้มีมกุฎอริยะอีกหกสิบกว่าคนเข้าร่วม กำลังพลระดับนี้ยิ่งใหญ่อย่างที่สุด
พลังยิ่งใหญ่เช่นนี้รวมตัวกัน ล้วนสามารถจู่โจมค่ายทัพดินแดนหนึ่งได้แล้ว!
และตอนนี้พวกเขาพุ่งเป้าไปที่หลินสวินคนเดียว!
ไม่ว่าใครเห็นภาพนี้ก็คงสิ้นหวัง ระดับมกุฎอริยะเหมือนกัน แม้พลังต่อสู้ของหลินสวินจะพลิกฟ้าแค่ไหน แต่จะสังหารออกจากการปิดล้อมแน่นหนาได้อย่างไร
ในใจจ้าวจิ่งเซวียนกระตุกวูบอย่างแรง ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ต่อให้หลินสวินจะหนี ยังยากที่จะคว้าโอกาสได้…
และที่อยู่ห่างไป ดวงตาแดงก่ำของเซวี่ยชิงอีเต็มไปด้วยความบ้าคลั่งโหดร้าย ในใจพึมพำ ‘ฆ่าเถอะ การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ว่าจะสูญเสียหนักหน่วงแค่ไหน ขอเพียงสังหารเจ้าหมอนั่นได้ก็คุ้มแล้ว!’
——
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์