ตูม!
เสียงพุ่งชนปานสะท้านฟ้าสะเทือนดินดังก้องขึ้น
เงาร่างของหลินสวินนิ่งไม่ขยับ ชายชราชุดเทาที่โจมตีมาจากฝั่งตรงข้ามกลับถูกซัดสะเทือนจนเงาร่างส่ายไหว เพิ่งจะทรงตัวได้ในยามนี้
ทั้งที่นั้นสั่นสะเทือนไปด้วย ทุกคนเบิกตาโพลง
แม้เป็นเหล่าบุคคลพลิกฟ้าอย่างพวกหลิงจื่อ สุ่ยปี้อวิ๋น ตอนนี้ต่างเผยสีหน้าประหลาดใจ
การแข่งขันในระดับเดียวกัน พวกเขาเองก็มีความมั่นใจว่าจะสามารถกำราบจางไป๋หรงได้ แต่ถ้าข้ามระดับต่อสู้กับราชันอริยะ ระยะห่างนั้นเหลื่อมล้ำไม่น้อย
ทว่ามกุฎมหาอริยะคนหนึ่ง กลับสามารถประชันกับราชันอริยะคนหนึ่งได้ นี่ดูน่าตกใจเกินไปแล้ว
เขาเป็นใคร
เหตุใดก่อนหน้านี้ไม่เคยได้ยินว่าในโลกต้าอวี่กลับมีบุคคลเช่นนี้
“เจ้าเฒ่า หากเจ้ายังไม่รู้ความอีกอย่าหาว่าข้าใจร้าย”
เสียงของหลินสวินเย็นชา
ที่เขาช่วยอวี่อวิ๋นเหอครั้งนี้ ก็เพราะอวี่ชิงหยางมีบุญคุณอันใหญ่หลวงต่อเขา มีเขาอยู่ แน่นอนว่าต้องไม่ยอมให้อวี่อวิ๋นเหอถูกรังแก
ชายชราชุดเทาสีหน้าทั้งโกรธทั้งตกใจ เปลี่ยนแปลงอยู่หลายครั้ง สุดท้ายสูดหายใจเข้าลึกๆ คราหนึ่งก่อนจะพูดว่า “ปล่อยจางไป๋หรงซะ เรื่องนี้ก็จบเพียงเท่านี้”
“ขอโทษก่อนค่อยปล่อย”
หลินสวินพูดอย่างเด็ดขาด
“เจ้า…”
ชายชราชุดเทาเดือดดาล แขนเสื้อสั่นไหว อานุภาพดุร้ายพลุ่งพล่านเพิ่มสูง ผู้ฝึกปราณมากมายที่อยู่รอบข้างล้วนสูดหายใจพร้อมกัน
นี่ก็คืออานุภาพของราชันอริยะ
“หากเจ้าอยากเห็นเขาตาย ก็ทำต่อเลย”
หลินสวินดีดนิ้วอย่างไม่ใส่ใจสักนิด
อานุภาพที่ราวกับภูเขาถล่มสมุทรซัดสาด ยามพุ่งมาถึงตัวหลินสวินกลับเหมือนสายลมโชยผ่านภูเขา แม้แต่ชายเสื้อของเขาก็ไม่ได้ถูกพัดขึ้นมา
ส่วนจางไป๋หรงที่ถูกกดไว้บนพื้นทรมานจนตาลายแล้ว ทั้งร่างรู้สึกเหมือนจะพังทลาย
ผู้ฝึกปราณหลายคนบริเวณนั้นไม่สามารถสงบได้ ในโลกต้าอวี่ ใครจะกล้าต่อสู้กับผู้สูงส่งสำนักยุทธ์เตาโอสถเช่นนี้ ถึงขั้นยังข่มขู่อีกด้วย
มีเพียงอวี่อวิ๋นเหอที่ในใจสงสัยยิ่ง หลังจากผู้อาวุโสหม่าไท่เจิ้นกลับสำนัก ก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องที่เขาเคยถูกหลินสวินกำราบหรือ
ไม่เช่นนั้นชายชราชุดเทาจะมีความกล้ามาสู้กับหลินสวินได้อย่างไร รนหาที่ตายแท้ๆ
“ข้า… ขอโทษ!”
ยามนี้จางไป๋หรงก็เป็นฝ่ายเปิดปากขึ้นก่อน ความรู้สึกที่ความตายมาเยือนกระตุ้นจนเขาไม่ห่วงหน้าตาอีกต่อไป
ชายชราชุดเทาถอนหายใจยาว
ผู้แข็งแกร่งสำนักยุทธ์เตาโอสถแต่ละคนต่างเผยสีหน้าอับอาย การก้มหัวของจางไป๋หรงทำให้พวกเขาเองก็รู้สึกเสียหน้าอย่างที่สุด
“รู้ผิดแล้วแก้ไขนับว่าเยี่ยมนัก หวังว่าเจ้าจะจำบทเรียนครั้งนี้เอาไว้ หากครั้งหน้ายั่วโมโหข้าอีกจะไม่โชคดีแบบนี้แล้ว”
หลินสวินยกฝ่ามือขึ้น จางไป๋หรงราวกับหลุดพ้น ทั้งร่างเหมือนสลัดภูเขาใหญ่หนักอึ้งออก เขาถูกผู้สืบทอดสำนักยุทธ์เตาโอสถคนอื่นๆ พยุงขึ้นมา ไม่กล้าอยู่ที่นี่และไม่มีหน้าอยู่ที่นี่อีก
“เจ้าหนุ่ม การชี้แนะนี้พวกเราจดจำไว้แล้ว!”
ชายชราชุดเทาแค่นเสียงขึ้นจมูกอย่างเย็นเยียบ ความดุดันแวบผ่านในดวงตา
หลินสวินยิ้มอย่างไม่สนใจ
หากเป็นตัวเขา เพียงแค่ท่าทีของชายชราชุดเทาคงลงมืออย่างเด็ดขาดไปนานแล้ว ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ใช่ผู้ฝึกปราณโลกต้าอวี่ ฆ่าคนแล้วจากไปก็สิ้นเรื่อง
แต่ตอนนี้กลับไม่เหมือนกัน ข้างกายยังมีอวี่อวิ๋นเหอ อีกฝ่ายเป็นผู้สืบทอดสำนักยุทธ์เตาโอสถ หากฆ่าจางไป๋หรงกับชายชราชุดเทาคนนี้ จะต้องทำให้อวี่อวิ๋นเหอพลอยเดือดร้อนไปด้วยแน่
มองพวกจางไป๋หรง มู่ซิวฉีจนลับตาไป ในใจอวี่อวิ๋นเหอเองก็เบิกบานอย่างที่สุด
และยามผู้ฝึกปราณคนอื่นๆ ในที่นั้นมองมายังพวกหลินสวิน แววตาก็แตกต่างจากก่อนหน้านี้แล้ว
โดยเฉพาะตอนที่มองหลินสวิน สีหน้าต่างแฝงความหวาดกลัว
แน่นอนว่าสำหรับบุคคลพลิกฟ้าอย่างพวกชื่อหลิงจื่อ สุ่ยปี้อวิ๋น ตัวตนของหลินสวินยังไม่สามารถข่มขวัญพวกเขาได้
เหตุผลแรกเพราะพวกเขามั่นใจว่าพลังต่อสู้ของตนแทบจะไร้ศัตรูในระดับเดียวกัน เหตุผลที่สองเพราะข้างกายพวกเขาล้วนมีผู้แข็งแกร่งระดับราชันอริยะติดตามมาคุ้มกันอยู่
ย้อนมองพวกหลินสวิน มีเพียงสี่คนเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นมกุฎมหาอริยะทั้งหมด การรวมตัวเช่นนี้ไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องข่มขวัญอะไร
ฮูม…
ไม่นานกระแสน้ำเย็นเยียบที่ปกคลุมบนแม่น้ำเก้าแคว้นเริ่มถอยร่นไป และบนอากาศเหนือแม่น้ำนั่นกลับปรากฏบานประตูลึกลับบานหนึ่ง
“ไป!”
“รีบลงมือ!”
ทันใดนั้นผู้ฝึกปราณมากมายพุ่งเข้าไปทันที นอกจากพวกชั้นยอดเหล่านั้น ผู้ฝึกปราณธรรมดาหลายคนก็ลงมือด้วย
แม้พวกเขาไม่กล้าคาดหวังว่าจะได้รับศุภโชคใหญ่อะไร แต่ถ้าเก็บของมีค่าอย่างพวกสมบัติ ลูกกลอนโอสถ วิชายุทธ์ได้ก็เป็นผลเก็บเกี่ยวที่ไม่น้อยเลย
“พี่หลิน พวกเราก็เริ่มเคลื่อนไหวดีหรือไม่”
สายตาของอวี่อวิ๋นเหอมองไปยังหลินสวิน
“ไป”
หลินสวินพยักหน้า คนทั้งกลุ่มพุ่งเข้าไป
……
แดนลับต้าอวี่ ภูเขาโบราณทอดยาวเป็นคลื่น บนท้องฟ้าไอขุ่นมัวอบอวล ปรากฏสภาพบรรยากาศที่รกร้างดั้งเดิม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์