ใบหน้างามของเหวินฉิงเสวี่ยซีดเผือด!
ไม่ว่าปราณของนางจะสูงแค่ไหน รูปร่างหน้าตางามปานใด ชาติกำเนิดไม่ธรรมดาแค่ไหน แต่เมื่อต้องตกต่ำเป็นนักโทษ ชะตาชีวิตลิขิตเองไม่ได้ สภาวะจิตย่อมไม่มีทางรักษาความสงบเยือกเย็นไว้ได้อย่างแน่นอน
“พี่หลิน เจ้าจะหาว่าข้าชั่วร้ายเกินไปหรือไม่”
จู่ๆ อาหูก็ทอดสายตามองทางหลินสวิน
หลินสวินอึ้งไป อดหัวเราะไม่ได้
เขายกมือขึ้น ฝ่ามือหนึ่งกดบนหัวเหวินฉิงเสวี่ย พลังฝ่ามือกึกก้อง พุ่งเข้าไปภายในกายเหวินฉิงเสวี่ยดุจดั่งเขาถล่มคลื่นยักษ์โหมซัด
ปึง!
ภายในกายของนางคุกรุ่นแตกระเบิด
ที่ตามมาติดๆ คือจุดชีพจรรอบกายนางก็ถูกทำลายลงอย่างง่ายดายยิ่งยวด
สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าว่ากลิ่นอายรอบตัวเหวินฉิงเสวี่ยอ่อนแอลงด้วยความเร็วน่าเหลือเชื่อ ราวกับไข่มุกสว่างที่แผ่แสงหลากสีออกมา สูญเสียพลังชีวิตและประกายแสง
เหวินฉิงเสวี่ยอึ้งไป ราวกับถูกสายฟ้าฟาด คล้ายไม่อยากเชื่อ แม้ว่าบนตัวจะเจ็บปวดทรมานหาใดเปรียบ แต่ยังเทียบแรงโจมตีที่สภาวะจิตของนางต้องแบกรับไม่ได้!
นางคิดไม่ถึงว่าหลินสวินจะลงมือกะทันหัน ซ้ำยังลงมือโหดเหี้ยมขนาดนี้ ทำให้นางถึงขั้นยังไม่ทันตอบสนอง
ไกลออกไปในใจพวกจวนอวี๋เหิง ฮว่าซิงหลีต่างสั่นสะเทือน เจ้าหมอนี่…ถึงกับถอนรากถอนโคนเหวินฉิงเสวี่ยจริงๆ หรือ
พฤติกรรมที่อันธพาลไร้กลัวเกรง ไม่สนใจสิ่งใดเช่นนี้ ทำเอาพวกเขายังอดเกิดความกริ่งเกรงรุนแรงขึ้นมาไม่ได้
ภายใต้สายตาจับจ้องของผู้คน เรือนผมดำขลับเงางามทั่วศีรษะของเหวินฉิงเสวี่ยกลายเป็นสีขาวหิมะ ผิวที่ขาวเนียนชุ่มชื้นประหนึ่งมันแพะทั่วกายก็เหมือนสูญเสียพลังชีวิต เปลี่ยนเป็นแห้งเหี่ยวหย่อนยาน
เพียงไม่กี่อึดใจสั้นๆ เท่านั้น เหวินฉิงเสวี่ยราวกับแก่ชราลงยิ่งยวด หนังเหี่ยวผมขาว เงาร่างโค้งค่อม!
สูญเสียปราณไป ก็เหมือนตัดขาดสะพานอายุยืน ทำให้เซียนงามวิจิตรที่ชื่อเสียงสะท้านฟ้าดาราคนนี้กลายเป็นยายเฒ่าแก่ชราคนหนึ่ง!
หากไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง เกรงว่าทุกคนคงคิดไม่ถึงว่ายายเฒ่าคนนี้จะเป็นเซียนที่ถูกคนนับไม่ถ้วนเทิดทูนไล่ตามเกี้ยว
วัยเยาว์ล่วงเลยชั่วพริบตา เพียงดีดนิ้วโฉมงามพลันแก่เฒ่า!
แรงโจมตีระดับนี้ สำหรับผู้หญิงคนใดก็ตามล้วนทุกข์ทรมานยิ่งกว่าฆ่านางให้ตายอย่างไม่ต้องสงสัย โดยเฉพาะบุคคลชั้นเลิศอย่างเหวินฉิงเสวี่ยที่เคยเพลิดเพลินสุนทรีไม่รู้จบ ยิ่งเป็นการทรมานที่โหดเหี้ยมอำมหิตถึงขีดสุดอย่างหนึ่ง
“อ๊าก…”
เหวินฉิงเสวี่ยส่งเสียงกรีดร้องออกมา สีหน้าท้อแท้ เจ็บระทม โศกเศร้า เคียดแค้น…
ได้ยินเสียงของนาง ในใจคนไม่น้อยต่างลอบถอนหายใจไม่หาย
ใต้หล้าทั้งบนล่าง เมื่อสูญเสียปราณไป ต่อให้เจ้างามวิจิตรปานใด น่าทึ่งแค่ไหน ทุกสิ่งที่มีทั้งหมดก็ล้วนมลายหายไป!
นี่ก็คือความเป็นจริง ไม่เพียงเกิดขึ้นในเวลานี้ และไม่เพียงเกิดขึ้นกับตัวเหวินฉิงเสวี่ยคนเดียว ในกาลเวลาที่ผ่านมาก็เคยเกิดไม่รู้กี่ครั้ง
“ตอนนี้ เจ้าจะคิดว่าข้าชั่วร้ายหรือไม่”
หลินสวินไม่แม้แต่จะมองเหวินฉิงเสวี่ย ยิ้มพลางเอ่ยถามอาหู
เนตรงามของอาหูวาววับ ยกนิ้วหัวแม่มือขึ้น กล่าวว่า “พี่หลิน วิธีการทำลายบุปผาอย่างทารุณนี้ของเจ้า หากแพร่ออกไปสามารถทำให้เหล่าเซียนบนฟ้าดาราพวกนั้นแค่ได้ยินก็ขวัญหนีฟูมฟายกันหมด ไม่กล้าตั้งตนเป็นศัตรูกับเจ้าอีกแน่นอน”
หลินสวิน “…”
“หลินสวิน เจ้าออกจะอำมหิตเกินไปหน่อยกระมัง”
เวลานี้มีคนอดแค่นเสียงเย็นไม่ได้ สีหน้าชิงชัง รู้สึกรังเกียจที่หลินสวินกำจัดเหวินฉิงเสวี่ยอย่างที่สุด
หลินสวินเหลือบสายตามองดู เห็นเป็นชายหนุ่มชุดหลากสีคนหนึ่ง ศีรษะสวมมงกุฎขนนก รูปงามบุคลิกสง่า ท่าทางไม่ธรรมดาสุดขีด
“อำมหิตหรือ เจ้ารู้หรือไม่ว่าตั้งแต่เข้าสู่แหล่งสถานคุนหลุนเป็นต้นมา เพื่อจะฆ่าข้า ผู้หญิงคนนี้ใช้อุบายมากแค่ไหน”
หลินสวินเผยสีหน้าเย้ยหยัน “แน่นอน เรื่องพวกนี้เจ้าล้วนไม่สนใจ สิ่งที่เจ้าสนใจคือเพราะข้าเป็นเหตุ ทำให้นางเสียโฉม กลายเป็นคนไร้ประโยชน์ใช่หรือไม่”
อาหูก็ยิ้มเช่นกัน กล่าวว่า “เจ้าปวดใจเพื่อเทพธิดาฉิงเสวี่ยขนาดนี้ เมื่อครู่เหตุใดถึงไม่ออกมือ แน่นอน ตอนนี้ก็ยังไม่สาย ไม่สู้ข้าเป็นแม่สื่อ จับคู่นางให้เจ้าเดี๋ยวนี้ วิวาห์เป็นสามีภรรยาบนแท่นสักการะนี้เลยเป็นอย่างไร”
ในใจคนไม่น้อยรู้สึกขย้อนระลอกหนึ่ง
เหวินฉิงเสวี่ยในตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับยายเฒ่าแก่ชราคนหนึ่ง อาหูกลับพูดเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าจงใจ
“เจ้า…”
ชายหนุ่มชุดหลากสีโมโหหนัก
อาหูแค่นหัวเราะ “เจ้าอะไรล่ะ เจ้าก็แค่คนที่มองหน้าตาภายนอกคนหนึ่ง เหวินฉิงเสวี่ยไม่เหลือความงามอยู่แล้ว เจ้าก็ไม่เต็มใจเข้าใกล้นางเหมือนกันไม่ใช่หรือ”
“ปากคอเราะราย คร้านจะสนใจเจ้าแล้ว”
ชายหนุ่มชุดหลากสีสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง สะบัดแขนเสื้อแค่นเสียงเย็น
พวกจวนอวี๋เหิง ฮว่าซิงหลีล้วนสายตาวับวาว ต่างมองออกว่าชายหนุ่มชุดหลากสีนั้นกริ่งเกรงหลินสวิน ถึงได้เลือกเก็บงำ
ลองคิดดูอีกทีก็ถูก การต่อสู้เมื่อครู่นี้ ซวีหลิงคุนถูกฆ่า เหวินฉิงเสวี่ยถูกทำลายปราณ ไม่ว่าใครอยากร้องประท้วงหลินสวินอีกในเวลานี้ เกรงว่าล้วนต้องชั่งน้ำหนักผลที่ตามมาสักหน่อย
เวลานี้ เหวินฉิงเสวี่ยที่หมอบคู้บนพื้นจู่ๆ ก็เงยหน้าขึ้น กล่าวด้วยสีหน้าเคียดแค้น “หลินสวิน รอเจ้าเหยียบทางเดินโบราณฟ้าดารา เรือนมรรคยุทธจักรต้องกำจัดเจ้าสิ้นซากแน่!”
พูดยังไม่ทันขาดคำ นางก็โขกหัวลงพื้น
ปึง!
ศีรษะเหวินฉิงเสวี่ยหลั่งเลือด ร่างจมคว่ำกลางบ่อเลือด
หลินสวินและอาหูต่างไม่ได้ห้าม
เหวินฉิงเสวี่ยที่กลายเป็นคนไร้ประโยชน์แม้เวลานี้จะไม่ตาย แต่ก็ไม่มีทางรอดออกจากแหล่งสถานคุนหลุนได้
สถานที่เปี่ยมอันตรายหาใดเปรียบระดับนี้ ไม่ใช่คนไร้ประโยชน์คนหนึ่งจะเอาชีวิตรอดได้
อาหูทอดถอนใจ “นี่แหละที่เรียกว่าก่อกรรมเอง ไม่อาจรอด หน้าตางดงามทำให้ผู้คนเห็นใจจริงๆ แต่หน้าตางดงามจะไม่ตายได้หรือ ใต้หล้านี้ไม่มีหลักการข้อนี้หรอก”
ฉัวะ…
หลินสวินโบกแขนเสื้อคราหนึ่ง เหวินฉิงเสวี่ยและบ่อเลือดที่อยู่บนพื้นล้วนถูกกวาดกำจัด อันตรธานหายไปหมดจด
ในลานต่อสู้ เหลือเพียงแต่ ‘ลวดลายสิบหกดาบจักรพรรดิ’ ปลายกระบี่ลึกลึบ ง้าวใหญ่กระดูกขาว กระบี่มรรคมหายุทธ์…รวมถึงของต่างหน้าที่ซวีหลิงคุน เหวินฉิงเสวี่ยเหลือทิ้งไว้
ของเหล่านี้ล้วนกลายเป็นทรัพย์หลังศึกของหลินสวินเป็นธรรมดา
คนจำนวนหนึ่งมองดูจนมุมปากกระตุก หลินสวินเจ้าหมอนี่…เหี้ยมเกินไปแล้ว!
“เอ๋ พวกเจ้าเร็วกันมากทีเดียว”
“เจ้า…”
ทั่วเฉิงไห่เดือดดาล ตาแทบถลนเบ้า ออกโจมตีเต็มกำลัง
ผัวะ!
แต่ไม่กี่อึดใจสั้น เขาก็ถูกฝ่ามือหนึ่งของหลินสวินฟาดเข้าหน้าอีก ทั่วใบหน้าล้วนบวมแดงเหมือนหัวหมู ผมเผ้ายุ่งเหยิง สภาพแทบไม่เหลือเค้าเดิม
“ข้าจะฆ่าเจ้าซะ!”
ทั่วเฉิงไห่คลั่งอย่างสิ้นเชิงแล้ว โกรธคลั่งแทบไม่ไหว
หลินสวินกล่าวราบเรียบ “อย่าเข้าใจผิด ไม่ได้ฆ่าศัตรูตัดสินเป็นตายเสียหน่อยแค่แลกเปลี่ยนเรียนรู้เท่านั้น สหายยุทธ์ไม่เห็นต้องโมโหขนาดนี้ เกิดโมโหจนทำร้ายตัวเองเข้าจะทำอย่างไร”
อาหูหัวเราะดังพรืด
ถังซูก็กล่าวชื่นชม “คราวนี้ข้ากล้าแน่ใจแล้ว หลินสวินฆ่าซวีหลิงคุนแล้วจริงๆ หาไม่ ไหนเลยจะรังแกทั่วเฉิงไห่เจ้าหมอนี่จนกลายเป็นสภาพนี้ได้”
“หลินสวินโปรดเมตตาด้วย”
ทันใดนั้น มีคนส่งเสียง ทนเป็นพยานเห็นสภาพเวทนาของทั่วเฉิงไห่ไม่ได้จริงๆ จึงเอ่ยปากร้องขอความเมตตาแทนเขา
“ก็ได้”
หลินสวินพยักหน้า หยุดมือทันที “แต่น่าเสียดาย ข้ายังคิดว่าเป็นยอดฝีมือน่าทึ่งคนหนึ่งเสียอีก ใครจะรู้…เหอะๆ”
เสียงหัวเราะเหอะๆ คราหนึ่ง ถึงขั้นเปรียบได้กับการเหยียดหยามที่ดูแคลนที่สุดในโลก บาดลึกจนใบหน้าทั่วเฉิงไห่ล้วนเขียวคล้ำ กัดฟันจวนจนจะหัก
แต่ท้ายที่สุด เขาก็ถูกคนห้ามไว้
แค่ละครสนุกๆ ฉากหนึ่งเท่านั้น หากสู้ต่อไปจริงๆ ก็จะกลายเป็นการเข่นฆ่าเอาเป็นเอาตายขึ้นมาจริงๆ แล้ว หากเป็นเช่นนั้น เขาทั่วเฉิงไห่จะต้องประวัติศาสตร์ซ้ำรอยซวีหลิงคุนแน่!
จนบัดนี้ ไม่มีใครกล้ายั่วยุหลินสวินอีก
คนไม่น้อยยิ่งเกิดความกริ่งเกรงในใจ เพราะหลินสวินไม่เพียงพลังต่อสู้น่ากลัว การลงมือของเขายิ่งเหิมเกริมไม่หวั่นเกรง พูดไม่เข้าหูก็ลงมือโจมตียกใหญ่ ไม่เคยประนีประนอม
คนเช่นนี้นี่แหละอันตรายที่สุด!
“เมื่อครู่ข้าเพิ่งตระหนักได้ว่า แม้แต่หญิงงามเลื่องชื่ออย่างเหวินฉิงเสวี่ยก็ยังถูกเจ้าฆ่า ข้าว่ายังอย่าเพิ่งแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเจ้าแล้ว ถ้าเกิดสู้ไม่ไหว เจ้ากำจัดข้าทิ้งจะทำอย่างไร”
ถังซูทอดถอนใจ
ความแข็งแกร่งของหลินสวิน ทำให้นางปรารถนาอยากสู้สักครั้งยิ่งนัก แต่กลับไม่อาจไม่ชั่งน้ำหนักถึงผลที่ตามมา ฉะนั้นภายในใจจึงเสียดายอยู่บ้าง
อาหูที่อยู่ข้างกันแย้มริมฝีปากยิ้มบางๆ “เมื่อครู่ข้าพูดว่าอะไรนะ มีบทเรียนความผิดพลาดของเหวินฉิงเสวี่ย เสียดายเหล่าเซียนบนทางเดินโบราณฟ้าดารา คงเป็นเหมือนกับถังซูนี่แหละ มองเจ้าเป็นสัตว์ร้ายภัยพิบัติ เหมือนหลีกหนีงูแมงป่อง”
หลินสวินยิ้มขื่นระลอกหนึ่ง
วู้ม…
ทันใดนั้น เสียงธรรมแปลกพิกลสายแล้วสายเล่าก็ดังก้องในที่นี้
ในใจทุกคนล้วนสั่นสะเทือน สายตามองไปทางจักรวาลำพศาลบนเวิ้งฟ้านั้นพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
ก็เห็นดาวดวงหนึ่งภายในนั้นเวลานี้จู่ๆ ก็เปล่งแสงรัศมีสว่างจ้า แผ่ช่อแสงสีทองเจิดจรัสสายหนึ่งออกมา ร่วงโปรยลงบนแท่นสักการะ อาบชโลมเงาร่างสูงโปร่งผ่าเผยของจวนอวี๋เหิงเอาไว้ภายในนั้น
——
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์