เฮอะ ผู้แข็งแกร่งตระกูลอวี่อะไรกัน ก็แค่พวกไม่เอาไหนคนหนึ่ง!”
ชายหนุ่มชุดฟ้าด่าทอเสียงเบาแล้วหมุนตัวเดินออกไป
ด้านหลังประตูเรือนพัก นัยน์ตาดำของหลินสวินลุ่มลึก พริบตาที่เปิดประตูใหญ่เมื่อครู่ จากจิตรับรู้ของเขาชั่วอึดใจก็สัมผัสได้ ว่าในพื้นที่ใกล้เคียงอย่างน้อยก็มีกลิ่นอายกร้าวแกร่งห้าสายซุ่มอยู่
ทั้งหมดล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งระดับราชันอริยะ
ส่วนชายหนุ่มชุดฟ้าไม่นับเป็นอะไรสักนิด แค่มกุฎมหาอริยะคนหนึ่งเท่านั้น
เพียงแต่หากลงมือจริงๆ คงเลี่ยงจะดึงดูดราชันอริยะห้าคนนี้ไม่ได้ ถึงตอนนั้นเป็นไปได้สูงว่าอีกฝ่ายอาจจะถือโอกาสจับตัว ‘อวี่เสวียน’ ที่เขาสวมรอยอยู่
ต่อให้ผลสุดท้ายเขาจะสามารถสยบอีกฝ่ายได้ แต่ด้วยเหตุนี้ย่อมต้องเปิดเผยความแข็งแกร่งบางส่วน ทำให้อีกฝ่ายระแวดระวัง
เช่นนั้นครั้งต่อไป เป็นไปได้สูงว่าอีกฝ่ายอาจเปลี่ยนไปใช้วิธีที่อำมหิตมากขึ้นมาจัดการเขา
เวลานี้หลินสวินพอจะคาดเดาจุดประสงค์ของชายหนุ่มชุดฟ้าคนนี้ได้ หากไม่ใช่เพื่อลองเชิงตนก็เพื่อยั่วโทสะตน
หาไม่คงไม่วางตัวโอหังและไม่รู้จักดีชั่วเช่นนี้
“ผู้อาวุโส ทำให้ท่านรู้สึกแย่แล้ว”
หลิ่วชิงเยียนเดินเข้ามา เจือแววขอโทษ บทสนทนาของหลินสวินและชายหนุ่มชุดฟ้าเมื่อกี้ล้วนถูกนางได้ยินเต็มสองหู
ท่าทียอมจำนนของหลินสวิน นอกจากทำให้นางทอดถอนใจแล้วก็รู้สึกผิดหวังน้อยๆ อย่างอดไม่ได้ ดังคาด ผู้อาวุโสคนนี้ที่เชิญมาจากเผ่าจักรพรรดิตระกูลอวี่ ก็เป็นเพียงแค่ผู้คุ้มกันคนหนึ่งเท่านั้น
“แค่หมาน้อยเห่าไปทั่วตัวหนึ่งเท่านั้น ไม่ถึงขั้นทำให้ข้ารู้สึกแย่ได้หรอก”
หลินสวินยิ้มกล่าว
เขาไม่สนใจเรื่องพวกนี้จริงๆ หากไม่ใช่ติดที่เวลาไม่เหมาะไม่ควร ชายหนุ่มชุดฟ้าคงถูกเขาบี้ตายเหมือนมดไปนานแล้ว
“เขาเป็นใคร” หลินสวินเอ่ยถาม
หลิ่วชิงเยียนกล่าว “จั่นปิ่ง ศิษย์สืบทอดแท้จริงของหอเสียงสวรรค์ อาจารย์ของเขาคือผู้อาวุโสโอวหยางเพ่ยระดับมกุฎราชันอริยะ มองข้าเป็นศัตรูเรื่อยมา”
“แล้วอู่อวิ๋นเหลียนนั่นล่ะ”
หลินสวินถามต่อ
หัวคิ้วหลิ่วชิงเยียนขมวดมุ่น เจือแววชิงชัง “นางเป็นหลานสาวของผู้อาวุโสชั้นสูงฮว่าเตี่ยน ในหมู่คนรุ่นเดียวกันของหอเสียงสวรรค์ ก็เป็นนางที่ออกหน้าร่วมมือกับคนในสำนักคนอื่นๆ ขับเคี่ยวและเห็นข้าเป็นศัตรูไปเสียทุกที่”
หลินสวินเข้าใจโดยพลัน
…
เรือนสมบัติล้ำ
ตั้งอยู่บนเขายอดเทพของยานลมกรด ที่นี่เป็นพื้นที่เฉพาะของหอเสียงสวรรค์ คนนอกหากไม่ได้รับเชิญก็ไม่อาจเฉียดใกล้
เวลานี้ในโถงใหญ่ชั้นหนึ่งของเรือนสมบัติล้ำ บรรดาศิษย์สืบทอดแท้จริงของหอเสียงสวรรค์รวมตัวกัน มีทั้งชายหญิง ล้วนมีมาดเหนือธรรมดา
คนที่นั่งอยู่ตำแหน่งผู้นำเป็นหญิงสาวสวมชุดหรูหรา หน้าตาท่าทางงดงามโดดเด่น ผิวพรรณขาวกระจ่าง สีหกน้าหว่างคิ้วเจือแววหยิ่งทระนงคล้ายกับติดตัวมาตั้งแต่เกิด
อู่อวิ๋นเหลียน!
หลานสาวของผู้อาวุโสชั้นสูงฮว่าเตี่ยนระดับกึ่งจักรพรรดิ ในบรรดาศิษย์สืบทอดแท้จริงหอเสียงสวรรค์ มีฐานะค่อนข้างสูงศักดิ์และโดดเด่น
“ฮ่าๆ ข้ายังคิดว่าคนของเผ่าจักรพรรดิตระกูลอวี่จะยอดเยี่ยมปานใด ใครจะคิด ถึงกับเป็นพวกไม่เอาไหน”
“ฉลาดนี่ ยอมอดทนกล้ำกลืนแต่ไม่กล้าเป็นศัตรูกับพวกเรา เห็นได้ชัดว่าเขาเองก็ตระหนัก ว่าหากยืนอยู่ข้างหลิ่วชิงเยียนย่อมต้องตายอนาถยิ่งเป็นแน่!”
ตอนที่ชายหนุ่มชุดฟ้าจั่นปิ่งกลับมาและบอกเล่าเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ให้ฟัง ฉับพลันกลางโถงใหญ่ก็มีเสียงหัวเราะผสมโรงดังขึ้น
อวี่เสวียน!
ระดับราชันอริยะจากเผ่าจักรพรรดิตระกูลอวี่คนหนึ่ง ตอนที่ถูกมกุฎมหาอริยะอย่างจั่นปิ่งเหยียดหยาม กลับได้แต่กล้ำกลืนฝืนทน สิ่งนี้ทำให้ทุกคนล้วนดูแคลนยิ่งอย่างอดไม่ได้
มีคนเอ่ยปากเนิบนาบ “อาจารย์อาจวงอวิ้นจื้อของพวกเรา ครั้งนี้เกรงว่าคงจะผิดหวังสุดขีดเสียแล้ว”
ทุกคนหัวเราะอีกครั้ง
อู่อวิ๋นเหลียนที่นั่งอยู่ตำแหน่งผู้นำทอดถอนใจกล่าวว่า “น่าเสียดาย เดิมข้าตั้งใจจะให้เจ้ายั่วโทสะอวี่เสวียน ถือโอกาสจับตัวเขาไว้ เมื่อเป็นเช่นนี้ข้างกายนางชั้นต่ำหลิ่วชิงเยียนก็จะไม่มีคนคอยคุ้มกันอีก และสามารถหาโอกาสบีบให้นางยอมก้มหัวได้ทุกเมื่อ”
ทุกคนเก็บรอยยิ้มไป
“ศิษย์พี่อู่ อวี่เสวียนคนนี้เป็นแค่ผู้แข็งแกร่งระดับราชันอริยะ หากจะลงมือจริงๆ มีหรือเขาจะคุ้มกันหลิ่วชิงเยียนได้”
มีคนเอ่ยขึ้น
อู่อวิ๋นเหลียนขมวดคิ้วกล่าวว่า “ท่านตาข้าบอกว่า ถึงอย่างไรอวี่เสวียนก็เป็นคนเผ่าจักรพรรดิตระกูลอวี่ สถานะต่างออกไป ให้พวกเราพยายามอย่าล่วงเกินเกินไป หากไม่เป็นเช่นนี้ ตั้งแต่วันแรกที่เขาเหยียบขึ้นมาบนยานลมกรดก็คงตายไปนานแล้ว”
มีคนอดถามไม่ได้ “ศิษย์พี่อู่ เช่นนั้นท่านว่าพวกเราควรทำอย่างไร”
อู่อวิ๋นเหลียนใคร่ครวญครู่ใหญ่ ประกายเย็นกลางนัยน์ตาพริบวาบ “พวกเราไม่อาจทำเกินไปได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นทำไม่ได้!”
ทุกคนต่างตาลุกวาว
อู่อวิ๋นเหลียนเอ่ยตัดสินใจ “จั่นปิ่ง เจ้าไปพบผู้แข็งแกร่งพวกนั้นที่คุณชายข่งอวี้ส่งมาหน่อย บอกพวกเขาว่าหากสามารถกำจัดอวี่เสวียนนี่ได้ การจับตัวหลิ่วชิงเยียนก็ง่ายดายเหมือนล้วงของจากถุง”
จั่นปิ่งพยักหน้ารับคำสั่งแล้วจากไป
มีคนเอ่ยถาม “ศิษย์พี่อู่ เรื่องนี้หากถูกอาจารย์อาจวงอวิ้นจื้อรู้เข้า…”
จู่ๆ อู่อวิ๋นเหลียนก็เผยรอยยิ้มเยียบเย็นออกมา “อาจารย์อาจวงอวิ้นจื้อ? ยามนี้เกรงว่านางจวนจะเอาตัวไม่รอดแล้ว”
“คำพูดนี้หมายความว่าอย่างไร
ทุกคนต่างตื่นเต้น
อู่อวิ๋นเหลียนเอ่ยปากเนิบนาบ “ท่านตาข้าออกหน้าด้วยตัวเองแล้ว สนทนากับอาจารย์อาเซียวอวิ๋นคงอยู่นาน เชื่อว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดี”
เซียวอวิ๋นคง ผู้อาวุโสระดับมกุฎราชันอริยะคนหนึ่ง บนยานลมกรดเป็นคนใหญ่คนโตในหอเสียงสวรรค์เพียงคนเดียวที่อยู่ข้างจวงอวิ้นจื้อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์