Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1683

สรุปบท ตอนที่ 1683 เด็กหนุ่มผมเทา: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

อ่านสรุป ตอนที่ 1683 เด็กหนุ่มผมเทา จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 1683 เด็กหนุ่มผมเทา คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

อะไรกัน

พวกอูเฟิงจื่อที่เดิมมีไอสังหารคิดจัดการหลินสวิน พริบตานี้ไม่มีใครไม่หน้าเปลี่ยนสี

เจ้ามารบาปนั่นหลุดออกมาแล้ว!

เสียงวู้มดังขึ้น สมองของพวกเขาแทบจะระเบิด

พลังลึกลับที่คอยช่วยหลินสวินเพิ่งหายไป วิญญาณอาวุธของธนูวิญญาณไร้แก่นสารก็หลุดรอดออกมา นี่ทำให้พวกอูเฟิงจื่อต่างมีความรู้สึกว่าจะพังทลาย

โชคไม่เกิดขึ้นพร้อมกัน หายนะไม่มาเดี่ยว!

ต้นเทพฝูซางมืดสลัว กิ่งก้านเผยแววมืดมน เจตจำนงมหาจักรพรรดิก่อนหน้านี้สูบพลังของมันไปกว่าครึ่ง แน่นอนว่าไม่มีทางกำราบวิญญาณอาวุธของธนูวิญญาณไร้แก่นสารได้อีก

ยามนี้เงาร่างนั้นยืนอยู่กลางอากาศ แหงนมองฟ้าหัวเราะร่า ไอสังหารอำมหิตปกคลุมฟ้าดินราวกับคลื่นยักษ์ซัดโหม

เมื่อมองอย่างละเอียด ลักษณะของเขาคือเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่รูปงามเป็นอย่างยิ่ง แต่ผมกลับเป็นสีขาวเทา นัยน์ตาราวกับวังวนหลุมดำ แววดุดันน่าพรั่นพรึงไหลวน

“นายท่านน้อย ขอยืมธนูยักษ์สักประเดี๋ยว!”

เมื่อสายตาของเด็กหนุ่มผมเทามองไปทางหลินสวิน กลับอ่อนน้อมถ่อมตนโค้งคำนับ

นี่เหมือนเป็นการยอมรับฐานะของหลินสวินอย่างหนึ่ง

หรือพูดได้ว่าตั้งแต่พริบตาที่หลินสวินบุกเข้ามาในหุบเขาตะวันคล้อยเพื่อช่วยเขาออกไป เขาก็ยอมรับชายหนุ่มคนนี้แล้ว

“เอาไป!”

หลินสวินสะบัดมือลวกๆ ธนูวิญญาณไร้แก่นสารและศรนภาครามต่างพุ่งออกไป ถูกเด็กหนุ่มผมเทารับไว้

วู้ม!

เด็กหนุ่มผมเทากระหวัดนิ้วชี้เกี่ยวสายธนู เสียงเร้าระทึกเหมือนพายุสายฟ้า

ในดวงตาเขาฉายแววตื่นเต้น เหม่อลอย และยินดี กล่าวพึมพำว่า “ในที่สุด… ข้าก็มาอยู่บนโลกได้อีกครั้ง เจ้าเฒ่าอีกามาร… เจ้าล้างคอรอไว้เถอะ… อีกไม่นานข้าจะไปหาเจ้าเพื่อแก้แค้น!”

กล่าวถึงตอนท้ายเขาพลันเงยหน้าขึ้น สายตากวาดมองพวกอูเฟิงจื่อ มุมปากโค้งเป็นรอยยิ้มเย็นชา วาจาอึมครึมเหี้ยมเกรียม

“ข้าเคยบอกแล้วว่ายามที่หลุดออกมาได้ ความทรมานทั้งหมดที่ได้รับมาเนิ่นนานนี้จะสนองคืนทั้งหมด ตอนนี้ก็ได้เวลาแล้ว!”

เขาพลันง้างสายธนู จากนั้นศรนภาครามพุ่งวาบออกไป

ตูม!

ศรเดียวกลับมีอานุภาพแหวกผ่านห้วงอากาศ บดขยี้ภูผาธารา ไอพลังอำมหิตเหมือนดั่งคงอยู่จริงทะยานตามศรนี้ออกมา

ในความรางเลือนยังมีเสียงเข่นฆ่าสังหารดังก้องเป็นระลอก

หลินสวินขนพองสยองเกล้า เมื่อธนูวิญญาณไร้แก่นสารถูกใช้โดยวิญญาณอาวุธของมัน อานุภาพนั้นต่างออกไปอย่างสมบูรณ์ น่ากลัวถึงขั้นไม่อาจจินตนาการได้

“หลบเร็ว!”

อูเฟิงจื่อตะโกนลั่น

แต่สุดท้ายก็ยังช้าไปหนึ่งส่วน หรือพูดได้ว่าภายใต้ศรนี้ ถ้าคิดจะหลบก็เป็นไปไม่ได้

ปึง!

เงาร่างหนึ่งระเบิดออก เลือดเนื้อสาดกระจาย

เป็นอูหลิงจื่อ นี่เป็นถึงคนที่อยู่ในระดับราชันอริยะคนหนึ่ง แต่กลับถูกศรเดียวสังหารกระจุย ร่างกายที่แหลกละเอียดของเขาหายไปในแสงศรอำมหิต!

พวกอูเหิงเทียนตื่นตระหนกอย่างถึงที่สุด ทั้งตัวถูกความกลัวเข้าครอบงำ แทบจะเผ่นหนีตามสัญชาตญาณทันที

วิญญาณอาวุธของธนูวิญญาณไร้แก่นสารน่ากลัวเกินไปแล้ว!

ตอนที่เขาถูกกำราบ พวกเขายังมองมันเป็นมารบาป ทั้งเฆี่ยนตีและดูหมิ่นรังแก แต่ยามวิญญาณอาวุธของธนูวิญญาณไร้แก่นสารหลุดออกมาก็ต่างออกไปอย่างสมบูรณ์แล้ว

อานุภาพที่เขาครอบครอง ถึงขั้นอยู่เหนือความคาดหมายของสัตว์ประหลาดเฒ่าเผ่าอีกาทองทุกคนอยู่โข

“คิดหนีรึ ไม่มีทาง!”

เด็กหนุ่มผมเทาราวกับเทพดุร้ายคนหนึ่ง ดึงธนูง้างศร แค่ชั่วพริบตาก็ยิงธนูออกไปสิบกว่าดอก แต่ละดอกล้วนมีอานุภาพอัศจรรย์ทะลวงแผ่นฟ้า โจมตีสุริยันจันทราให้จมดิ่ง

ฟุ่บ!

ฟุ่บ!

ฟุ่บ!

เพียงพริบตาผู้แข็งแกร่งเผ่าอีกาทองคนแล้วคนเล่าถูกทะลวงผ่าน ร่างกายระเบิดออก ฝนโลหิตสาดพรม จิตสิ้นวิญญาณสลาย

ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับมหาอริยะก็ดี หรือจะเป็นระดับอริยะแท้ก็ตาม ขอแค่เป็นคนที่ถูกเล็งก็ล้วนหนีจุดจบแห่งความตายไม่พ้น

เด็กหนุ่มผมเทายืนอยู่กลางอากาศ ร่างผอมบาง ทั่วร่างแผ่กลิ่นอายอำมหิตทะลุทะลวง ธนูยักษ์เหี้ยมเกรียมคันหนึ่งที่ทำขึ้นจากกระดูกขาวมากมาย ขับเน้นให้อานุภาพของเขาไม่ธรรมดายิ่งกว่าเดิม

แม้แต่หลินสวินก็ยังสูดหายใจหนาวเยือกอย่างอดไม่ได้ แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!

วิญญาณอาวุธตนหนึ่ง ถูกกักขังและจองจำในกาลเวลาไร้สิ้นสุด ถูกเฆี่ยนตี ทรมานเหมือนตกนรกทั้งเป็นไม่รู้เท่าไร กระทั่งวันนี้ที่รอดพ้นความลำบากก็ยังมีอานุภาพร้ายกาจเช่นนี้

นี่ทำให้หลินสวินไม่กล้าจินตนาการว่า วิญญาณอาวุธของธนูวิญญาณไร้แก่นสารในช่วงแรกจะมีพลังที่สะเทือนใต้หล้าแค่ไหน

อย่างอูหลิงจื่อที่เป็นถึงราชันอริยะ พลังอยู่ในระดับสูงสุดของดินแดนรกร้างโบราณในปัจจุบัน แต่กลับต้านการโจมตีเดียวของเด็กหนุ่มผมเทาไม่อยู่!

ปึง! ปึง! ปึง!

เสียงง้างธนูดังก้องเป็นระลอกเหมือนพายุสายฟ้าปั่นป่วน เด็กหนุ่มผมเทายืนอยู่บนชั้นเมฆ ผมยาวคลั่งระบำ บนใบหน้างามเต็มไปด้วยความหยิ่งผยองน่าครั่นคร้าม

“ปีนั้นข้าเคยสาบานว่า ไม่ช้าก็เร็วต้องมีสักวันที่ได้เหยียบย่ำที่นี่จนสิ้นซาก ล้างบางเผ่าอีกาทอง วันนี้หากให้พวกเจ้าหนีไปได้ ไม่ใช่ว่าข้าพูดจาตระบัดสัตย์หรือ”

“ฮ่าๆๆ ดูเศษสวะอย่างพวกเจ้าสิ ยังขี้ขลาดเหมือนปีนั้นอยู่เลย! ความกล้ายามพวกเจ้าเฆี่ยนตีข้าล่ะ หายไปไหนแล้ว”

“น่าเสียดาย ในหุบเขาตะวันคล้อยนี้ไม่มีระดับกึ่งจักรพรรดิแล้ว แค่ฆ่าเฒ่าระยำไม่ได้เรื่องอย่างพวกเจ้า สุดท้ายก็ยังไม่สะใจ…”

หลินสวินไม่ได้เข้าร่วมในงานเลี้ยงกินโต๊ะแบ่งสมบัติคราวนี้ ใช่ว่าไม่สนใจ หากแต่เขายังมีเรื่องสำคัญกว่าต้องทำ

“อ๊าๆๆ ต้นเทพฝูซาง! สวรรค์ ขอให้นี่ไม่ใช่ภาพหลอน! ไม่นึกเลยว่าต้นไม้เทพนี้จะยังคงอยู่บนโลก ปาฏิหาริย์ ช่างเป็นปาฏิหาริย์จริงๆ!”

ต้นไม้เทพต้นหนึ่งที่ลำต้นแข็งแกร่งเปี่ยมพลัง กิ่งก้านเขียวขจีตื่นเต้นจนตะโกนลั่น กิ่งก้านนับหมื่นพันส่งเสียงดังสวบสาบราวกับร่ายระบำ

เป็นต้นบรรพชนหลอมจิต!

ตอนนั้นในแดนลับตำหนักใต้ดินของโลกมารโลหิตที่สมรภูมิเก้าดินแดน หลินสวินเก็บต้นไม้นี้ไว้ในเจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุดมาตลอด

ต้นบรรพชนหลอมจิตต้นนี้แปลกประหลาดมาก เคยติดตามบำเพ็ญเพียรข้างกายมหาจักรพรรดิแยกฟ้า ท่องแหวกห้วงอากาศ ผ่านเรื่องต่างๆ มามากมาย

อีกทั้งมันยังมีสติปัญญาและจิตวิญญาณ สร้างต้นกำเนิดหลอมจิตออกมาได้ มีประโยชน์ต่อการหลอมศาสตราอริยะบริสุทธิ์ของหลินสวินอย่างคาดไม่ถึง

“เป็นอย่างไร เจ้าสามารถนำต้นไม้นี้ไปได้ไหม”

หลินสวินเอ่ยถาม

ต้นบรรพชนหลอมจิตกล่าวตื่นเต้น “ทำไมต้องเอาไปด้วย ให้ข้าหลอมมันเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายข้าไม่ดีกว่าหรือ”

“เจ้ายังกลืนกินต้นไม้นี้ได้อีกหรือ” หลินสวินยังอดชะงักไม่ได้ สีหน้าดูแปลกออกไป

ต้องรู้ว่าตอนนี้เขาครอบครองมรดกทั้งสองอย่างคัมภีร์เตาหลอมมหามรรคและคัมภีร์กลืนกินไร้สิ้นสุดแล้ว แต่ก็ไม่กล้าพูดเพ้อเจ้อว่าจะไปกลืนต้นไม้เทพที่อยู่มานานตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ต้นนี้

แต่ต้นบรรพชนหลอมจิตกลับเหมือนจ้องเหยื่ออันโอชะตัวหนึ่ง นี่ทำให้ผู้คนตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง

“แน่นอนว่าได้! แต่กลับต้องใช้เวลา มากสุดหนึ่งพันปี ไม่ ภายในห้าพันปี ข้าต้องหลอมพลังและลายมรรคที่แฝงอยู่ในต้นไม้นี้ได้หมดแน่!”

ต้นบรรพชนหลอมจิตพูดจาคล่องปาก

หลินสวินกล่าว “ข้าไม่มีเวลามารอเจ้าห้าพันปี”

ต้นบรรพชนหลอมจิตร้อนรนแล้ว กัดฟันกล่าว “เช่นนั้นก็โค่นมันซะ ข้าขอแค่ ‘รากแห่งต้นกำเนิด’ ของมันก็พอ”

“ไม่ได้”

ห้วงอากาศเกิดคลื่นระลอก เด็กหนุ่มผมเทาเคลื่อนย้ายมาแล้วกล่าว “ต้นเทพฝูซางก่อเกิดจากไอแรกกำเนิด ให้กำเนิดแหล่งลูกไฟสมาธิ แต่จิตวิญญาณของมันถูกมหาจักรพรรดิอีกามารเอาไปนานแล้ว หากโค่นมันทิ้ง บนโลกนี้จะไม่มีต้นเทพฝูซางต้นที่สองอีกแล้ว”

เขากลับมาตอนนี้ เป็นการพิสูจน์อย่างไม่ต้องสงสัยว่าพวกสัตว์ประหลาดเฒ่าของเผ่าอีกาทองอย่างอูหลิงจื่อ เกรงว่าคงรอดยากแล้ว

“เจ้าไม่แค้นมันรึ” หลินสวินผิดคาดอยู่บ้าง

เด็กหนุ่มผมเทาแววตาซับซ้อน “ต้นไม้นี้ฟ้าดินให้กำเนิดและหล่อเลี้ยง เดิมก็ไร้ดีชั่ว ก็แค่ถูกเผ่าอีกาทองใช้ประโยชน์และควบคุมมาตลอดเท่านั้น แน่นอนว่าข้าไม่มีทางอาฆาตมัน”

หลินสวินพยักหน้าเข้าใจแล้ว

เด็กหนุ่มผมเทากล่าวต่อ “ต้นไม้นี้เป็นหนึ่งในสี่ไม้เทพบรรพกาล นายท่านน้อยรู้หรือไม่ว่าทำไมปีนั้นยามมหาจักรพรรดิอีกามารมุ่งหน้าไปทางเดินโบราณฟ้าดารา ถึงยืนกรานจะนำจิตวิญญาณของต้นไม้นี้ไปด้วย”

……………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์