บนท้องถนนพลุกพล่านจอแจ
ยานลมกรดเป็นของหอเสียงสวรรค์ สถานะผู้โดยสารต่อให้สูงส่งแค่ไหน ภายใต้สถานการณ์ทั่วไปก็ไม่กล้าก่อเรื่องบนยาน
ถึงอย่างไรตัวตนของคนใหญ่คนโตระดับกึ่งจักรพรรดิสองคนของหอเสียงสวรรค์ ก็มีประสิทธิภาพสะท้านสะเทือนอย่างที่สุด
เพียงแต่ไม่มีใครรู้ ว่าการสังหารครั้งหนึ่งได้เกิดขึ้นภายในห้องสงบฝึกปราณห้องหนึ่ง ในลานมรรคหลอมยุทธ์ที่ตัดขาดจากโลกภายนอกตั้งนานแล้ว
หอลิ้มหิมะ
ชั้นสอง ภายในห้องโอ่โถงแห่งหนึ่ง
คนกลุ่มหนึ่งกำลังร่ำสุรา แต่ละคนล้วนมาดสง่าผ่าเผย บุคลิกเหนือธรรมดา
หลงจู๊หอสุราถูกกำชับมาตั้งแต่ต้นว่าสถานะของคนกลุ่มนี้สูงส่งหาใดเปรียบ ต้องบริการด้วยสุราที่ดีที่สุด อาหารเลิศรสคุณภาพยอดที่สุด
หนำซ้ำหากไม่มีธุระสำคัญ ห้ามให้ใครมารบกวนแขกเหล่านี้
หลินสวินปรากฏตัวที่หอลิ้มหิมะ กิจการภายในหอสุรากำลังเฟื่องฟู ผู้คนพลุกพล่าน ไม่ขาดแคลนผู้ฝึกปราณอาวุโสที่อานุภาพแข็งแกร่งส่วนหนึ่ง
ทว่าตั้งแต่ต้นจนจบกลับไม่มีใครสังเกตเห็นการมีตัวตนของเขาเลย
ภายใต้การปกคลุมของไอซวนหนี เว้นแต่เป็นผู้แข็งแกร่งที่ครอบครองพรสวรรค์พิเศษ หรือไม่ก็พวกน่าสะพรึงที่ปราณสูงกว่าหลินสวินหลายโข หาไม่ย่อมไม่มีใครสัมผัสได้ถึงการคงอยู่ของหลินสวินสักนิด
นี่ก็คือการเปลี่ยนแปลงสุดอัศจรรย์ที่เกิดขึ้น หลังจากมังกรเคราะห์เก้ากระบวนแปรกับคัมภีร์เตาหลอมมหามรรคผสานเข้าด้วยกัน
มังกร เมื่อใหญ่ผาดโผนทั่ววัฏจักร เมื่อเล็กกลับหลบเร้นในความเล็กจ้อย ไร้คนล่วงรู้!
หลินสวินสาวเท้าขึ้นไปบนชั้นสองของหอสุราที่ถูกหลงจู๊สั่งห้ามคนนอกเข้าใกล้นานแล้ว ยืนอยู่หน้าห้องรับรองห้องนั้นครู่หนึ่งแล้วโบกมือวางกระบวนผนึกหนึ่งชั้น
หลังจากนั้นเขาจึงเคาะประตูห้องเบาๆ คราหนึ่ง
“ใคร เคยบอกแล้วไม่ใช่หรือ พวกข้าชุมนุมกันอยู่ ห้ามรบกวน”
ภายในห้องมีเสียงไม่สบอารมณ์สายหนึ่งดังออกมา
“เรื่องในลานมรรคหลอมยุทธ์มีบทสรุปแล้ว”
หลินสวินกล่าวเรียบเฉย
ประโยคเดียว บรรยากาศคึกคักภายในห้องรับรองพลันเงียบกริบทันควัน
หลังจากนั้นบานประตูก็ถูกเปิดออก เผยให้เห็นร่างของชายเคราโง้งคนหนึ่ง เขามองมาทางหลินสวินด้วยสายตาคลางแคลงเล็กน้อย กล่าวว่า “เป็นใครสั่งให้เจ้ามา”
“เซวี่ยเว่ยเหลิ่ง”
หลินสวินเอ่ยชื่อหนึ่งออกมา
ชื่อนี้เป็นของชายหนุ่มชุดแดงคนนั้น น่าเสียดายเขาตายไปแล้ว
แม้จะรู้สึกว่าปฏิกิริยาของหลินสวินค่อนข้างพิกล แต่สีหน้าของชายเคราโง้งก็อ่อนลงไม่น้อย กล่าวว่า “เข้ามาเถอะ ว่ามาว่าเรื่องนี้ผลลัพธ์เป็นอย่างไร”
หลินสวินเดินเข้าไปในห้องรับรอง กวาดสายตามองอีกห้าคนที่นั่งอยู่แล้วเอ่ยว่า “เซวี่ยเว่ยเหลิ่งบอกว่า เขารอพวกท่านไปรวมตัวกันใต้โลก”
“หืม?”
ชายเคราโง้งหน้าเปลี่ยนสี
เพียงแต่ไม่รอให้เขาตอบสนอง ลำคอก็ถูกมือใหญ่ของหลินสวินคว้าหมับทันควัน
เกือบจะในเวลาเดียวกัน เขตแดนมรรคที่จะเหมือนเตาหลอมก็ไม่ใช่ จะคล้ายหุบเหวก็ไม่เชิงแถบหนึ่งแผ่ออกมาจากตัวหลินสวิน ครอบทั่วทั้งห้องรับรองไว้ภายใน
เสียงตึงตังอู้อี้หาใดเปรียบสายหนึ่งดังขึ้น แต่ไม่นานก็จมหายกลับสู่ความเงียบงันอีกครั้ง
ขณะที่หลินสวินปลดเขตแดนมรรค ผู้แข็งแกร่งจากเรือนมรรคดึกดำบรรพ์หกคนที่แต่เดิมพูดคุยเคล้าเสียงหัวเราะภายในห้องรับรอง ล้วนถูกโจมตีดับอนาถ
ภายในนั้นมีมกุฎราชันอริยะหนึ่งคน ราชันอริยะสองคน มกุฎมหาอริยะสามคน ล้วนเป็นบริวารข้างกายข่งอวี้ทั้งสิ้น
ทว่าล้วนตายเกลี้ยง ซากศพไม่มีเหลือโดยไร้ข้อยกเว้น
บนโต๊ะอาหาร อาหารโอชาเลิศรสยังคงร้อนกรุ่น สุราที่กลิ่นหอมรัญจวนกระจายสี่ทิศก็เพิ่งรินเต็มจอก เพียงแต่ไม่มีคนลิ้มรสอีกแล้ว
หลินสวินหยิบน้ำเต้าเปลือกเขียวของตนออกมา แหงนหน้ายกดื่มหนึ่งคำก่อนหมุนตันเดินออกจากห้องรับรองแห่งนี้ จากนั้นค่อยเก็บกระบวนผนึกที่ปกคลุมสี่ทิศแล้วจากไปอย่างผ่าเผย
ภายในหอสุรายังคงคึกคักจอแจ เสียงผู้คนอึกทึกครึกโครม
…
หลินสวินเดินบนถนนที่พลุกพล่าน มุ่งหน้าไปยังเป้าหมายต่อไป
ก่อนหน้านี้ในห้องสงบฝึกปราณ ก่อนจะสังหารพวกชายหนุ่มชุดแดง หลินสวินเคยใช้การทรมานโหดร้าย กระชากจิตวิญญาณของคนพวกนั้นทีละส่วนมาทรมานสารพัด จนในที่สุดก็ได้รับข้อมูลที่ต้องการ
อย่างเช่นจำนวนผู้แข็งแกร่งที่ถูกข่งอวี้ส่งมาในครั้งนี้ รวมถึงพลังต่อสู้ ชื่อแซ่ รูปร่างลักษณะ ฐานะของพวกเขาเป็นต้น
ครู่ต่อมา
หลินสวินเดินออกจากหอนางโลมแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า ‘หอมกำจร’
ภายในห้องรับรองแขกสูงศักดิ์อักษร หญิงสาวงดงามกิริยาไม่ซ้ำ บุคลิกแตกต่าง สวมชุดกระโปรงผ้าโปร่งบางสิบกว่าคนกำลังร่ายระบำชดช้อยอยู่ภายในห้อง ส่วนเว้าส่วนโค้งของเรือนร่างที่เย้ายวนวับแวม
หญิงสาวงดงามเหล่านี้ล้วนมาจากโลกเล็กที่ต่างกันไป อยู่ในเผ่าต่างกัน ความงดงามและเย้ายวนที่เผยออกมาก็แตกต่างกันด้วย
ชายชุดม่วงที่เปลือยท่อนบน ท่าทางหยิ่งยโสคนหนึ่งกำลังกอดรัดหญิงนางหนึ่งร่ำสุราสนุกสนาน มือสองข้างไล้สำรวจตามเรือนร่างอรชรของนางอย่างอยู่ไม่สุข
ไม่ว่าจะเป็นหญิงสาวพวกนั้นหรือชายชุดม่วง ทุกคนล้วนไม่ได้สังเกตว่ามีเงาร่างสายหนึ่งยืนอยู่กลางห้องนานแล้ว มองด้วยสายตาเย็นชา
“ไหวจื่ออิ๋น?”
หลินสวินไม่เสียเวลา เรียกชื่อหนึ่งออกมา
“ใคร!”
ชายชุดม่วงที่กำลังสนุกสนานเพลิดเพลินร่างพลันแข็งทื่อ
สวบ!
ชั่วขณะเดียว ภายในห้องราวกับถูกหุบเหวลึกสีดำสนิทดุจราตรีนิรันดร์แผ่ครอบ
ตอนที่หลินสวินออกไป หญิงสาวงดงามต่างก็เข่าอ่อนสลบไสลเกลื่อนห้อง ไม่เห็นก็แต่ชายหนุ่มชุดม่วงคนนั้น
…
หนึ่งถ้วยชาให้หลัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์