ในด่านตะวันบรรยากาศไม่น่าไว้ใจ!
หลังจากหลินสวินมาถึงที่นี่ก็พูดได้ว่าไม่มีใครเหลียวแล ด้วยสัตว์ประหลาดเฒ่าที่ประจำการอยู่ที่นี่ล้วนมองเขาเป็นคนรุ่นหลังที่ไม่มีความสำคัญคนหนึ่ง ใครจะใส่ใจ
ถึงขั้นมีน้อยคนนักที่รู้จักชื่อแซ่ของเขา!
ใช่ว่าจงใจดูถูก และไม่ถึงขั้นลบหลู่ หากแต่ไม่ใส่ใจกันจริงๆ
แต่ตอนนี้ด่านตะวันที่กว้างใหญ่นั้น ขอแค่ไม่ใช่คนหูหนวก ใครจะไม่รู้จักชื่อของหลินสวิน
ในการประชันหมากเก้าวัง หลิงเซียวจื่อที่เป็นถึงปฐมาจารย์สลักลายมรรคอันดับหนึ่งของกำแพงเมืองด่านจักรพรรดิ เมื่ออยู่ต่อหน้าหลินสวินยังต้องชื่นชมยอมแพ้
ในการประลองกับบุตรนรก บุตรนรกก็เสียหน้าไม่เหลือ หนีหัวซุกหัวซุน
การประชันหมากได้พิสูจน์ว่าแม้หลินสวินจะเป็นคนรุ่นหลัง แต่กลับมีพลังที่สามารถทำให้สัตว์ประหลาดเฒ่าคนใดก็ตามไม่อาจมองข้าม
ในการประลองกับบุตรนรก พรสวรรค์และพลังต่อสู้ที่หลินสวินเผยออกมาก็ได้พิสูจน์ว่า เขานั้นเรียกได้ว่าโดดเด่นเป็นหนึ่งในการเสาะหามหามรรค ความสำเร็จในภายหน้าถูกลิขิตให้ไม่อาจประเมิน!
คนรุ่นหลังเช่นนี้ใครจะไม่ใส่ใจได้อีก
ถ้ามีแค่นี้คงไม่อาจทำให้สัตว์ประหลาดเฒ่าในด่านตะวันพวกนั้นตกตะลึงเกินไป ด้วยพวกเขาที่เป็นถึงราชันอริยะหรือกึ่งจักรพรรดิ ไม่จำเป็นต้องใส่ใจเรื่องพวกนี้มากนัก ต่อให้พรสวรรค์ของหลินสวินชวนตะลึง เบื้องลึกเบื้องหลังพลิกฟ้าแค่ไหน แต่ในระดับปราณก็ยังอยู่ห่างจากพวกเขามาก
ต่อให้ภายหน้าหลินสวินประสบความสำเร็จยอดเยี่ยม นั่นก็เป็นเรื่องของอนาคต
แต่เมื่อนักพรตชิวถูกสังหาร สัตว์ประหลาดเฒ่าในด่านตะวันพวกนั้นก็ไม่อาจนิ่งเฉยได้แล้ว
คนรุ่นหลังคนหนึ่งกลับใช้ไพ่ตายในมือ สังหารกึ่งจักรพรรดิคนหนึ่งที่มีพลังต่อสู้พอจะก้าวขึ้นไปอยู่ในสิบอันดับแรกของกำแพงเมืองด่านจักรพรรดิได้ ใครจะกล้ามองข้าม
กวาดสายตามองทั่วด่านตะวัน ล้วนหาคนที่เผชิญหน้ากับนักพรตชิวได้ไม่เจอ
นักพรตชิวยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินสวิน นับประสาอะไรกับพวกเขา
เรื่องราวพัฒนามาถึงขั้นนี้ ใครยังจะกล้าตั้งท่าเป็น ‘ผู้อาวุโสสูงศักดิ์’ ใส่หลินสวินอีก
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากสังเกตเห็นความอัศจรรย์และน่ากลัวของใบหิมะน้ำแข็งนั้นในมือหลินสวิน สภาวะจิตของสัตว์ประหลาดเฒ่าในด่านตะวันพวกนั้นก็เปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์
บ้างละโมบ บ้างตกตะลึง และบ้างควบคุมความมุ่งหวังปรารถนาไม่อยู่!
ในด่านตะวันนี้บางทีพวกฮูหยินมู่ ซุ่นจี้ หลิงเซียวจื่ออาจมองหลินสวินเป็นเพื่อน ไม่มีทางทำเรื่องสกปรกโสมมเช่นนั้นแน่
แต่คนอื่นก็ไม่จำเป็นว่าต้องทำเช่นนั้น
ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะใบหิมะน้ำแข็งในมือของหลินสวิน สำหรับสัตว์ประหลาดเฒ่าพวกนั้นก็เหมือนสิ่งล่อใจยิ่งอย่างหนึ่ง ก่อให้เกิดความมุ่งหวังปรารถนาที่ไม่อาจควบคุมได้!
ยังดีที่อาจเป็นเพราะหวาดกลัวพลังที่น่าพรั่นพรึงของดอกกระบี่พันปีก จึงทำให้สัตว์ประหลาดเฒ่าในด่านตะวันพวกนั้นได้แต่ควบคุมความละโมบภายในใจอย่างเต็มที่ ไม่กล้าลงมือง่ายๆ
แต่ก็ด้วยสาเหตุนี้ บรรยากาศทั้งด่านตะวันจึงเปลี่ยนเป็นไม่น่าไว้ใจและแปลกพิกลขึ้นมา
สิ่งที่พิสูจน์ได้ดีที่สุดก็คือ นอกตำหนักสำริดที่หลินสวินอาศัยอยู่ชั่วคราวมีสายตามากมายจับจ้อง
และมีสัตว์ประหลาดเฒ่าไม่น้อยเริ่มใช้เหตุผลต่างๆ มาเยี่ยมเยียน
ยังดีที่การเยี่ยมเยียนทั้งหมดนี้ถูกพวกหลิงเซียวจื่อ ฮูหยินมู่ขวางไว้ได้ แต่พวกเขากลับหนักใจอยู่บ้าง
หลินสวินในตอนนี้เหมือนคบเพลิงในความมืด ดึงดูดพวกแมงเม่ามาไม่รู้เท่าไร!
หากมีแมงเม่าที่ไม่กลัวตายบางส่วนควบคุมความโลภในใจไม่อยู่แล้วพุ่งเข้ามาโดยไม่สนใจอะไร ผลที่ตามมานั้นคงพูดลำบากแล้ว
ขณะเดียวกันพวกซุ่นจี้ก็เป็นห่วงว่าหลังจากหลินสวินสังเกตเห็นเรื่องทุกอย่างนี้ จะเกิดจิตสังหารจนใช้วิธีการรุนแรงกระแทกกลับหรือไม่
ถ้าเป็นเช่นนี้ สำหรับกำแพงเมืองด่านจักรพรรดิคงเป็นเรื่องร้ายไม่ใช่เรื่องดีอย่างไม่ต้องสงสัย
“คนไม่ผิด ผิดที่มีหยกติดตัว ความหวังหนึ่งที่สามารถเข้าใกล้หนทางบรรลุจักรพรรดิได้ ล้วนสามารถทำให้กึ่งจักรพรรดิคนใดก็ตามคลุ้มคลั่งแล้ว…”
หลิงเซียวจื่อทอดถอนใจ
เขารู้ชัดถึงมูลค่าของใบหิมะน้ำแข็งนั้นในมือหลินสวินดี
คนที่อยู่ในระดับกึ่งจักรพรรดิไม่ใช่เทพที่สำรวมตน วาสนาและสมบัติส่วนใหญ่บนโลกนี้ บางทีอาจดึงดูดความสนใจของพวกเขาไม่ได้
แต่ใบหิมะน้ำแข็งนั่นกลับเป็นข้อยกเว้น!
ถามตัวเองดูแล้ว ต่อให้เป็นพวกหลิงเซียวจื่อ ซุ่นจี้ ฮูหยินมู่ก็ยังไม่อาจไม่ใส่ใจสมบัติล้ำค่าที่เต็มไปด้วยสิ่งเร้าเช่นนี้
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ การเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศทั่วด่านตะวันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแล้ว
“ตอนนี้ก็ได้แต่รอท่านเซิ่นกลับมาควบคุมสถานการณ์แล้ว”
ฮูหยินมู่ทอดถอนใจ
ทุกอย่างนี้แม้ว่าหลินสวินจะไม่ได้ออกจากตำหนัก แต่กลับสังเกตเห็นได้อย่างฉับไว
ตั้งแต่ฝึกปราณมาถึงวันนี้ เขาผ่านเรื่องอันตรายมานับไม่ถ้วน ไหนเลยจะไม่รู้ว่าการมีอยู่ของใบหิมะน้ำแข็งจะก่อคลื่นลมมาให้เท่าไร
แต่หลินสวินก็ไม่หวาดกลัว
ต่อให้ไม่พึ่งพาพลังของสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวพวกนั้น ในมือเขาก็ยังมีไพ่ตายอื่นอีก แค่ไม่อยากสิ้นเปลืองไปกับเรื่องเช่นนี้เท่านั้น
ไม่คุ้มค่า!
แต่เพื่อหลีกเลี่ยงเรื่องยุ่งยาก หลินสวินจึงได้แต่เก็บตัวชั่วคราว ไม่ออกไปข้างนอกเพื่อเลี่ยงปัญหา
เขาใช้เวลาและความคิดทั้งหมดไปกับการฝึกตน
…
บรรยากาศพิกลไม่น่าไว้ใจในด่านตะวันนั้นไม่ยืดเยื้อต่อเนื่องนานเท่าไร วันที่สามหลังจากนักพรตชิวถูกสังหาร เมื่อเสียงกัมปนาทของค่ายกลเคลื่อนย้ายดังก้องขึ้น บรรยากาศในด่านตะวันก็เปลี่ยนไป
เพราะกู่เหลียงฉวี่มาแล้ว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์