Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1759

ใบหน้างามของเหวินฉิงเสวี่ยซีดเผือด!

ไม่ว่าปราณของนางจะสูงแค่ไหน รูปร่างหน้าตางามปานใด ชาติกำเนิดไม่ธรรมดาแค่ไหน แต่เมื่อต้องตกต่ำเป็นนักโทษ ชะตาชีวิตลิขิตเองไม่ได้ สภาวะจิตย่อมไม่มีทางรักษาความสงบเยือกเย็นไว้ได้อย่างแน่นอน

“พี่หลิน เจ้าจะหาว่าข้าชั่วร้ายเกินไปหรือไม่”

จู่ๆ อาหูก็ทอดสายตามองทางหลินสวิน

หลินสวินอึ้งไป อดหัวเราะไม่ได้

เขายกมือขึ้น ฝ่ามือหนึ่งกดบนหัวเหวินฉิงเสวี่ย พลังฝ่ามือกึกก้อง พุ่งเข้าไปภายในกายเหวินฉิงเสวี่ยดุจดั่งเขาถล่มคลื่นยักษ์โหมซัด

ปึง!

ภายในกายของนางคุกรุ่นแตกระเบิด

ที่ตามมาติดๆ คือจุดชีพจรรอบกายนางก็ถูกทำลายลงอย่างง่ายดายยิ่งยวด

สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าว่ากลิ่นอายรอบตัวเหวินฉิงเสวี่ยอ่อนแอลงด้วยความเร็วน่าเหลือเชื่อ ราวกับไข่มุกสว่างที่แผ่แสงหลากสีออกมา สูญเสียพลังชีวิตและประกายแสง

เหวินฉิงเสวี่ยอึ้งไป ราวกับถูกสายฟ้าฟาด คล้ายไม่อยากเชื่อ แม้ว่าบนตัวจะเจ็บปวดทรมานหาใดเปรียบ แต่ยังเทียบแรงโจมตีที่สภาวะจิตของนางต้องแบกรับไม่ได้!

นางคิดไม่ถึงว่าหลินสวินจะลงมือกะทันหัน ซ้ำยังลงมือโหดเหี้ยมขนาดนี้ ทำให้นางถึงขั้นยังไม่ทันตอบสนอง

ไกลออกไปในใจพวกจวนอวี๋เหิง ฮว่าซิงหลีต่างสั่นสะเทือน เจ้าหมอนี่…ถึงกับถอนรากถอนโคนเหวินฉิงเสวี่ยจริงๆ หรือ

พฤติกรรมที่อันธพาลไร้กลัวเกรง ไม่สนใจสิ่งใดเช่นนี้ ทำเอาพวกเขายังอดเกิดความกริ่งเกรงรุนแรงขึ้นมาไม่ได้

ภายใต้สายตาจับจ้องของผู้คน เรือนผมดำขลับเงางามทั่วศีรษะของเหวินฉิงเสวี่ยกลายเป็นสีขาวหิมะ ผิวที่ขาวเนียนชุ่มชื้นประหนึ่งมันแพะทั่วกายก็เหมือนสูญเสียพลังชีวิต เปลี่ยนเป็นแห้งเหี่ยวหย่อนยาน

เพียงไม่กี่อึดใจสั้นๆ เท่านั้น เหวินฉิงเสวี่ยราวกับแก่ชราลงยิ่งยวด หนังเหี่ยวผมขาว เงาร่างโค้งค่อม!

สูญเสียปราณไป ก็เหมือนตัดขาดสะพานอายุยืน ทำให้เซียนงามวิจิตรที่ชื่อเสียงสะท้านฟ้าดาราคนนี้กลายเป็นยายเฒ่าแก่ชราคนหนึ่ง!

หากไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง เกรงว่าทุกคนคงคิดไม่ถึงว่ายายเฒ่าคนนี้จะเป็นเซียนที่ถูกคนนับไม่ถ้วนเทิดทูนไล่ตามเกี้ยว

วัยเยาว์ล่วงเลยชั่วพริบตา เพียงดีดนิ้วโฉมงามพลันแก่เฒ่า!

แรงโจมตีระดับนี้ สำหรับผู้หญิงคนใดก็ตามล้วนทุกข์ทรมานยิ่งกว่าฆ่านางให้ตายอย่างไม่ต้องสงสัย โดยเฉพาะบุคคลชั้นเลิศอย่างเหวินฉิงเสวี่ยที่เคยเพลิดเพลินสุนทรีไม่รู้จบ ยิ่งเป็นการทรมานที่โหดเหี้ยมอำมหิตถึงขีดสุดอย่างหนึ่ง

“อ๊าก…”

เหวินฉิงเสวี่ยส่งเสียงกรีดร้องออกมา สีหน้าท้อแท้ เจ็บระทม โศกเศร้า เคียดแค้น…

ได้ยินเสียงของนาง ในใจคนไม่น้อยต่างลอบถอนหายใจไม่หาย

ใต้หล้าทั้งบนล่าง เมื่อสูญเสียปราณไป ต่อให้เจ้างามวิจิตรปานใด น่าทึ่งแค่ไหน ทุกสิ่งที่มีทั้งหมดก็ล้วนมลายหายไป!

นี่ก็คือความเป็นจริง ไม่เพียงเกิดขึ้นในเวลานี้ และไม่เพียงเกิดขึ้นกับตัวเหวินฉิงเสวี่ยคนเดียว ในกาลเวลาที่ผ่านมาก็เคยเกิดไม่รู้กี่ครั้ง

“ตอนนี้ เจ้าจะคิดว่าข้าชั่วร้ายหรือไม่”

หลินสวินไม่แม้แต่จะมองเหวินฉิงเสวี่ย ยิ้มพลางเอ่ยถามอาหู

เนตรงามของอาหูวาววับ ยกนิ้วหัวแม่มือขึ้น กล่าวว่า “พี่หลิน วิธีการทำลายบุปผาอย่างทารุณนี้ของเจ้า หากแพร่ออกไปสามารถทำให้เหล่าเซียนบนฟ้าดาราพวกนั้นแค่ได้ยินก็ขวัญหนีฟูมฟายกันหมด ไม่กล้าตั้งตนเป็นศัตรูกับเจ้าอีกแน่นอน”

หลินสวิน “…”

“หลินสวิน เจ้าออกจะอำมหิตเกินไปหน่อยกระมัง”

เวลานี้มีคนอดแค่นเสียงเย็นไม่ได้ สีหน้าชิงชัง รู้สึกรังเกียจที่หลินสวินกำจัดเหวินฉิงเสวี่ยอย่างที่สุด

หลินสวินเหลือบสายตามองดู เห็นเป็นชายหนุ่มชุดหลากสีคนหนึ่ง ศีรษะสวมมงกุฎขนนก รูปงามบุคลิกสง่า ท่าทางไม่ธรรมดาสุดขีด

“อำมหิตหรือ เจ้ารู้หรือไม่ว่าตั้งแต่เข้าสู่แหล่งสถานคุนหลุนเป็นต้นมา เพื่อจะฆ่าข้า ผู้หญิงคนนี้ใช้อุบายมากแค่ไหน”

หลินสวินเผยสีหน้าเย้ยหยัน “แน่นอน เรื่องพวกนี้เจ้าล้วนไม่สนใจ สิ่งที่เจ้าสนใจคือเพราะข้าเป็นเหตุ ทำให้นางเสียโฉม กลายเป็นคนไร้ประโยชน์ใช่หรือไม่”

อาหูก็ยิ้มเช่นกัน กล่าวว่า “เจ้าปวดใจเพื่อเทพธิดาฉิงเสวี่ยขนาดนี้ เมื่อครู่เหตุใดถึงไม่ออกมือ แน่นอน ตอนนี้ก็ยังไม่สาย ไม่สู้ข้าเป็นแม่สื่อ จับคู่นางให้เจ้าเดี๋ยวนี้ วิวาห์เป็นสามีภรรยาบนแท่นสักการะนี้เลยเป็นอย่างไร”

ในใจคนไม่น้อยรู้สึกขย้อนระลอกหนึ่ง

เหวินฉิงเสวี่ยในตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับยายเฒ่าแก่ชราคนหนึ่ง อาหูกลับพูดเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าจงใจ

“เจ้า…”

ชายหนุ่มชุดหลากสีโมโหหนัก

อาหูแค่นหัวเราะ “เจ้าอะไรล่ะ เจ้าก็แค่คนที่มองหน้าตาภายนอกคนหนึ่ง เหวินฉิงเสวี่ยไม่เหลือความงามอยู่แล้ว เจ้าก็ไม่เต็มใจเข้าใกล้นางเหมือนกันไม่ใช่หรือ”

“ปากคอเราะราย คร้านจะสนใจเจ้าแล้ว”

ชายหนุ่มชุดหลากสีสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง สะบัดแขนเสื้อแค่นเสียงเย็น

พวกจวนอวี๋เหิง ฮว่าซิงหลีล้วนสายตาวับวาว ต่างมองออกว่าชายหนุ่มชุดหลากสีนั้นกริ่งเกรงหลินสวิน ถึงได้เลือกเก็บงำ

ลองคิดดูอีกทีก็ถูก การต่อสู้เมื่อครู่นี้ ซวีหลิงคุนถูกฆ่า เหวินฉิงเสวี่ยถูกทำลายปราณ ไม่ว่าใครอยากร้องประท้วงหลินสวินอีกในเวลานี้ เกรงว่าล้วนต้องชั่งน้ำหนักผลที่ตามมาสักหน่อย

เวลานี้ เหวินฉิงเสวี่ยที่หมอบคู้บนพื้นจู่ๆ ก็เงยหน้าขึ้น กล่าวด้วยสีหน้าเคียดแค้น “หลินสวิน รอเจ้าเหยียบทางเดินโบราณฟ้าดารา เรือนมรรคยุทธจักรต้องกำจัดเจ้าสิ้นซากแน่!”

พูดยังไม่ทันขาดคำ นางก็โขกหัวลงพื้น

ปึง!

ศีรษะเหวินฉิงเสวี่ยหลั่งเลือด ร่างจมคว่ำกลางบ่อเลือด

หลินสวินและอาหูต่างไม่ได้ห้าม

เหวินฉิงเสวี่ยที่กลายเป็นคนไร้ประโยชน์แม้เวลานี้จะไม่ตาย แต่ก็ไม่มีทางรอดออกจากแหล่งสถานคุนหลุนได้

สถานที่เปี่ยมอันตรายหาใดเปรียบระดับนี้ ไม่ใช่คนไร้ประโยชน์คนหนึ่งจะเอาชีวิตรอดได้

อาหูทอดถอนใจ “นี่แหละที่เรียกว่าก่อกรรมเอง ไม่อาจรอด หน้าตางดงามทำให้ผู้คนเห็นใจจริงๆ แต่หน้าตางดงามจะไม่ตายได้หรือ ใต้หล้านี้ไม่มีหลักการข้อนี้หรอก”

ฉัวะ…

หลินสวินโบกแขนเสื้อคราหนึ่ง เหวินฉิงเสวี่ยและบ่อเลือดที่อยู่บนพื้นล้วนถูกกวาดกำจัด อันตรธานหายไปหมดจด

ในลานต่อสู้ เหลือเพียงแต่ ‘ลวดลายสิบหกดาบจักรพรรดิ’ ปลายกระบี่ลึกลึบ ง้าวใหญ่กระดูกขาว กระบี่มรรคมหายุทธ์…รวมถึงของต่างหน้าที่ซวีหลิงคุน เหวินฉิงเสวี่ยเหลือทิ้งไว้

ของเหล่านี้ล้วนกลายเป็นทรัพย์หลังศึกของหลินสวินเป็นธรรมดา

คนจำนวนหนึ่งมองดูจนมุมปากกระตุก หลินสวินเจ้าหมอนี่…เหี้ยมเกินไปแล้ว!

“เอ๋ พวกเจ้าเร็วกันมากทีเดียว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์