‘ได้’
หลินสวินรับปากโดยแทบไม่ต้องคิด
วู้ม!
เจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุดพุ่งออกมา
พริบตานี้ในที่นั้นมีเสียงคำรามของร่างผอมแห้งที่เจือความตื่นตระหนก ถึงขั้นหวาดผวาดังขึ้น
“ไม่…! เจดีย์นี้ยังอยู่บนโลกได้อย่างไร!?”
ตูม!
หลินสวินรู้สึกเพียงจิตวิญญาณสั่นระรัว ไม่อาจรับรู้โดยสิ้นเชิง
ไม่รู้ว่าผ่านไปอีกนานเท่าไหร่ พลังที่อบอุ่นแผ่กระจายไปทั่วร่างเขา ทำให้เขาค่อยๆ ฟื้นคืนความรู้สึกและการรับรู้กลับมา
ยังคงเป็นโลกผนึกที่มืดมนแห่งนั้น ฟ้าดินมืดสลัว ความยะเยือกเย็นเข้ากดดัน
ในจุดที่ห่างไกลแท่นมรรคยังอยู่ เพียงแต่ร่างผอมแห้งที่ถูกโซ่นับไม่ถ้วนกำราบนั้นกลับไม่อยู่แล้ว ว่างเปล่าไม่มีอะไรเลย
“ตายหรือยัง”
เขาส่งเสียงพึมพำ
“ไม่ตาย”
ข้างหูมีเสียงลุ่มลึกหนึ่งดังขึ้น
หลินสวินเงยหน้าขึ้น ก็เห็นชายตัดฟืนวัยกลางคนนั้นกำลังยืนอยู่ข้างกาย บนใบหน้าแข็งกร้าวที่หยาบกร้านสีน้ำตาลแดงของเขาเจือรอยยิ้มที่ดูเรียบง่ายอบอุ่น
เขากล่าว “ศิษย์น้องเล็ก ข้าชื่อเก่ออวี้ผู เดิมเป็นคนตัดฟืนในภูเขา ตัดฟืนหาเลี้ยงชีพ ต่อมามีวาสนาได้ท่านอาจารย์ชี้แนะ รับเข้าเป็นศิษย์ในสำนัก อยู่ในอันดับที่เก้า เจ้าเรียกข้าว่าศิษย์พี่เก้าเถอะ”
หลินสวินคารวะทันที “หลินสวินคารวะศิษย์พี่เก้า”
เก่ออวี้ผูเกาหัวกล่าวอย่างทึ่มทื่ออยู่บ้าง “ศิษย์น้องเล็กไม่ต้องเกรงใจเช่นนี้ ข่งตู๋เทียนนั่นพูดไม่ผิด ในสำนักข้านับว่าโง่เขลาที่สุด ท่านอาจารย์ก็พูดบ่อยๆ ว่าข้าเป็นท่อนไม้บื้อ”
เสียงของเขากลับเจือความภาคภูมิยินดี
หลินสวินร้องเอ้อออกมาคำหนึ่ง
ในภาพความทรงจำของเขามีศิษย์พี่ที่ครอบครองวิชาอริยะยุทธ์ แข็งกร้าวทะลุเมฆ ไม่หวาดกลัวสิ่งใดในใต้หล้า เหยียบทะลวงเมฆ ผงาดผยองชั่วกาล
ศิษย์พี่เสวียนคงนิสัยเปิดเผยตรงไปตรงมา ซื่อสัตย์มีน้ำใจ มองความตายเป็นเรื่องธรรมดา
ศิษย์พี่เสวี่ยหยาที่ไม่เคยพบหน้านั้นก็อบอุ่นสุขุมลุ่มลึก ดูคงแก่เรียน
ศิษย์พี่หลี่เสวียนเวยก็ถูกเจตจำนงของระฆังมหามรรคไร้กฎติชมว่านิสัยเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ สง่างามอิสระ เป็นคนน่าสนใจยิ่ง
หลินสวินกลับคิดไม่ถึง ว่าศิษย์พี่เก้าคนนี้ของตนจะเป็นคนที่เรียบง่ายเหมือนก้อนหิน เชื่องเชื่อทึ่มทื่อเช่นนี้ ไม่วางท่าแม้แต่น้อย แต่กลับทำให้ผู้คนรู้สึกว่าใกล้ชิดได้ง่ายที่สุด
“ศิษย์พี่เก้า เมื่อครู่เกิดเรื่องอะไรกันแน่”
หลินสวินอดถามไม่ได้ ขณะกล่าวเขาสังเกตเห็นว่าอาหูนั่งขัดสมาธิอยู่ข้างๆ หลับตาผ่อนลมหายใจเนิบช้า ราวกับกำลังหลับสนิท
เขาไม่รบกวนอาหู
“ศิษย์น้องเล็ก มีเหล้าไหม”
เก่ออวี้ผูนั่งลงกับพื้นง่ายๆ มองหลินสวินตาปริบๆ
แน่นอนว่าหลินสวินมี หยิบเหล้าชั้นดีไหหนึ่งที่เก็บไว้ออกมาส่งให้ทันที
เก่ออวี้ผูปิติยินดียิ่ง กอดไหสุราดื่มอย่างสะใจครู่หนึ่งค่อยทำปากจุ๊ๆ ร้องออกมาว่าสะใจ บอกว่าตั้งแต่มาเฝ้าที่นี่เขาก็ไม่เคยลิ้มรสชาติของสุราอีกเลย
น้ำเสียงเต็มไปด้วยความคะนึงหา
หลินสวินไม่พูดอะไรมาก นำเหล้าชั้นดีออกมาอีกมากมาย พูดว่าอยากดื่มกับศิษย์พี่เก้าให้สะใจ
เก่ออวี้ผูดีใจมาก บนใบหน้าหยาบเถื่อนเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“ศิษย์น้องเล็ก หากเจ้าจะถามเรื่องอื่น ข้าไม่รู้จริงๆ ด้วยปีนั้นหลังจากข้าได้รับบาดเจ็บในศึกมรรคของเหล่าจักรพรรดิ ท่านอาจารย์ก็บอกว่าชีวิตนี้ข้าหมดหวังในการเสาะหามรรคาแล้ว จากนั้นก็ถามข้าว่ามีความปรารถนาที่ค้างคาอะไรไหม”
ไม่นานเก่ออวี้ผูคล้ายหวนนึกถึงความหลัง กล่าวว่า “ข้าบอกว่าก่อนที่ร่างจะตายมรรคสลาย อยากเฝ้าดูข่งตู๋เทียนไปตลอด ท่านอาจารย์ก็รับปากพาข้ามาอยู่นี่ หลังจากนั้นข้าก็เฝ้าอยู่ที่นี่มาตลอด”
“ทำไมต้องทำเช่นนี้ด้วย”
หลินสวินอดถามไม่ได้
“ไม่ยินยอม”
เก่ออวี้ผูกล่าวเสียงขรึม “ในศึกมรรคของเหล่าจักรพรรดิ คู่ต่อสู้ของข้าก็คือข่งตู๋เทียน แต่ข้าสู้กับเขาต่อเนื่องมาสิบเก้าวันกลับไม่อาจฆ่าเขาได้ สุดท้ายก็บาดเจ็บด้วยกันทั้งคู่…”
เขาดูซึมเซาไม่มีความสุข ดื่มเหล้าอีกยกอย่างอดไม่ได้ ขอบตาแดงเรื่อไปหมด กล่าวด้วยเสียงแหบพร่า “ตอนนั้นหากไม่ใช่ว่าข้าไม่ได้เรื่องจนเกินไป พวกศิษย์น้องจี้ซิว ศิษย์น้องอู่ฉางและศิษย์น้องเวินหลิวก็คงไม่ตาย…”
หลินสวินใจเต้นระส่ำ ศึกมรรคของเหล่าจักรพรรดิถึงกับทำให้ผู้สืบทอดบางคนของคีรีดวงกมลร่วงหล่น?
นั่นเป็นศึกใหญ่ที่น่ากลัวระดับใดกัน
“ศิษย์พี่เก้า ความผิดไม่ได้อยู่ที่ท่าน ไม่จำเป็นต้องโทษตัวเอง” หลินสวินกล่าวด้วยเสียงอบอุ่น
เก่ออวี้ผูถอนใจยาวกล่าว “ท่านอาจารย์ก็บอกว่าการต่อสู้ของสำนักก็เหี้ยมโหดเช่นนี้ ไม่อยากให้ข้านึกเสียใจด้วยเรื่องนี้ แต่ข้า… ก็ยังไม่ยินยอม!”
หว่างคิ้วเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและเคียดแค้นชิงชัง
หลินสวินยกเหล้าขึ้นมาส่งให้เก่ออวี้ผู จากนั้นเขาก็ยกกาขึ้นดื่มเงียบๆ ครู่หนึ่งค่อยกล่าว “ศิษย์พี่เก้า เล่าเรื่องศึกมรรคของเหล่าจักรพรรดิให้ข้าฟังหน่อยได้หรือไม่”
เก่ออวี้ผูส่ายหัว “ศิษย์น้องเล็ก เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องเมื่อนานมาแล้ว ภายในนั้นเกี่ยวข้องกับการต่อสู้ของสำนัก กฎกรรมที่เกี่ยวพันก็มากเกินไป บอกเจ้าไปตอนนี้มีแต่โทษไม่มีคุณ ทั้งเป็นไปได้สูงว่าจะส่งผลกระทบต่อการเลือกมรรคาของเจ้าในภายหน้า”
หลินสวินชะงัก สัมผัสได้ยิ่งกว่าเดิมว่า ‘ศึกมรรคของเหล่าจักรพรรดิ’ นี้ไม่ธรรมดา!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์