Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1769

เงาร่างสามร่างปรากฏขึ้นในจักรวาลที่อยู่ไกลออกไปแทบจะในเวลาเดียวกับที่หลี่เสวียนเวยพูดจบ

คนหนึ่งคือชายชราที่มีผมขาวดุจนกกระเรียนใบหน้าดุจทารก สง่างามราวกับเซียน เท้าเหยียบเมฆมงคล เหนือศีรษะมีภาพมรรค แสงนิลแสนจั้งพวยพุ่งไปทั่วร่าง

อีกคนคือผู้หญิงงดงามในชุดแดงดั่งเปลวเพลิง ผิวพรรณดั่งหิมะ ดวงตาทั้งคู่มีเพลิงเทพไหวกระเพื่อม รอบร่างสูงเพรียวของนางมีมังกรที่รวมตัวจากกฎเกณฑ์อสนีตัวแล้วตัวเล่าโอบล้อมอยู่

ส่วนอีกคนคือชายหนุ่มผมขาวชุดดำ เบื้องหลังมีกระบี่มรรคเก้าเล่มลอยอยู่ เงากระบี่ส่ายไหว จำแลงเป็นทัศนียภาพสรรพสิ่งมลายสิ้น

ระดับจักรพรรดิสามคน!

“ศุภโชคชิ้นนี้ ไม่ว่าเป็นใครก็เอาไปไม่ได้ทั้งนั้น” ชายชราที่สง่างามดั่งเซียนยิ้มเอ่ยปากเล็กน้อย “ต่อให้เป็นผู้สืบทอดคีรีดวงกมลก็ไม่ได้”

เสียงเขาไม่ดัง แต่กลับก้องไปทั่วจักรวาล สะเทือนจนห้วงอากาศยังระเบิดเป็นริ้วๆ

“ผิดแล้ว คีรีดวงกมลถล่มไปตั้งแต่สมัยศึกมรรคของเหล่าจักรพรรดิแล้ว ป้ายภูเขา ‘เสี้ยวจันทร์สามดารา’ ป้ายนั้นก็ถูกทำลายไปแล้ว บนโลกนี้ไม่มีคีรีดวงกมลมาตั้งนานแล้ว ที่มีอยู่ก็มีแต่พวกสัมภเวสีของคีรีดวงกมล”

หญิงงามที่แต่งกายด้วยชุดสีแดงชาด ทั้งร่างโอบล้อมด้วยมังกรอสนีเอ่ยปากเย็นชา

“พูดเช่นนี้ ที่พวกเราจะทำตอนนี้ก็คือฆ่าสัมภเวสีตัวสองตัวนี้หรือ”

ชายหนุ่มผมขาวชุดดำสีหน้าเย้ยหยัน

แต่กลับเห็นว่าหลี่เสวียนเวยชูนิ้วขึ้นนับพลางยิ้มพูดว่า “จักรพรรดิมารสังหารนภาที่แจ้นออกมาคนแรก ถูกศิษย์พี่ของข้าใช้แส้หางม้าเส้นเดียวเล่นงานจนหางจุกก้น บาดเจ็บสาหัสจากไป แตกตื่นอย่างกับหมาที่เจ้าของตาย”

“อวี้ซวีจื่อที่แจ้นออกมาเป็นคนที่สองยังพอรู้สถานการณ์ หลังจากถูกข้ารับกระบี่เดียวไว้ได้ก็ถอนตัวจากไป”

“พระคุนจิวที่แจ้นออกมาเป็นคนที่สามก็ย่ำแย่หน่อย ‘กายทองพระพรหม’ ถูกข้าตบกระจุยด้วยฝ่ามือเดียว เหลือเพียงพลังจิตที่หนีเอาชีวิตรอด”

พูดถึงตรงนี้หลี่เสวียนเวยกวาดสายตามองดูทั้งสามที่อยู่ไกลออกไป ยิ้มเบิกบานยิ่งขึ้น เอ่ยว่า “ตอนนี้ข้าอยากถามสักคำว่าพวกเจ้าสามคนอยากได้ตอนจบแบบไหน”

คำพูดเดียวทำให้ทั้งสามคนนั้นกระทืบเท้าด้วยความกราดเกรี้ยว สามารถทำให้เหล่าสัตว์ประหลาดเฒ่าที่ทำให้ทางเดินโบราณฟ้าดาราสะท้านสะเทือนต่างสีหน้าเคร่งเครียดได้

กลับเห็นว่าหลี่เสวียนเวยเอ่ยต่อว่า “ต่อให้เป็นสัมภเวสีแล้วอย่างไร ถ้าร่างต้นของข้าหลี่เสวียนเวยอยู่ที่นี่ พวกเจ้า… กล้าลุกขึ้นมาจริงๆ หรือ”

เสียงเจือความดูถูกที่ไม่ปิดบังสักนิด อหังการเป็นอย่างยิ่ง

สีหน้าของเฒ่าดึกดำบรรพ์ที่มีชีวิตอยู่ไม่รู้นานเท่าไรแล้วเหล่านั้นยิ่งไม่น่าดู

พวกเขาย่อมรู้จักหลี่เสวียนเวย ผู้สืบทอดคนที่สิบสามของคีรีดวงกมล

แต่บนทางเดินโบราณฟ้าดารา หลี่เสวียนเวยยังมีฉายามรรคที่ลือชื่อกว่าอีกชื่อหนึ่ง…

จักรพรรดิกระบี่ฟ้าคราม!

บุคคลผู้หยิ่งทระนงที่ได้รับการขนานนามเป็นจักรพรรดิมาเนิ่นนานบนวีถีแห่งมรรคกระบี่ ยักษ์ใหญ่ในตำนานที่ถูกยอดฝีมือระดับจักรพรรดิมากมายให้ความเห็นไว้ว่า ‘วิถีแห่งจักรพรรดิกระบี่ มีเพียงเสวียนเวยที่เรียกได้ว่าไร้ขอบเขต’!

ถ้าร่างต้นของหลี่เสวียนเวยอยู่ที่นี่ พวกเขาลองถามใจตัวเองดู ย่อมไม่มั่นใจเต็มที่ที่จะปรากฏตัวขึ้นอย่างชัดแจ้งเช่นนี้

แต่ประเด็นคือ หลี่เสวียนเวยในตอนนี้เป็นเพียงประทับเจตจำนงสายหนึ่งเท่านั้น

อีกอย่าง พลังยังหายไปมากแล้ว!

“หลี่เสวียนเวย ร่างต้นของเจ้าหายลับไปจากทางเดินโบราณฟ้าดาราตั้งแต่หลังศึกมรรคของเหล่าจักรพรรดินานแล้ว จวบจนตอนนี้ก็ยังไม่ปรากฏตัว ตาแก่หลายคนต่างเคยสันนิษฐานว่าเจ้าหลี่เสวียนเวยประสบเคราะห์ตายไปแล้ว”

ชายชราที่เหยียบเมฆมงคลอยู่ยิ้มเหี้ยมเอ่ยปาก

“ต่อให้ร่างต้นยังมีชีวิตอยู่แล้วอย่างไร บนทางเดินโบราณฟ้าดาราไม่มีที่ให้กับพวกเหลือเดนจากคีรีดวงกมล!”

หญิงสาวงดงามในชุดสีชาดยิ้มหยัน

หลินสวินฟังถึงตรงนี้จิตใจก็ปั่นป่วนขึ้นมา

หลังจากศึกมรรคของเหล่าจักรพรรดิ คีรีดดวงกมลถล่ม สำนักล่มสลายหรือ

แล้วยังหลังจากศึกมรรคของเหล่าจักรพรรดิ บนทางเดินโบราณฟ้าดาราไม่มีที่ให้กับผู้สืบทอดคีรีดวงกมลที่หลงเหลืออยู่แล้วหรือ

ในศึกมรรคของเหล่าจักรพรรดิตอนนั้น สำนักคีรีดวงกมลเกิดอะไรขึ้นกันแน่

กลับเห็นว่าตอนนี้หลี่เสวียนเวยหัวเราะเสียงดังขึ้นมา “ศิษย์น้อง เจ้ารู้ไหมว่าทำไมพวกเขาพูดจาไร้สาระเช่นนี้”

ไม่ทันรอให้หลินสวินตอบกลับ หลี่เสวียนเวยก็พูดชัดถ้อยชัดคำว่า “เพราะพวกเขายังกังวลและหวาดกลัวอยู่ ต่อให้ข้าเป็นเพียงพลังเจตจำนงสายเดียว แต่พวกเขา… ยังไม่กล้าลงมือง่ายๆ ดังเดิม!”

เสียงทรงพลังกึกก้อง เต็มไปด้วยความเย้ยหยัน

ระดับจักรพรรดิทั้งสามสีหน้าอึมครึมยิ่งยวดไปแล้ว!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์