Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1732

สรุปบท ตอนที่ 1732 ได้เห็นการพลีชีพสังเวยกระบี่อีกครั้ง: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

สรุปตอน ตอนที่ 1732 ได้เห็นการพลีชีพสังเวยกระบี่อีกครั้ง – จากเรื่อง Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

ตอน ตอนที่ 1732 ได้เห็นการพลีชีพสังเวยกระบี่อีกครั้ง ของนิยายกำลังภายในเรื่องดัง Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

การปรากฏตัวของอาหูเปรียบดั่งกำแพงคงกระพันที่ขวางทางขึ้นเขาไว้

นางงดงามจนทำให้คนใจสั่น แต่พลังต่อสู้ก็แข็งแกร่งจนทำให้คนอื่นไม่กล้าดูเบาสักนิด

ถึงอย่างไรกระบี่ที่ฟันสังหารผู้สืบทอดขุมอำนาจใหญ่สามคนได้ พลังเช่นนี้คนธรรมดาจะไปมีได้หรือ

“พวกเจ้าหนีไม่พ้นหรอก”

อาหูเอ่ยปาก นางยืนอยู่ลำพัง ฝ่ามือมีกฎเกณฑ์มหามรรคสีม่วงเป็นริ้วๆ ผุดออกมา กลายสภาพเป็นเจตกระบี่น่ากลัว

นี่ทำให้ผู้แข็งแกร่งที่อยู่บนยอดเขาพญามังกรต่างโกรธเกรี้ยวหาใดเทียบ ทางถอยหนีก็ถูกปิด พวกเขาจะถอยก็ถอยไม่ได้แล้ว

“สู้เต็มที่!”

กู่ฉางซินสีหน้าเขียวคล้ำ เอ่ยปากคำรามดาลเดือด

เขาดูออกแล้วว่าคราวนี้หลินสวินกับผู้หญิงคนนั้นจะฆ่าพวกเขาให้สิ้นซาก!

ฉึบ!

ร่างกู่ฉางซินราวไฟลุกโหม ปลดปล่อยศักยภาพแฝงออกมาเต็มที่ เรียกกระบี่ดำที่ปกคลุมด้วยลายมรรคสีโลหิตดุร้ายออกมาเล่มหนึ่ง ฟันไปที่หลินสวิน

คมกระบี่ยังมาไม่ถึง เจตกระบี่อันแหลมคมที่แหวกห้วงอากาศนั้นก็แทงมาจนคนลืมตาไม่ขึ้น จิตวิญญาณสั่นระริกไปหมดแล้ว

กู่ฉางซินแข็งแกร่งกว่าเยี่ยนฉุนจวิน ตัวเขาเองก็เป็นผู้ฝึกกระบี่ชั้นยอดที่อยู่ในห้าสิบอันดับแรกของกระดานมหาอริยะฟ้าดารา!

ขณะนี้การโจมตีเหมือนทุ่มสุดชีวิตของเขายังใช้สมบัติลับก้นกรุด้วย อานุภาพเช่นนั้นเพียงคิดก็รู้ว่าแข็งแกร่งปานไหน

“หึ”

พอหลินสวินชูมือขึ้นก็ฟาดแส้เส้นหนึ่งออกไป แส้อสนีหยินม่วงมีสายอสนีเปล่งปลั่งโปร่งแสงฉายวาบอยู่เป็นชั้นเป็นวง โจมตีจนกระบี่นี้สะเทือนรุนแรงดังคว้างๆๆ ปราณกระบี่กับเงาแส้ปะทะกัน ทำให้ห้วงอากาศที่นั่นระเบิดออก

“เฉือน!”

และในตอนนี้เอง หลินสวินก็ฟันกระบี่ออกมาหนึ่งครั้ง

ทันใดนั้นประหนึ่งจักรวาลแรกกำเนิด กระบี่อเวจีดุจดั่งนรกมาเยือนโลก ทั้งห้วงอากาศต่างถูกขังไว้ภายในนั้น พอจะเห็นได้ว่ามีปราณกระบี่น่าสะพรึงกลัวไร้สิ้นสุดในนรก ผ่าแหวกหยินหยาง สร้างหายนะให้จักรวาล

ควรรู้ว่ากระบี่อเวจีเองก็เป็นสมบัติโบราณฟ้าประทาน เป็นกระบี่คู่กายยามจักรพรรดิกระบี่ธารนรกแจ้งมรรคในยุคดึกดำบรรพ์ อานุภาพของมันไม่ด้อยกว่าสมบัติลับอื่นใดสักนิด

ฉัวะ!

ท่ามกลางเสียงระเบิดกลางห้วงอากาศ ปราณกระบี่สีดำถาโถมเข้าใส่กู่ฉางซิน ความน่ากลัวของเจตกระบี่ ต่อให้เป็นกู่ฉางซินยังหวาดหวั่นใจ

แกร๊ง!

คุนจิ่วหลินกับมกุฎมหาอริยะคนอื่นบางส่วนร่วมมือกันบุกเข้ามา หมายจะรับการโจมตีนี้ของหลินสวินไว้

เพียงเห็นว่าคุนจิ่วหลินเรียกระฆังทองแดงที่มีกลิ่นอายสีสันเก่าแก่ใบหนึ่ง ระฆังเปลี่ยนเป็นใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว เข้าปกคลุมไปทางหลินสวิน คลื่นมหามรรคที่ตัวระฆังแผ่ออกมามีอานุภาพแห่งความเป็นตาย

ในทิศทางอื่นก็มีไพ่ตายมากมายพุ่งเข้ามาพร้อมกัน บ้างเป็นสมบัติโบราณหายาก บ้างเป็นอภินิหารวิชาลับต้องห้าม

สรุปแล้ว พวกเขากำลังเอาชีวิตเข้าแลก!

ตูมโครม!

เสียงกระแทกสะท้านฟ้าสะเทือนดินดังขึ้น ที่นั่นโกลาหลไปหมด ปราณกระบี่ ปราณดาบ และปราณสมบัติอันน่ากลัวม้วนตลบ ทำให้สุริยันจันทราอับแสง ท้องนภาหม่นหมอง

ผู้ฝึกปราณที่ดูการต่อสู้อยู่ไกลออกไปแต่ละคนอกสั่นขวัญหาย ภาพตรงหน้าขาวโพลน มองอะไรไม่เห็น เพราะกลิ่นอายทำลายล้างที่การปะทะคราวนี้สร้างขึ้นน่าตกตะลึงเกินไป

ตึงๆๆ!

ท่ามกลางฝุ่นควัน เงาร่างหลินสวินถอยกลับไปหลายก้าว แต่ละก้าวที่ย่ำลง ห้วงอากาศก็พังทลายยุ่งเหยิง ดูไปก็ทุลักทุเลอยู่บ้าง

นี่ยังเป็นครั้งแรกที่เขาถูกซัดให้ถอยออกไปตั้งแต่เริ่มเปิดศึกมา

แม้ว่าการโจมตีนี้ไม่ได้สร้างความเสียหายเป็นรูปธรรมอะไรให้กับหลินสวิน แต่เมื่ออยู่ในสายตาของคนอื่นที่อยู่ ณ ที่นั้น กลับทำให้พวกเขาฮึกเหิมขึ้นมา

นี่จะหมายความว่าหลินสวินไม่อาจสู้ชนะได้ใช่หรือไม่

“อย่างนี้ถึงเข้าท่าหน่อย หาไม่แล้วตอนพวกเจ้าตายเกรงแต่ว่าจะไม่ยินยอม”

กลับเห็นว่าหลินสวินพลันสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง กลิ่นอายทั้งกายถึงกับแข็งแกร่งขึ้นมากในทันที ตัวเขาแต่ก่อนประหนึ่งเตาหลอมกลางฟ้า มีพลานุภาพกำราบอดีตปัจจุบัน

แต่เขาในตอนนี้เปลี่ยนแปลงไปโดยสมบูรณ์แล้ว ร่างดั่งหุบเหวลึกล้ำไร้สิ้นสุด คล้ายจะกลืนกินฟ้าดินแถบนี้ให้สิ้น เผยท่วงท่าอหังการเหลือประมาณ

คัมภีร์กลืนกินไร้สิ้นสุด!

หลังการกินผลท้อแบน และผ่านการหยั่งรู้ที่เทียบเท่ากับการเคี่ยวกรำสิบปี มรดกหายากที่สืบทอดมาจากเจ้าแห่งมรรคาสวรรค์ชิ้นนี้ก็ถูกหลินสวินหยั่งถึงและควบคุมขึ้นไปอีกขั้น

ในตอนนี้สำแดงออกมาด้วยพลังปราณและมรรควิถีใหม่เอี่ยม พลานุภาพเช่นนั้นไม่อาจนำมาเทียบได้กับในอดีต

“ฆ่า!”

“รีบลงมือพร้อมกัน!”

พวกกู่ฉางซินต่างตกตะลึง แทบจะใช้พลังทั้งหมดเข้าจู่โจม ไม่สนใจทุกอย่างโดยสิ้นเชิงแล้ว

“พวกเจ้าไม่มีโอกาสหรอก”

นัยน์ตาทั้งสองของหลินสวินเฉยชา เสียงก็ไม่มีคลื่นอารมณ์สักนิด

จากนั้น…

เขาเคลื่อนไหวแล้ว ประหนึ่งหุบเหวใหญ่แห่งหนึ่งเคลื่อนย้ายบดบังนภากาศ ทุกที่ที่ผ่าน ห้วงอากาศ แสงฟ้า ฝุ่นผงล้วนตกอยู่ในการทำลายล้างถล่มทลาย

เขาชกหมัดหนึ่งออกไป

แกร๊ง!

ระฆังทองแดงกลิ่นอายสีสันโบราณเหนือหัวของคุนจิ่วหลินใบนั้นส่งเสียงดัง สาดรุ้งเทพดั่งน้ำตกออกมา หมายจะเข้าขวางพลังหมัดของหลินสวิน

ระฆังใบนี้ก็มีที่มาไม่ธรรมดา คุนจิ่วหลินเคยอาศัยสมบัตินี้สกัดการจู่โจมของคนรุ่นเดียวกันสิบเก้าคนเอาไว้ นั่งนิ่งอยู่สามก้านธูปก็ยังไม่ทะลุดังเดิม พลังป้องกันแกร่งกล้าหาใดเทียบ

แต่ขณะนี้สมบัติอริยะชั้นยอดชิ้นนี้กลับถูกพลังหมัดของหลินสวินถล่มจนสั่นสท้านปั่นป่วนเสียงดังหึ่ง รุ้งเทพคล้ายน้ำตกถูกระเบิด ยามปะทะที่ตัวระฆังก็ปรากฏรอยหมัดยุบลงไป!

เคร้ง!

ระฆังทองแดงส่งเสียงกึกก้อง พื้นผิวปรากฏรอยร้าว

สมบัติกับพลังขับเคลื่อนเชื่อมโยงกัน ระฆังนี้ได้รับความเสียหาย ทำให้คุนจิ่วหลินก็กระอักเลือดออกมาทันที เงาร่างถอยกระเด็นออกไปอย่างแรง

แต่นี่เพิ่งเริ่มเท่านั้น!

ที่ตามมาติดๆ คือพลังหมัดซึ่งถล่มสังหารของหลินสวิน ไพ่ตายของบุคคลขอบเขตมกุฎคนแล้วคนเล่าต่างถูกระเบิดออก ละอองแสงดับสลาย ถูกพลังหมัดกลืนกินจนสิ้น

สุดท้าย พลังหมัดกระแทกไปยังกระบี่ที่กู่ฉางซินฟันออกมา

เปรี๊ยะ!

ในสมองของผู้ที่ดูการต่อสู้เหล่านั้นมีความคิดหนึ่งปรากฏขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่ พวกกู่ฉางซินจบเห่โดยสมบูรณ์แล้ว…

ไม่มีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น

ในเวลาต่อมามีคนหนีตาย แต่กลับหนีไม่พ้นการขัดขวางของอาหู ถูกฆ่าตายบนทางภูเขาหินเขียวอันเก่าแก่

มีคนทุ่มชีวิตบุกโจมตี แต่กลับเหมือนแมงเม่าบินเข้ากองไฟ ถูกหลินสวินกำราบสังหารอย่างไร้ปรานี

และก็มีคนพุ่งไปยังแดนผนึกลึกลับที่มีหมอกขมุกขมัวที่อยู่ไกลออกไปบนยอดเขาพญามังกร แต่ทันทีที่เข้าไปก็ส่งเสียงร้องโหยหวนชวนหดหู่ ร่างถูกแผดเผา กลายสภาพเป็นเถ้าธุลี

เพราะที่นั่น มีเพียงถือป้ายคำสั่งเซียนเหินไว้เท่านั้นถึงจะเข้าไปได้!

ฟุ่บ!

ฟุ่บ!

ฟุ่บ!

มกุฎมหาอริยะคนแล้วคนเล่าถูกสังหาร สิ้นชีพดั่งสายฝน

ไม่ว่าพวกเขาจะเรียกสมบัติ อภินิหาร วิชาลับ กระทั่งใช้ไม้ตายต่างๆ แต่ด้วยการจู่โจมของหลินสวินก็ล้วนไม่มีประโยชน์สักนิด

ห่าฝนโลหิตสาดพรม ยอดเขาพญามังกรถูกสีโลหิตเข้มปกคลุมโดยสมบูรณ์ เลือดที่ไหลหลั่งย้อมผืนดินเป็นสีแดง แทรกซึมลงไป

เหล่าผู้ชมต่างสั่นระริกไปทั้งตัว สมองว่างเปล่า

พวกเขาเคยเห็นพวกร้ายกาจที่ฆ่าคนเป็นผักปลา แต่คนร้ายกาจไร้ทัดเทียมอย่างหลินสวิน กลับเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก

ฆ่าผู้สืบทอดขุมอำนาจใหญ่อย่างกับเชือดไก่!

ภาพที่เลือดหลั่งรินแต่ละภาพเหล่านั้น หากแพร่กลับไปยังทางเดินโบราณฟ้าดารา ต้องก่อให้เกิดเสียงฮือฮาไม่มีที่สิ้นสุดแน่

เพราะบนทางเดินโบราณฟ้าดาราก็เกิดเรื่องน่าสังเวชทำนองนี้ได้น้อยยิ่งนัก

ถึงอย่างไรผู้ที่สิ้นชีพไปเหล่านี้แทบจะมาจากขุมอำนาจใหญ่อย่างหกเรือนมรรคใหญ่ สิบเผ่านักรบใหญ่ทั้งนั้น ในอดีตใครกล้าไม่เคารพพวกเขากัน

ใครกล้าปลิดชีพพวกเขาอย่างไร้ปรานีได้อย่างหลินสวิน

“หลินสวิน ข้าขอสู้สุดชีวิตกับเจ้า!”

ในที่นั้นเหลือแค่กู่ฉางซินคนเดียว เขาเหมือนมารคลั่ง แทงกระบี่ในมือเข้าไปในอกตัวเองทันที

กระบี่โบราณสีดำที่ปกคลุมด้วยรอยมรรคสีเลือดอันโหดร้ายส่งเสียงดังวิ้งๆ เลือดลมและพลังทั้งร่างของกู่ฉางซินแทรกเข้าไปในกระบี่นี้ราวกับสายธารยาว

ผมของเขาเปลี่ยนเป็นขาวซีดแห้งเหี่ยวทันที ผิวหนังปริแตกชราลง เหมือนสูญเสียสารกาย พลังชีวิตและจิตวิญญาณทั้งหมดไปในชั่วขณะเดียว

แต่กลิ่นอายของกระบี่โบราณสีดำเล่มนั้นกลับเพิ่มพูนและแข็งแกร่งยิ่งขึ้นในทันใด!

“พลีชีพสังเวยกระบี่!”

ผู้ชมการต่อสู้ที่อยู่ไกลออกไปต่างหน้าเปลี่ยนสี นี่เป็นวิชาลับต้องห้าม เท่ากับเป็นการใช้ชีวิตเป็นเครื่องสังเวยเพื่อปลุกพลังที่หลับใหลอยู่ในสมบัติ

“พลีชีพสังเวยกระบี่…”

ดวงตาดำหลินสวินเผยแววเลื่อนลอยเล็กน้อย นึกถึงอวิ๋นชิ่งไป๋ขึ้นมา เขาในตอนนั้นก็เคยเอาชีวิตเข้าแลกโดยไม่สนใจทุกสิ่งเช่นนี้

ตูม!

พร้อมๆ กับเสียงดังสนั่นทะลุเมฆา ยามนี้กระบี่โบราณสีดำที่ดูดซับพลังทั้งร่างของกู่ฉางซินราวกับตื่นขึ้นโดยสมบูรณ์ กลิ่นอายสะท้านฟ้าสะเทือนดินมาเยือนทั้งยอดเขาพญามังกรในชั่วพริบตา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์