ชิ้ง!
ปลายกระบี่อเวจีที่ที่ดุจดั่งโลกันตร์ชนกระแทกกับทวนใหญ่กระดูกขาว เกิดเสียงดังรุนแรงที่กรีดแทงจิตวิญญาณ สั่นสะท้านทั่วสี่ทิศ
ท่ามกลางรัศมีแสงศักดิ์สิทธิ์ เงาร่างซวีหลิงคุนถูกซัดถอยร่น
ไม่รอให้หลินสวินบุกโจมตีต่อ กระบี่มรรคมหายุทธ์ที่เหมือนรุ้งยาวหยกขาวสายหนึ่งก็แหวกอากาศมาเยือน อานุภาพกระบี่เวิ้งว้างล่องลอย ส่งเสียงครวญดุกร้าวออกมา
หลินสวินโบกสะบัดกระบี่ยอดสังหาร ซัดกระแทกกับมันจังๆ
ชั่วพริบตาเท่านั้น ทั้งคู่สู้กันดุเดือนหลายร้อยกระบวน ทุกครั้งที่ปะทะเข้าด้วยกัน ล้วนมีอานุภาพสะเทือนเลื่อนลั่นฟ้าดิน ทำให้ในลานส่งเสียงก้องกระหึ่มไม่ขาด
ร่างเหวินฉิงเสวี่ยสั่นระริก ใบหน้างดงามเคร่งขรึมอย่างหาได้ยาก
ย้อนกลับมามองหลินสวิน อานุภาพดั่งรุ้ง เคลื่อนไหวดุจสายฟ้า เผชิญหน้าภายใต้การตีคู่จู่โจมของซวีหลิงคุน เหวินฉิงเสวี่ยสองคน ยังคงกรำศึกอย่างแข็งแกร่ง ทั้งตัวคนดุจเหวใหญ่ที่เดือดพล่าน!
ผู้ชมการต่อสู้บริเวณไกลๆ ล้วนกลั้นใจเพ่งสมาธิ ให้ความสนใจกับทุกอย่างนี้อย่างใกล้ชิด
ความแข็งแกร่งของหลินสวิน ทำให้พวกเขาล้วนรู้สึกเย็นวาบ ขณะเดียวกัน การเข้าคู่ของซวีหลิงคุนและเหวินฉิงเสวี่ยก็ทำให้พวกเขารู้สึกตระการตาด้วยเช่นกัน
“ฆ่า!”
กลางเสียงตะโกนสนั่น ซวีหลิงคุนผมยาวปลิวไสว นัยน์ตาดุจดวงอาทิตย์กล้า ทวนใหญ่กระดูกขาวเล่มหนึ่งถูกโบกสะบัด เรียกแสงมรรคเดือดปะทุขึ้นมา
ทุกการโจมตี หากอยู่โลกภายนอก ล้วนสามารถฟันสังหารมกุฎมหาอริยะที่แง่ความหมายทั่วไปได้ง่ายดาย ไอเข่นฆ่าเสียดฟ้า
ถึงอย่างไรก็เป็นพวกนายเหนือหัวแห่งยุคอันดับที่สิบสามบนกระดานมหาอริยะฟ้าดารา รากฐานพลังที่มี มรระและวิชาที่เชี่ยวชาญ ล้วนไม่ใช่คนทั่วไปจะเทียบชั้นได้
แต่ไม่ว่าอานุภาพโจมตีของเขาจะอำมหิตปานใด กลับถูกหลินสวินใช้พลังทำลายพลัง ใช้ไม้แข็งสู้ไม้แข็งอยู่เสมอ ทำให้ซวีหลิงคุนหลังชนฝาอยู่เรื่อย
นี่ทำให้เขาหน้าเปลี่ยนสี เดือดจัดและหวาดผวา อานุภาพรอบกายยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนเหวินฉิงเสวี่ย ฝีมือการต่อสู้ก็เรียกได้ว่าเลื่องระบือ กระบี่มรรคมหายุทธ์เล่มหนึ่ง ถูกนางชี้สั่งอย่างแยบคาย ฉายแสดงคัมภีร์กระบี่ตำนานลับ พลานุภาพไร้ทัดเทียม ปราณกระบี่เบียดเสียด เปรียบเสมือนรุ้งราวขวางตะวัน
แต่ขณะเดียวกัน การบุกโจมตีของนางเมื่ออยู่ต่อหน้าหลินสวิน ก็เหมือนน้ำท่วมฉับพลันมาเจอรางน้ำ ดุจมังกรครามจองจำอยู่ในเหวใหญ่ ถูกกดข่มเอาไว้ซ้ำแล้วซ้ำอีก!
และในลาน พวกจวนอวี๋เหิง ฮว่าซิงหลีล้วนพากันสีหน้าเคร่งขรึม ใคร่ครวญและเปรียบเทียบอยู่ในใจ หากเปลี่ยนตนเป็นหลินสวิน ควรจะรับมืออย่างไรกัน
ขณะเดียวกัน หากตนเปลี่ยนเป็นพวกซวีหลิงคุน เหวินฉิงเสวี่ย ควรจะเอาอะไรไปสกัดต้านกับหลินสวินกันอีกเล่า
ยิ่งเปรียบเทียบ สีหน้าพวกเขาก็ยิ่งเคร่งขรึม
สามารถฟันธงได้ การต่อสู้ระดับนี้แม้จะอยู่บนทางเดินโบราณฟ้าดารา ก็เรียกได้ว่าหายากในยุคบรรพกาล ส่องชัชวาลปัจจุบัน!
ถึงอย่างไรนายเหนือหัวแห่งยุคอย่างซวีหลิงคุน เดิมก็เป็นพวกที่มีอยู่เพียงหยิบมือ
และพวกร้ายกาจที่พลังต่อสู้พลิกฟ้าอย่างหลินสวิน ก็หาตัวจับยากอย่างที่สุดเช่นเดียวกัน
ส่วนเหวินฉิงเสวี่ย อันดับรายชื่อในปัจจุบันของนางดูเหมือนจะอยู่เพียงร้อยอันดับแรกบนกระดานมหาอริยะฟ้าดารา แต่ความแข็งแกร่งแห่งพลังต่อสู้ที่สำแดงออกมาก็ทำให้คนเปิดมุมมองใหญ่เช่นกัน
“ทะยาน!”
ครู่ต่อมา เหวินฉิงเสวี่ยส่งเสียงธรรมคลุมเครือออกมา
พรึ่บ!
กระบี่หักที่ลายพร้อมขั้นสนิทเล่มหนึ่งโฉบพรวดออกมา หลงเหลือเพียงปลายกระบี่เสี้ยวหนึ่ง แต่ยามเมื่อปรากฏตัว กลับปลดปล่อยเกลียวคลื่นปราณกระบี่สีแดงฉานเป็นวงๆ ทำให้ห้วงอากาศแถบนั้นล้วนย้อมเป็นสีแดง
“กลิ่นอายมรรคจักรพรรดิ! นี่คงไม่ใช่กระบี่จักรพรรดิที่แตกชำรุดเล่มหนึ่งหรอกกระมัง”
มีคนตกใจ ร้องอุทานเสียงหลง
ส่วนจำนวนหนึ่งยิ่งร่างกายแข็งทื่อ ขนลุกขนชัน รับรู้ถึงไอหนาวเหน็บและภัยคุกคามกรีดกระดูกได้จากปลายกระบี่เสี้ยวนี้
“บั่น!”
เหวินฉิงเสวี่ยสีหน้าขึงขัง รวบนิ้วตวัดวาดคราหนึ่ง
ปลายกระบี่ลายพร้อยเสี้ยวนั้นสว่างวาบเบาๆ กลางห้วงอากาศ ดูคล้ายเชื่องช้าหาใดเปรียบ แต่พริบตาเดียวกลับปรากฏขึ้นบริเวณกลางคิ้วของหลินสวิน เสียบเข้าไปหนักๆ
ภาพเหตุการณ์ดูเหมือนช้าที่ความจริงรวดเร็วยิ่ง ทำให้ผู้คนอึดอัดจนอยากกระอักเลือด
ชิ้ง!
ดาบหักที่ถูกฟูมฟักอยู่ในห้วงนิมิตกลางคิ้วของหลินสวินพลันโฉบพรวดออกมา โจมตีโดนปลายกระบี่เสี้ยวนี้อย่างแม่นยำหาใดเปรียบ
ทั้งคู่ชนกระแทกกัน ดาบหักสั่นโคลง ถึงกับถูกซัดกระเด็น!
อาศัยโอกาสนี้ เงาร่างหลินสวินหายไปจากจุดเดิมนานแล้ว ปรากฏตัวอยู่บริเวณอีกฝั่ง เพียงแต่หว่างคิ้วของเขาก็ปรากฏแววแปลกไปแวบหนึ่ง
ปลายกระบี่ที่แตกชำรุดเสี้ยวนี้ เห็นชัดว่าเป็นสมบัติที่น่าทึ่งสุดขีดชิ้นหนึ่ง สงสัยว่าเป็นสมบัติจักรพรรดิเสื่อมชำรุด!
สวบ!
ปลายกระบี่สว่างวาบ เรียกเกลียวคลื่นปราณกระบี่สีแดงฉานเป็นวงๆ บุกสังหารเข้ามาอีกครั้ง
เกือบจะในเวลาเดียวกัน ซวีหลิงคุนส่งเสียงตะโกนสนั่นออกมา บีบโจมตีจากอีกด้านหนึ่ง ทวนใหญ่กระดูกขาวเล่มหนึ่งระเบิดทะลักกระแสหนาวเหน็บไร้สิ้นสุดออกมา ปรากฏภาพลายมรรคแน่นขนัด มีเสียงธรรมเร้นลับอัศจรรย์ดังแว่วๆ
ไม่ว่าพวกชมการต่อสู้คนใดก็ตาม ในเวลานี้ล้วนอดหายใจติดขัดไม่ได้ การเข่นฆ่าทั้งหมัดนี้เร็วเหมือนฟ้าแลบ และอำมหิตถึงจุดสูงสุด!
ตูมโครม!
กลางเสียงร้องกระหึ่มที่สะเทือนโสตจวนหูจะหนวก ทุกคนล้วนมองเห็นชัดเจน เบื้องหน้าหลินสวินปรากฏโล่สำริดที่คราบเลือดเป็นด่างๆ อันหนึ่งขึ้นมา
นี่เป็นถึงสมบัติโบราณชิ้นหนึ่งที่หลินสวินได้มาจากมือของบุตรนรก ที่มาสุดหยั่ง พลังป้องกันชวนตกใจหวาดผวา แต่เพียงพริบตาเดียวสั้นๆ ก็แตกกระจายฉับพลัน ระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
เหมือนกับก่อนหน้านี้ หลินสวินที่คว้าโอกาสเสี้ยวหนึ่งได้เริ่มโจมตีกลับ สมบัติสามชิ้นอย่างกระบี่อเวจี กระบี่ยอดสังหาร ดาบหักล้วนบุกสังหารไปทางซวีหลิงคุนพร้อมกัน
ว่ากันตามปกติแล้ว พลังต่อสู้ของซวีหลิงคุนสูงกว่าเหวินฉิงเสวี่ยอยู่โขหนึ่ง
แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน ปลายกระบี่ลึกลับที่เหวินฉิงเสวี่ยเรียกออกมาพลังฆ่าล้างน่ากลัวสุดขีด ตรงข้ามกลับก่อผลกระทบระดับหนึ่งให้แก่หลินสวิน
ฉะนั้นหลินสวินตั้งใจว่าจัดการซวีหลิงคุนก่อน แล้วค่อยกำจัดเหวินฉิงเสวี่ย
ซวีหลิงคุนนัยน์ตาหดรัด ต่อต้านเต็มกำลังโดยไม่ลังเล แต่ลำพังแค่ปะทะกันครั้งเดียว เขาก็ถูกซัดถอยร่น ปราณโลหิตรอบกายพลิกตลบระลอกหนึ่ง หากไม่ใช่เพราะหลบทันเวลา คงเกือบถูกดาบหักปาดหน้าปริไปแล้ว เห็นชัดวง่าค่อนข้างสะบักสะบอม
เขายัวะจัด กล่าวเสียงคำราม “เจ้าคิดว่าข้าไม่มีสมบัติก้อนกรุหรือ”
เขาโบกแขนเสื้อคราหนึ่ง ม้วนภาพที่สภาพเก่าแก่โบราณแผ่นหนึ่งคลี่ขยายออกกลางห้วงอากาศ บนม้วนภาพวาดสลักดาบบินสิบหกเล่มเอาไว้
บ้างก็ขาวกระจ่างเรียวเล็ก ดุจดั่งแสงเคลื่อนย้ายร่ายระบำ
บ้างก็ดำมืดดุจหมึก คล้ายมีแต่ไม่มีกลางความมืดมิด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์