Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1682

สรุปบท ตอนที่ 1682 ความแข็งแกร่งของซี: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

สรุปตอน ตอนที่ 1682 ความแข็งแกร่งของซี – จากเรื่อง Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

ตอน ตอนที่ 1682 ความแข็งแกร่งของซี ของนิยายกำลังภายในเรื่องดัง Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

หุบเขาตะวันคล้อยอลหม่านปั่นป่วน กลิ่นคาวเลือดอบอวล

เหล่ามกุฎอริยะแท้อย่างพวกเจ้าคางคก อาหลู่ เซ่าเฮ่า รั่วอู่จัดการผู้แข็งแกร่งเผ่าอีกาทองทั่วไปพวกนั้นได้ราวกับเด็ดผักหั่นแตง ตลอดทางไม่มีอุปสรรคแม้แต่น้อย

ด้านเจ้านกดำยิ่งละทิ้งการสังหารศัตรูไปนานแล้ว เงาร่างราวกับสายลมคลั่ง ตักตวงสมบัติในหุบเขาตะวันคล้อยอย่างลับๆ ล่อๆ

เห็นท่าทางของมันแล้ว เหมือนกับขุนนางทุจริต แทบอยากจะกวาดสมบัติในที่นี้ให้เรียบ

ทันใดนั้นฟ้าดินสั่นสะเทือน กลิ่นอายน่ากลัวสายหนึ่งระเบิดออกมาจากบริเวณที่ต้นเทพฝูซางตั้งอยู่ ทำให้กฎระเบียบของฟ้าดินแถบนี้บิดเบี้ยวไปหมด

“หืม? นี่คือพลังอะไร มีกลิ่นอายที่ทำลายกฎระเบียบของฟ้าดินราวกับจักรพรรดิมาเยือน!”

“บัดซบ เผ่าอีกาทองใช้พลังมรรคจักรพรรดิแล้วหรือ”

พวกเจ้าคางคกต่างขนพองสยองเกล้า จิตวิญญาณเหมือนถูกภูเขาเทพหมื่นกาลกดทับ รู้สึกเพียงฟ้าดินถูกพลังที่น่ากลัวสายหนึ่งอัดแน่น จิตวิญญาณล้วนมีสัญญาณว่าจะสั่นคลอน

“ฆ่า!”

ขณะเดียวกันหน้าต้นเทพฝูซาง อูเหิงเทียนตวาดลั่น

กลางอากาศ ประกาศิตที่ม้วนแผ่ออกมามีประกายสลัวรางไหลวน พลังเจตจำนงของระดับจักรพรรดิแท้อบอวลเหมือนจักรวาลแรกกำเนิด

ตูม!

ในประกาศิตมีอักษรโบราณมรรคจักรพรรดิแถวหนึ่งพุ่งออกมา แต่ละตัวราวหล่อจากทองเทพ เจิดจรัสส่องประกาย กลายเป็นดาบสวรรค์สีทองเล่มหนึ่ง พิฆาตลงไปที่หลินสวิน

หลินสวินพลันมุ่นคิ้ว เหวี่ยงกระบี่อเวจีในมือขึ้นมาทันที ฟาดผ่าลงไปอย่างดุดันเรียบง่าย

เคร้ง!

กระบี่อเวจีและดาบสวรรค์สีทองปะทะกัน ละอองแสงสาดกระจายสะเทือนทั่วทิศ ทำให้แขนของหลินสวินชาไปหมด ร่างพลันซวนเซถอยหลังไปหลายก้าว

“ฮึ ก็แค่เจตจำนงสายหนึ่งเท่านั้น ข้ากลับอยากลองดูว่าเจ้าจะยืนหยัดได้นานแค่ไหน”

หลินสวินแค่นเสียงเย็นชา

เขาโบกสะบัดกระบี่อเวจี ไม่ถอยไม่หลีกกลับพุ่งขึ้นไปรับ กระบี่อเวจีถูกเขาใช้ฟาดฟันอย่างต่อเนื่อง ทุกกระบวนท่าล้วนเรียบง่ายถึงขีดสุด

แต่ปราณกระบี่แต่ละสายต่างมีอานุภาพสะเทือนฟ้าดิน กำจัดเทพผี แม้แต่ตัวกระบี่อเวจียังดำสนิท ส่องประกายยิ่งกว่าเดิม ส่งเสียงดังกึกก้อง สะท้านทั่วเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน

ทุกคนต่างอึ้งงันแล้ว

ลูกตาของพวกอูเหิงเทียนแทบถลนออกมา นั่นเป็นถึงประกาศิตที่มหาจักรพรรดิอีกามารเหลือทิ้งไว้ ประทับกลิ่นอายสูงส่งของมรรคจักรพรรดิ สามารถสังหารผู้แข็งแกร่งระดับกึ่งจักรพรรดิได้

แต่ตอนนี้หลินสวินกลับประจัญบานกับมัน กำลังปะทะกับเจตจำนงของมหาจักรพรรดิ นี่น่าเหลือเชื่อเกินไปอย่างไม่ต้องสงสัย!

“เจตจำนงของมหาจักรพรรดิใช่สิ่งที่มดปลวกตัวจ้อยอย่างเจ้าต้านทานได้หรือ ฆ่า!”

อูเหิงเทียนตะเบ็งลั่น

จิตวิญญาณของเขาเชื่อมกับประกาศิต ก็เห็นอักษรโบราณมรรคจักรพรรดิมากมายปรากฏออกมา กลายเป็นทวนศึก กระบี่เทพ ประทับใหญ่ เจดีย์เก่าแก่สีทอง…

พุ่งพิฆาตไปที่หลินสวินพร้อมกัน!

เพียงพริบตาฟ้าดินแถบนี้ต่างปั่นป่วน อานุภาพกดดันของมรรคจักรพรรดิที่น่ากลัวโหมกระหน่ำ พูดอย่างไม่เกินจริง เวลานี้ถ้ามีอริยะคนไหนกล้าเข้ามาใกล้ง่ายๆ ก็จะถูกฆ่าทันที

พลังเช่นนี้น่ากลัวเกินไป ถึงขั้นทำให้พลังกฎระเบียบของฟ้าดินแถบนี้มีสัญญาณว่าจะแบกรับไม่อยู่

แต่ยามเผชิญหน้ากับการโจมตีดุเดือดเช่นนี้ การตอบสนองของหลินสวินกลับเรียบง่ายมาก

เงื้อกระบี่อเวจีขึ้นมา

ฟาดฟันอย่างหนักหน่วง!

แต่ละกระบี่ล้วนเรียบง่ายถึงขีดสุด แต่ก็ดุดันน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง

ตึง! ตึง! ตึง!

เสียงกัมปนาทอึกทึกสนั่นหูดังก้องขึ้น เสียงปะทะกันแต่ละครั้ง สะเทือนจนในสมองของสัตว์ประหลาดเฒ่าไม่น้อยเหมือนมีเสียงดังหึ่งๆ เบื้องหน้าพร่าเลือน ยากจะรับจนเกือบกระอักเลือด

เพียงแต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาไม่อาจยอมรับ หรือควรบอกว่าเป็นสิ่งที่ทำให้ตกตะลึงก็คือ หลินสวินในยามนี้ถึงกับไม่ถูกกำจัดทันที กลับกลายเป็นว่าส่องประกายไปทั้งตัว ถือกระบี่ฆ่าฟัน มีท่าทางหยิ่งทะนงที่ชักกระบี่ออกมามองโดยรอบแล้วไร้ผู้ต่อกร

ทุกคนต่างขนพองสยองเกล้า

นี่… ยังใช่คนอยู่ไหม

แม้แต่เจตจำนงของมหาจักรพรรดิยังต้านได้ ใครจะกล้าเชื่อ

ถ้ากึ่งจักรพรรดิบนโลกอยู่ที่นี่ เกรงว่าคงละอายจนก้มหน้า ยอมรับว่าสู้ไม่ได้ ด้วยแม้แต่กึ่งจักรพรรดิก็ถูกลิขิตให้ไม่อาจหลบการโจมตีของเจตจำนงมหาจักรพรรดิได้

แต่มกุฎมหาอริยะคนหนึ่งอย่างหลินสวินกลับกำลังสกัดกั้นอยู่ ทั้งท่าทียังแข็งกร้าว เงื้อกระบี่ขึ้นมาฟาดฟันอย่างหนัก ฝีมือดูหยาบกระด้าง แต่กลับมีอานุภาพกระเทือนใจคน

“หรือคนในที่ลับซึ่งคอยช่วยเจ้าหนุ่มนี่… จะเป็นมหาจักรพรรดิคนหนึ่งจริงๆ”

“ไม่! กฎระเบียบฟ้าดินของดินแดนรกร้างโบราณไม่อาจรองรับพลังของมหาจักรพรรดิได้แน่ บนโลกนี้ไม่มีทางมีระดับจักรพรรดิเช่นกัน!”

“ถ้าเช่นนั้น นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”

เวลานี้ราชันอริยะอย่างพวกอูเฟิงจื่อ อูหลิงจื่อต่างหน้าเปลี่ยนสี เผยความตกตะลึงให้เห็น ล้วนไม่กล้าเชื่อ

“ฆ่า!”

อูเหิงเทียนตาแทบถลน เกือบจะหลั่งเลือด เหี้ยมเกรียมน่ากลัว

วู้ม!

กลางอากาศประกาศิตมรรคจักรพรรดิซัดโหม อักษรโบราณมรรคจักรพรรดินับไม่ถ้วนแผ่คลุมดั่งแสงเจิดจ้าหลายสาย ปั่นป่วนไปทั่ว ถักทอออกมาเป็นกฎเกณฑ์เจตจำนงมรรคจักรพรรดิ

ในความรางเลือน ราวกับมีร่างสูงตระหง่านผิดธรรมดาร่างหนึ่งปรากฏ นัยน์ตาเยียบเย็นล้ำลึก กลิ่นอายสูงส่งครอบจักรวาล เหมือนนายเหนือหัวผู้ยิ่งใหญ่

มหาจักรพรรดิอีกามาร!

พริบตานี้สัตว์ประหลาดเฒ่าอย่างอูเฟิงจื่อ อูหลิงจื่อต่างตื่นเต้นจนเกือบหลั่งน้ำตา

กี่ปีแล้วที่ไม่ได้เห็นความน่าเกรงขามของบรรพชน ยามนี้ต่อให้เป็นแค่สิ่งที่พลังเจตจำนงสร้างขึ้น แต่ยังคงทำให้พวกเขาจิตใจปั่นป่วนอยู่เหมือนเดิม

ตูม!

มายาของมหาจักรพรรดิอีกามารยื่นมือออกไป พลังปานฟ้าถล่มดินทลายแผ่ออกมา บดขยี้การโจมตีทุกอย่างของหลินสวินจนแหลกละเอียด ซัดร่างเขาลอยออกไปตรงๆ จนมุมปากกระอักเลือด เกือบจะร่วงคะมำกลางอากาศ

“เยี่ยม!”

เสียงปะทะดังขึ้น ยามนี้ฟ้าดินเหมือนอลหม่าน ตกอยู่ในสภาพยุ่งเหยิง มองอะไรไม่เห็น และสัมผัสไม่ได้

ทุกคนต่างใจสั่นระรัว เบื้องหน้าพร่าเลือน ถูกกลิ่นอายน่ากลัวกระตุ้นจนขวัญหนีดีฝ่อ ราวตกสู่หุบเหวลึก

เมื่อทุกอย่างสลายหายไปทั่วสารทิศก็เงียบสงัด

ในที่นั้นไม่เห็นเงาร่างของมหาจักรพรรดิอีกามารแล้ว และไม่เห็นประกาศิตจักรพรรดิสายนั้นแล้วเช่นกัน

ในบรรยากาศที่เงียบสงัด ร่างของหลินสวินยืนตระหง่าน ณ ที่นั้นราวกับคงอยู่มาแต่โบราณ เยียบเย็นหยิ่งทะนง มีมาดสง่างามหยิ่งผยอง

“เจตจำนงจักรพรรดิ… ถูกทำลายแล้วรึ”

มีคนอึ้งงันตื่นตระหนก พึมพำเสียงหลง

“ไม่…!”

ไม่นานในที่นั้นก็มีเสียงตะโกนโหยหวนของอูเฟิงจื่อดังขึ้น ทั้งตัวราวกับคลุ้มคลั่ง

“เป็นไปได้อย่างไร เป็นไปได้อย่างไร…”

สัตว์ประหลาดเฒ่าคนอื่นก็เกือบจะพังทลาย แบกรับการโจมตีเช่นนี้ไม่อยู่ แต่ละคนว้าวุ่นไปหมด ราวสูญพ่อสิ้นแม่

เจตจำนงจักรพรรดิสายนี้เป็นไพ่ตายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของหุบเขาตะวันคล้อย และเป็นพลังที่แข็งแกร่งที่สุดซึ่งเผ่าอีกาทองมีด้วย

แต่ตอนนี้กลับถูกทำลายจนสิ้นซากแล้ว นี่ก็เหมือนกับฟ้าถล่ม!

‘หลังจากนี้ถึงตาเจ้าลงมือแล้ว’

หลินสวินหันกลับมาทันใด มองไปที่ใต้ต้นเทพฝูซางแล้วสื่อจิตออกไป

น้ำเสียงเพิ่งแผ่วลง ก็เห็นพลังเร้นลับยากหยั่งถึงบนร่างหลินสวินนั้นพลันหายไป ท่วงทำนองศักดิ์สิทธิ์ที่เดิมเยียบเย็นหยิ่งทะนงก็จางหายไปด้วย

เวลานี้ในที่สุดหลินสวินก็กลับมาควบคุมร่างกายได้แล้ว เพียงแต่จิตใจของเขายังมึนงงไปพักหนึ่ง

ก่อนหน้านี้แม้ว่าหญิงลึกลับ ‘ซี’ จะแบ่งพลังส่วนหนึ่งมาช่วยเขาต่อสู้ แต่ทุกรายละเอียดของการต่อสู้ล้วนถูกหลินสวินรับรู้ได้อย่างชัดเจน

ประสบการณ์ที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้ ทำให้เขารู้สึกเหมือนได้หยั่งถึงนัยเร้นลับของการต่อสู้ระดับจักรพรรดิล่วงหน้า น่าเหลือเชื่อเป็นอย่างยิ่ง

นี่ต้องเป็นประสบการณ์ล้ำค่าอย่างหนึ่งที่หาได้ยากยิ่ง มอบประโยชน์อเนกอนันต์ในหนทางฝึกปราณภายหน้าของเขา

พวกอูเฟิงจื่อที่กำลังโศกเศร้า เดือดดาล ตื่นตระหนกล้วนสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของกลิ่นอายหลินสวินได้ตั้งแต่พริบตาแรก พวกเขาชะงักไปก่อน พลังที่คอยช่วยเจ้าหมอนี่หายไปแล้วหรือ

จากนั้นพวกเขาต่างก็เผยไอสังหารมืดทะมึนน่ากลัวออกมา!

เจตจำนงจักรพรรดิไม่อยู่แล้ว แต่เช่นเดียวกัน พลังซึ่งเป็นที่พึ่งของเจ้าหนุ่มนี่ก็หายไปด้วย นี่คือโอกาสหาได้ยากอย่างไม่ต้องสงสัย

เพียงแต่ยังไม่รอให้พวกเขาลงมือ ต้นเทพฝูซางพลันส่งเสียงกัมปนาท พื้นดินตรงนั้นระเบิดทันที เงาร่างหนึ่งพุ่งทะยานออกมา

“ฮ่าๆๆ ผ่านกาลเวลามาชั่วกัปกัลป์ ในที่สุดตอนนี้ข้าก็ได้เจอแสงตะวันอีกครั้ง!”

ท่ามกลางเสียงหัวเราะร่า ไอพลังอำมหิตที่ร้ายกาจน่ากลัวสายหนึ่งก็แผ่กระจายตามมา

เงาร่างนั้นราวกับเทพดุร้ายดึกดำบรรพ์ แหงนมองฟ้าหัวเราะร่า เสียงสะท้านจักรวาล บ้าระห่ำไม่ด้อยไปกว่าเมื่อปีนั้นเลย!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์