ศรเทพทั้งเก้าของเผ่าต้าอี้บรรพกาลมีชื่อว่า นภาคราม ยมโลก นิรันดร์ เขี้ยวลำนำ แสงโชค เสี้ยวปีก ไร้พ่าย อธิจิต อมฤตาลัย
ศรนภาคราม หลินสวินได้มาจากสมรภูมิกระหายเลือด
ศรนิรันดร์ ยามข้ามแม่น้ำพรมแดนไปแดนชัยบูรพาครั้งแรก ได้มาจากมือของสิงอี่เทียนทายาทเผ่าปีกอสนี
หลายปีมานี้ศรเทพทั้งสองเข้าคู่กับธนูวิญญาณไร้แก่นสาร ช่วยหลินสวินสังหารศัตรูที่แข็งแกร่งไปไม่รู้เท่าไร
แม้แต่หลินสวินเองก็คิดไม่ถึง ว่าจะได้ศรเทพสองดอกอย่างแสงโชคและเสี้ยวปีกจากหุบเขาตะวันคล้อยนี้!
ทั้งนี่ยังเป็นศรเทพที่เสริมส่งกันและกันด้วย!
“เจ้าหนู นี่เป็นทรัพย์หลังศึกของข้า หากเจ้าอยากได้ อย่างน้อยก็ต้องนำสมบัติมาแลกเปลี่ยนกันหน่อยกระมัง”
เจ้านกดำกล่าวโวยวาย
หลินสวินยิ้มน้อยๆ เก็บศรเทพทั้งสองนี้ลงไปอย่างไม่เกรงใจสักนิดแล้วกล่าว “หากไม่ได้ข้า เจ้าจะมีโอกาสขูดรีดสมบัติของเผ่าอีกาทองได้ที่ไหน เจ้าคางคก อาหลู่ หากพวกเจ้านำสมบัติที่นกขี้ขโมยนี่กินลงไปออกมาได้ ข้าจะแบ่งให้พวกเจ้าคนละครึ่ง”
พูดจบเขาก็หันหลังจากไป
เจ้าคางคกและอาหลู่สบตากันวูบหนึ่ง ล้วนหัวเราะกันขึ้นมา สายตามองไปยังเจ้านกดำอย่างมุ่งร้าย ฝ่ายหลังร่างกายสั่นเทา หวีดร้องขึ้นมาเหมือนสาวแรกรุ่นที่ถูกอันธพาลรุมล้อม
หลินสวินมองข้ามไปตรงๆ ไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง
เขาก้าวไปข้างหน้า พวกเซ่าเฮ่า รั่วอู่ เยวี่ยเจี้ยนหมิงกำลังพุ่งมาจากจุดที่ห่างออกไป
การโจมตีเผ่าอีกาทองครั้งนี้ สหายเหล่านี้เดินทางมาจากทั่วสารทิศอย่างยากลำบาก ยอมล่วงเกินเผ่าอีกาทองโดยไม่คำนึงถึงอะไร ต้องการสู้ศึกเคียงข้างตน
นี่จะไม่ให้หลินสวินซาบซึ้งใจได้อย่างไร
“ทุกท่าน ขอบคุณมาก คืนนี้พวกเรามาดื่มที่หุบเขาตะวันคล้อยนี้สักครั้งเป็นอย่างไร”
หลินสวินยิ้มกล่าว
“ฮ่าๆๆ รอประโยคนี้ของเจ้านี่แหละ”
“ด้วยความยินดี!”
ทุกคนต่างหัวเราะขึ้นมา บรรยากาศอบอุ่น
ไม่ทันไรในหุบเขาตะวันคล้อยนี้ก็เปิดม่านงานเลี้ยงขึ้น
ทุกคนสังสรรค์กันครึกครื้น พูดไปหัวเราะไป กล่าวถึงมหามรรค ถกเรื่องทางโลก ดื่มเหล้าพูดคุยกันสนุกสนาน เบิกบานปรองดอง
ชีวิตคนเรายามปิติควรรื่นเริงให้เต็มที่ อย่าให้จอกทองว่างเปล่าคู่แสงจันทร์
คืนนี้หลินสวินก็ดื่มจนเมาแล้ว
งานเลี้ยงนี้ยังถูกคนรุ่นหลังเรียกว่า ‘งานเลี้ยงมกุฎมหามรรค’ พาให้ผู้คนกล่าวถึงอย่างเพลิดเพลิน
ต่อมาภายหลัง หุบเขาตะวันคล้อยที่กลายเป็นซากปรักหักพังนี้ กลายเป็นโบราณสถานที่มีชื่อเสียงโด่งดังในใต้หล้าแห่งหนึ่ง ดึงดูดผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วนมาชื่นชมเหมือนมาพบอริยะ
…
เผ่าอีกาทองถูกกำจัด หุบเขาตะวันคล้อยกลายเป็นซากปรักหักพัง!
เมื่อข่าวนี้แพร่ออกไป ทั่วดินแดนรกร้างโบราณก็ตกอยู่ในความแตกตื่น เปิดฉากความปั่นป่วนโกลาหลทันที
ใครเล่าจะคาดคิด หลินสวิน อันดับหนึ่งของสมรภูมิเก้าดินแดนที่เงียบหายมาครึ่งปี ไม่เคยเผยตัว แต่โผล่มาทีก็สร้างความแตกตื่นให้ผู้คน กลายเป็นศูนย์รวมที่ใต้หล้าให้ความสนใจอีกครั้ง
ใต้หล้าอึกทึกครึกโครม ผู้คนบนโลกตกตะลึง
“สวรรค์! นี่เป็นเรื่องจริงรึ”
อย่าว่าแต่ผู้ฝึกปราณทั่วไป แม้แต่ขุมอำนาจใหญ่เก่าแก่ในดินแดนรกร้างโบราณแต่ละแห่งก็ยังนั่งกันไม่ติดแล้ว ถูกทำให้หวั่นหวาด
เผ่าอีกาทอง นั่นเป็นถึงเผ่าพันธุ์โบราณแห่งหนึ่งที่คงอยู่มาในกาลเวลาไร้สิ้นสุด อาศัยอยู่ที่หุบเขาตะวันคล้อย เรียกได้ว่าเป็นยอดสิ่งใหญ่โตมหึมาบนโลก
แต่ตอนนี้กลับถูกหลินสวินกำจัดจนสิ้นซาก!
ใครจะกล้าเชื่อ
“นี่เป็นไปไม่ได้ ในข่าวบอกว่าเขากลายเป็นมกุฎมหาอริยะแล้ว แต่ต่อให้เป็นเช่นนั้น เขาจะเป็นคู่ต่อสู้ของเผ่าเก่าแก่เผ่าหนึ่งได้อย่างไร”
“ต้องมีผู้สูงส่งคอยช่วยเขาอยู่แน่!”
“น่าชังนัก นี่ไม่ได้หมายความว่าด้วยอานุภาพของหลินสวินตอนนี้ ล้วนสามารถคุกคามความเป็นตายของขุมอำนาจเก่าแก่บนโลกได้แล้วหรือ”
ขุมอำนาจใหญ่ที่เดิมเห็นหลินสวินเป็นศัตรูพวกนั้น แต่ละคนต่างหวั่นใจ ถูกข่าวนี้ทำให้ตระหนกจนจิตใจสะท้านไหว วุ่นวายกันไปหมด
ครึ่งปีก่อนต่อให้รู้ว่าหลินสวินกลายเป็นอันดับหนึ่งแห่งสมรภูมิเก้าดินแดนแล้ว แต่ขุมอำนาจใหญ่ที่เห็นหลินสวินเป็นศัตรูพวกนี้ก็ไม่ถึงขั้นเกรงกลัว อย่างมากก็แค่หวาดกลัวความเร็วในการเติบโตของหลินสวินเท่านั้น
แต่ตอนนี้หลังจากเผ่าอีกาทองพินาศย่อยยับ พวกเขาจึงพบความจริงที่เหี้ยมโหดน่าพรั่นพรึง
การมีอยู่ของหลินสวินสามารถคุกคามความเป็นตายของขุมอำนาจพวกเขา เหยียบพวกเขาไว้ใต้ฝ่าเท้าแล้ว
นี่จะน่ากลัวเกินไปแล้ว!
“สมเป็นเทพมารหลินจริงๆ หลังจากศึกนี้ ขุมอำนาจเก่าแก่ที่ไหนบนโลกนี้จะกล้าดูถูกเขาอีก”
และมีผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วนชื่นชมและทอดถอนใจ แสดงออกถึงความเทิดทูนและนับถือหลินสวิน
หลายปีมานี้ในแต่ละช่วงเวลาจะมีข่าวเกี่ยวกับหลินสวินปรากฏ ทำให้ผู้แข็งแกร่งบนโลกแทบจะเฝ้ามองว่าหลินสวินเด่นผงาดในดินแดนรกร้างโบราณทีละก้าวอย่างไร
เห็นได้ชัดว่าอิทธิพลซึ่งเกิดจากความพังพินาศของเผ่าอีกาทองยิ่งใหญ่แค่ไหน!
พูดอย่างไม่เกินจริง ขุมอำนาจที่เคยมองหลินสวินเป็นศัตรูพวกนั้นคงจะกินไม่ได้นอนไม่หลับด้วยเรื่องนี้เป็นแน่
สำนักใหญ่ๆ บนโลกก็ต้องเปลี่ยนท่าทีที่มีต่อหลินสวินไปอย่างแน่นอน สำนักใดกล้าไม่เคารพหลินสวินอีก ก็ต้องชั่งน้ำหนักพิจารณาผลที่ตามมาว่าจะแบกรับไหวหรือไม่แล้ว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์