“สหายน้อย เชิญ”
สีหน้าหลิงเซียวจื่อกลับสู่ปกติ มีสง่าราศี วางภูมิดั่งยอดปรมาจารย์
“ขอรับ”
หลินสวินพยักหน้า ครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก็คีบตัวหมากขึ้นวางบนตำแหน่งแรกของแผนภาพเก้าวัง ‘วังหรดี’
ตัวหมากนี้มีชื่อเรียกว่า ‘หมากภูผาธารา’ หลอมด้วยวิชาลับ ภายในบรรจุพลังเร้นลับ ขอเพียงใช้ความคิดสั่งการ ก็สามารถประทับกระบวนค่ายกลที่ตนรังสรรค์ขึ้นมาไว้ภายในนั้นได้
วู้ม…
เมื่อหลินสวินเดินหมาก ‘โลกว่างเปล่า’ บนตำแหน่งวังหรดี พลันถูกกระบวนค่ายกลกระบวนหนึ่งปิดครอบเอาไว้
ตำแหน่งที่ดูคล้ายขนาดประมาณกำปั้น อันที่จริงสามารถบรรจุกระบวนผนึกขนาดใหญ่กระบวนหนึ่งเอาไว้ได้
นี่ก็คือความอัศจรรย์ของกฎเกณฑ์ห้วงอากาศ
ระดับราชันอริยะก็สามารถควบคุมพลัง ‘อาณาเขตห้วงอากาศว่างเปล่า’ ได้ และสามารถซุ่มซ่อนความยิ่งใหญ่ในความเล็กจ้อย หลอมภูผาธาราหมื่นลี้ไว้กลางฝ่ามือได้
สำหรับกึ่งจักรพรรดิ การควบคุมนัยเร้นลับห้วงอากาศว่างเปล่ายิ่งไม่ใช่เรื่องยากเข้าไปใหญ่
แผนภาพเก้าวังหนังสัตว์ผืนนี้ก็คือสมบัติห้วงอากาศว่างเปล่าชิ้นหนึ่ง
“กระบวนผนึกอนุเวหา”
สัตว์ประหลาดเฒ่าในลานจำกระบวนค่ายกลที่หลินสวินวางได้ในทันที ต่างพากันส่ายหน้าอย่างอดไม่ได้ กระบวนค่ายกลนี้ธรรมดาเกินไปจริงๆ
อย่าว่าแต่หลิงเซียวจื่อ ต่อให้พวกเขาลงมือเองก็สามารถทลายมันได้โดยง่าย
‘เจ้าหนูนี่ยังเด็กอยู่จริงๆ’
ในใจคคนไม่น้อยรู้สึกขำขัน ยิ่งมั่นใจขึ้นเรื่อยๆ ว่าหลินสวินจะต้องแพ้อย่างไร้ข้อกังขา
“เจ้าหนู นี่หมากเน่าอะไรของเจ้า!”
ซุ่นจี้โมโห กระบวนค่ายกลนี้ช่างธรรมดาเกินไปจริงๆ ไม่ได้เรื่องสุดขีดชัดๆ อุบายแค่นี้ยังคิดอยากชนะหลิงเซียวจื่อ ช่างเพ้อเจ้อฝันหวานอย่างสิ้นเชิง
“ผู้อาวุโส ชมหมากไม่ส่งเสียงคือสุภาพชน”
หลินสวินกลับเยือกเย็นและสงบนิ่งมาก
ซุ่นจี้จ้องหลินสวินอย่างดุดันปราดหนึ่ง สุดท้ายก็ถอนใจยาวอย่างจนปัญญา จบกัน ครั้งนี้ไม่ใช่แค่ตนพ่ายแพ้ยับเยิน แม้แต่เจ้าหนูนี่ก็ยังเสียโสมสมบัติแปดวิญญาณไปอีกคน อับอายขายขี้หน้ายกใหญ่โดยแท้
สีหน้าหลิงเซียวจื่อราบเรียบ ทั้งไม่ได้ถากถางและไม่ได้ดูเบา คีบหมากหนึ่งตัวขึ้นมาเช่นกัน เมื่อความคิดขยับไหว วิชาทลายค่ายกลพลันทะลักสู่ตัวหมาก
ปึง!
เมื่อวางตัวหมากลง กระบวนค่ายกลที่หลินสวินวางไว้ในวังหรดีพลันทลายครืนไม่เป็นท่า สลายไปไร้ร่องรอย
กระดานแรกหลินสวินแพ้แล้ว
หลิงเซียวจื่อกล่าว “เจ้าหนุ่ม รามือเสียตอนนี้ยังทัน”
หลินสวินสีหน้าไม่สุขไม่เศร้า กล่าวว่า “มหามรรคดุจกระดานหมาก ข้ายินดีเป็นเบี้ย แม้เคลื่อนไหวช้า แต่ไม่ก้าวถอยหลัง”
“พูดได้ดี!”
ฮูหยินชุดม่วงโฉมงามคนนั้นดวงตาทอประกาย ร้องโพล่งออกมา
สัตว์ประหลาดเฒ่าคนอื่นๆ ก็อดหัวเราะร่วนไม่ได้ พูดดีแค่ไหนฟังไปก็เปล่าประโยชน์ แต่ไรมาบนโลกนี้ล้วนไม่ขาดแคลนพวกดื้อแพ่ง รั้นหัวชนกำแพงก็ไม่ยอมเหลียวหลัง
หลิงเซียวจื่อไม่พูดมากความอีก คีบหมากขึ้นหนึ่งตัว ยื่นมือวางลงบนตำแหน่งวังอุดร
ปฐมาจารย์สลักลายมรรคอย่างเขา กระบวนค่ายกลที่มีในสมองไม่เพียงพันหมื่น ลงมือลวกๆ ก็สามารถวางกระบวนค่ายกลที่เข้มงวดกระบวนหนึ่งได้
“กระบวนผนึกย้อนทวิลักษณ์คล้อยดารา”
บรรดาสัตว์ประหลาดเฒ่าล้วนมองออก ลอบพยักหน้า กระบวนค่ายกลนี้ไม่ถึงขั้นยากเข็ญ แต่หากไม่มีรากฐานของปฐมาจารย์สลักวิญญาณ กลับยากยิ่งที่จะทลายนัยเร้นลับภายในนั้นได้
ต่อให้รู้รายละเอียดทุกอณูของกระบวนค่ายกลนี้ก็เปลืองแรงเปล่า
เพราะทันทีที่กระบวนค่ายกลนี้สร้างเสร็จ พันเปลี่ยนหมื่นแปร ถูกควบคุมโดยผู้วางกระบวนอย่างสิ้นเชิง ยิ่งฝีมือของผู้วางกระบวนค่ายกลสูงเท่าไหร่ กระบวนค่ายกลก็ยิ่งถูกทลายยากเท่านั้น
หลิงเซียวจื่อวางกระบวนค่ายกลนี้นับว่าเมตตาแล้ว ไม่ได้มีท่าทีจงใจรังแกหลินสวิน เห็นชัดว่าหมายใช้กระบวนค่ายกลนี้ทำให้หลินสวินยอมถอยไปเอง
“จบกัน ข้าก็เคยแพ้อนาถให้กับกระบวนค่ายกลนี้ เจ้าหนูนี่…”
ซุ่นจี้ถึงขั้นทนดูต่อไปไม่ไหวอยู่บ้างแล้ว
แต่เหนือความคาดหมายของทุกคน หลินสวินขบคิดเพียงครู่เดียวก็คีบหมากตัวหนึ่งขึ้นมาและวางส่งๆ ลงไป
ปึง!
เดินหมากเรียกคลื่นลม ทลายค่ายกลเทพผีผวา!
กระบวนผนึกย้อนทวิลักษณ์คล้อยดาราที่ถูกเหล่าสัตว์ประหลาดเฒ่าตั้งความหวังเอาไว้ ถึงกับถูกทลายลงเพียงชั่วพริบตา
คนไม่น้อยต่างอุทานแปลกใจอย่างอดไม่อยู่ มองดูหลินสวินอีกครา มิน่าเจ้าหนูนี่ถึงกล้าดีเดือดปานนี้ ที่แท้ก็มีฝีมืออยู่บ้าง
“หือ”
ซุ่นจี้อ้าปากกว้าง ทั้งรู้สึกออกจะตั้งตัวไม่ทัน เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าหลินสวินจะพิชิตกระบวนค่ายกลที่หลิงเซียวจื่อวางอย่างราบรื่นปานนี้
“น่าสนใจ” นัยน์ตาฮูหยินชุดม่วงโฉมงามฉายแววแปลกไป
กระดานที่สอง หลินสวินชนะ!
หลิงเซียวจื่ออึ้งไปเล็กน้อยแต่ไม่ทันไรก็กลับสู่สภาวะปกติ นัยน์ตาลุ่มลึก มองหลินสวินอย่างลึกล้ำปราดหนึ่งพลางกล่าว “ดูเหมือนว่าสหายน้อยจะเตรียมตัวมาพร้อม ก่อนหน้านี้เป็นข้าที่ดูเบาเจ้าไป”
“ผู้อาวุโสปราณีแล้ว”
หลินสวินไม่ลำพองไม่ร้อนรน ไม่ถ่อนตนไม่โอหัง วางตัวราบเรียบ
หลิงเซียวจื่อเก็บสายตากลับมาแล้วเอ่ยว่า “ตาเจ้าวางกระบวนค่ายกลแล้ว”
เขาตัดสินใจใช้พลังแท้จริงแล้ว เขาเป็นถึงปฐมาจารย์สลักลายมรรค ผ่านประสบการณ์ล้มลุกคลุกคลานไม่รู้เท่าไหร่กว่าจะมีบารมีอย่างวันนี้ได้ ย่อมไม่ยอมให้เกิดเรื่อง ‘เรือล่มในคลองตื้น[1]’ อย่างแน่นอน
“เจ้าหนู ครั้งนี้ต้องวางกระบวนค่ายกลที่ร้ายกาจหน่อย!”
ซุ่นจี้อดร้องเตือนไม่ได้
ทันใดนั้นกึ่งจักรพรรดิบางส่วนเริ่มไม่พอใจ “เหล่าซุ่น กฎเกณฑ์ที่ว่าชมหมากไม่ส่งเสียงเจ้าไม่เข้าใจหรือ หากยังโหวกเหวกอีกก็อย่าโทษที่พวกข้าไล่เจ้าเชียว”
ซุ่นจี้กระอักกระอ่วน เงียบปากทันควัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์