หลินสวินจ้องมองจู๋อิ้งคงครู่หนึ่งก็พยักหน้ารับคำ “ได้”
จู๋อิ้งคงก้าวขึ้นไปกลางอากาศ ยืนอยู่บนนั้น
เขาในตอนนี้เหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน นัยน์ตาเยียบเย็นดุจอสนี พลังขับเคลื่อนส่งเสียงกัมปนาท ความซึมเซาทั้งหมดพลันหายไป ราวกับปล่อยวางทุกอย่างในใจได้อย่างสมบูรณ์แล้ว
ในดวงตาดำของหลินสวินฉายแววประหลาดใจเสี้ยวหนึ่ง สังเกตเห็นว่าสภาวะจิตของจู๋อิ้งคงเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ทั้งตัวเขาต่างออกไปแล้ว
นี่ก็คือบุคคลแห่งยุค!
ความพ่ายแพ้และการโจมตีที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ เปลี่ยนเป็นผู้แข็งแกร่งทั่วไปเกรงว่าคงพังทลาย ต้านไม่อยู่ไปนานแล้ว
แต่จู๋อิ้งคงกลับเคี่ยวกรำสภาวะจิตขึ้นไปอีกขั้นภายใต้การโจมตีอย่างต่อเนื่องได้ นี่ไม่ธรรมดาอย่างไม่ต้องสงสัย
“ก่อนหน้านี้ตัวข้าเรียกได้ว่าไร้คู่ต่อกรในหมู่คนรุ่นเยาว์แห่งดินแดนโบราณยอดหยิน ในหมู่คนรุ่นเดียวกันไม่มีสักคนที่เข้าตาข้า ต่อให้เข้ามาในสมรภูมิเก้าดินแดนนี้ ก็มีแค่บุคคลอย่างพวกคุนเซ่าอวี่ เจี้ยนชิงเฉินเท่านั้นที่ข้าให้ความสำคัญ…”
จู๋อิ้งคงกล่าวราบเรียบ “ตอนนี้ข้าเข้าใจแจ่มแจ้งแล้ว ว่าคู่ต่อสู้ที่แท้จริงไม่ใช่คนอื่น แต่เป็นตัวเอง”
“ตัดความยึดมั่น สำรวจเจตนารมณ์ สำหรับข้าชื่อเสียงจอมปลอมเป็นดั่งเมฆเลื่อนลอย!”
น้ำเสียงไม่โศกเศร้ายินดี
ร่างของหลินสวินลอยล่องมาบนอากาศกล่าว “ได้แต่พูดว่าเจ้าเข้าใจเมื่อสายเกินไปแล้ว”
ในเมืองที่ห่างออกไป เสียงเข่นฆ่าโรมรันสะเทือนใต้หล้า ส่งเสียงกัมปนาทอย่างต่อเนื่อง กำลังปรากฏภาพการสังหารหมู่นองเลือดต่างๆ
ภายใต้การร่วมมือกันโจมตีของพวกเซ่าเฮ่า เจ้าคางคก ผู้แข็งแกร่งของดินแดนโบราณยอดหยินพวกนั้นแทบจะไม่อาจขวาง ไม่มีใครไม่อกสั่นขวัญแขวน หนีกระเจิดกระเจิงไปทั่ว
แต่ทุกอย่างนี้ไม่อาจชักนำให้จู๋อิ้งคงเกิดคลื่นความรู้สึกใด สายตาของเขาจ้องมองหลินสวินแล้วกล่าว “ไม่สายไปหรอก ยามอรุณแจ้งมรรค ค่ำนั้นตายก็นอนตาหลับ”
พูดจบเงาร่างเขาก็พุ่งเข้าหา แขนเสื้อพลิกตลบ เสียงชิ้งดังขึ้น กระบี่มรรคที่แบ่งขาวดำชัดเจนเล่มหนึ่งปรากฏอยู่ตรงหน้า
พลังขับเคลื่อนของเขาดุดันถึงขีดสุดในพริบตา!
“ไป!”
เสียงใสของกระบี่ดุจกระแสน้ำ ก้องกังวานเร้าระทึกเหนือเก้าชั้นฟ้า ยามกระบี่มรรคเล่มนั้นพุ่งออกไป กลางฟ้าดินรัตติกาลนิรันดร์และทิวากาลหมุนเปลี่ยนโคจร วิวัฒน์เป็นปราณกระบี่หยินหยางแหวกออกไป
กระบี่แยกสองลักษณ์ ขาวดำเปลี่ยนเป็นพิศวง!
อานุภาพของกระบี่เดียวมากพอจะทำลายภูผาธารา ตัดแบ่งความยิ่งใหญ่ของเขตแดนมืดสว่าง
เงาร่างของหลินสวินแน่นิ่งไม่ขยับ พลันดีดนิ้วทันที
ฟุ่บ!
ปราณกระบี่ไท่เสวียนสายหนึ่งพุ่งออกไป เสียงปึงดังสนั่น ผ่าแหวกสีขาวดำทั่วฟ้า กระแทกกระบี่มรรคเล่มนั้นปลิวกระเด็น
ร่างกายของจู๋อิ้งคงซวนเซเล็กน้อย เขาสูดหายใจลึก ร่างส่องประกาย ด้านหลังเขาปรากฏเงามายาจู๋หลงที่เบียดแน่นฟ้าดินตัวหนึ่ง ดวงตาทั้งสองใหญ่ราวทะเลสาบ ส่องสะท้อนปวงสวรรค์หมื่นพิภพ
“โอม!”
จู๋อิ้งคงก้าวไปข้างหน้า รวบมือทั้งสองเป็นประทับกระบี่แล้วแทงออกไปทันที
ตูม!
ปราณกระบี่เล่มนั้นที่เดิมถูกซัดกระเด็นส่งเสียงกัมปนาท ประสานเข้ากับพลังของเงามายาจู๋หลงแล้วพุ่งออกไปทันใด
กระบี่เดียวที่เรียบง่ายธรรมดา กลับมีคมประกายที่ไม่อาจขวางกั้น!
นัยน์ตาของหลินสวินฉายแววประหลาด มองออกว่าจู๋อิ้งคงก็เหยียบธรณีประตูของการเสาะหาวิชาแห่งตนแล้ว ฤทธิ์เดชของกระบี่นี้เรียกได้ว่าชวนตะลึงหาใดเปรียบ
น่าเสียดาย สำหรับเขาแล้วยังไม่อาจสร้างแรงคุกคามได้เหมือนเดิม!
“ทะยาน!”
ฮูม… ปราณกระบี่ไท่เสวียนทั่วฟ้าม้วนซัดออกมาไขว้ตัดสลับกัน เผยให้เห็นค่ายกลกระบี่ที่แน่นขนัดแผ่กว้างค่ายหนึ่ง
ไม่ทันไรเสียงปะทะสะท้านฟ้าสะเทือนดินก็ดังขึ้น เมฆบนเวิ้งฟ้าพังทลาย ห้วงอากาศปั่นป่วน กำแพงเมืองที่สูงเด่นตั้งตระหง่านอยู่ด้านล่างล้วนพังทลายสนั่นหวั่นไหว
พรูด!
ร่างกายของจู๋อิ้งคงสั่นสะเทือนรุนแรง กระอักเลือดแดงก่ำคำหนึ่งออกมาทันที นัยน์ตาเขาไหววูบ สาดแสงชวนประหวั่นออกมา
เขาสังเกตเห็นว่าเทียบกับตอนที่อยู่ในสมรภูมิเซียนเหินแล้ว พลังของหลินสวินถึงกับแข็งแกร่งขึ้นอีกช่วงใหญ่!
“ถ้าเจ้าไม่ไหวก็บอกเบาะแสเกี่ยวกับปาฉีมา แล้วข้าจะให้เจ้าตายอย่างสมเกียรติ”
หลินสวินสองมือไพล่หลัง เงาร่างโดดเด่นละโลกีย์ ชายเสื้อพลิ้วไหว สง่างามหาใดเปรียบเหมือนเทพเซียนองค์หนึ่ง
“มาอีก!”
จู๋อิ้งคงพลันตวาดลั่น ผมยาวทั้งศีรษะแผ่สยาย แววตาของเขาล้ำลึกเจิดจรัส ร่างกายส่องสว่างเรืองรอง ห้วงอากาศใกล้เคียงถูกกลิ่นอายทั่วร่างเขาบีบกดจนพังทลายแตกระแหง
ครั้งนี้เขาถือกระบี่มรรคพุ่งสังหารราวกับแสงลุกโชนสายหนึ่ง
นัยน์ตาหลินสวินหดรัด
เจ้าหมอนี่กำลังสู้สุดชีวิต!
คนกับกระบี่รวมเป็นหนึ่ง ทุ่มพลังทั้งหมดไปที่การโจมตีเดียว กลิ่นอายราวกับจะทำลายล้างนั้นทำให้ฟ้าดินแถบนี้มืดสลัว
หลินสวินไม่แม้แต่จะคิด รวบนิ้วเป็นกระบี่จ้วงแทงออกไปเช่นกัน
ฟุ่บ!
ปราณกระบี่สายหนึ่งพุ่งออกไป อานุภาพของมันไร้ใดเปรียบจนทำให้เทพผีตกตะลึง ไปไร้หวน!
ช่วงเวลาที่ปราณกระบี่สองสายปะทะกัน ฟ้าดินราวกับผ้าใบผืนหนึ่งที่ถูกขยี้ในทันที ปราณกระบี่ไร้ใดเปรียบม้วนซัดแปรปรวนไปทั่วทิศ ทุกหนแห่งที่พาดผ่าน พื้นปฐพีแตกระแหง ภูเขาสูงใหญ่พังทลาย
เมืองอารักษ์มรรคที่กว้างใหญ่นั้นยังถูกสะบั้นแหลกไปครึ่งหนึ่งอย่างแข็งกร้าว!
ฉัวะ!
บนอากาศ จู๋อิ้งคงกระเด็นลอยออกไปอย่างหนักหน่วงราวกับว่าวสายป่านขาด จมูกปากกบเลือด ตรงหน้าอกของเขาถึงกับมีรูโหว่เลือดไหลทะลักทะลวง
แต่ร่างของหลินสวินแค่ซวนเซเล็กน้อย เสื้อผ้าเกิดเสียงสะบัดโบก
เมื่อจู๋อิ้งคงยืนมั่นก็ไออย่างรุนแรง หน้าตาสับสนกล่าวทอดถอนใจ “มีเจ้าหลินสวินอยู่ ดินแดนรกร้างโบราณช่างโชคดีแค่ไหน! พวกเราแปดดินแดนทำไมช่างน่าเศร้าเช่นนี้!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์